เอเจนซีส์ - สนามบินนานาชาติ ซูการ์โน-ฮัตตา ในกรุงจาการ์ตาเริ่มเปิดใช้อาคารผู้โดยสารแห่งใหม่แล้วในวันนี้ (9 ส.ค.) ซึ่งจะช่วยบรรเทาความแออัดภายในสนามบินหลักของเมืองหลวงอินโดนีเซีย และสามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นถึง 25 ล้านคนต่อปี
อินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศหมู่เกาะใหญ่ที่สุดในโลก และมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 1 ของอาเซียน มีจำนวนผู้โดยสารเครื่องบินเพิ่มขึ้นทุกปี เนื่องจากการขยายตัวของกลุ่มชนชั้นกลางที่นิยมเดินทางทางอากาศ ขณะที่โครงสร้างพื้นฐานของประเทศยังพัฒนาไม่ทันต่อความต้องการ
สำหรับอาคาร Terminal 3 Ultimate แห่งนี้ใช้งบประมาณในการก่อสร้างราว 380 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยถูกออกแบบให้เป็นอาคารที่มีลักษณะกว้างและทันสมัย และจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 25 ล้านคนต่อปีเมื่อเปิดใช้งานอย่างเต็มรูปแบบในเดือน มี.ค.ปี 2017
อาคารผู้โดยสารเก่า 3 หลังของสนามบินซูการ์โน-ฮัตตา ต้องรองรับคนเดินทางประมาณ 60 ล้านคนต่อปี ซึ่งนับว่าเกินขีดจำกัดไปมากพอสมควร
ผู้โดยสารที่เดินทางกับเที่ยวบินในประเทศของสายการบินแห่งชาติ “การูดา อินโดนีเซีย” เริ่มประเดิมใช้อาคารผู้โดยสารใหม่ตั้งแต่เช้าตรู่ โดยในระยะแรก Terminal 3 Ultimate จะให้บริการเฉพาะเที่ยวบินในประเทศของการูดา ก่อนจะขยายบริการไปสู่เที่ยวบินระหว่างประเทศ
อารีฟ วิโบโว ผู้บริหารสายการบินการูดา กล่าวในพิธีเปิดอาคารผู้โดยสารแห่งใหม่ว่า “นี่เป็นหมุดหมายสำคัญ” ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย และบริการที่ดียิ่งขึ้นแก่ผู้โดยสาร
อีมาน สุเฮอร์มาน ผู้โดยสารชาวอินโดนีเซีย ยอมรับว่ารู้สึก “ภูมิใจ” เมื่อได้ก้าวเข้าสู่อาคารผู้โดยสารแห่งใหม่ ซึ่ง “เหนือความคาดหมายของพวกเรา”
รัฐบาลอิเหนายังมีโครงการสร้างรถไฟเชื่อมจากอาคาร Terminal 3 Ultimate สู่ใจกลางกรุงจาการ์ตาซึ่งอยู่ห่างจากสนามบินไปประมาณ 30 กิโลเมตร
ปัจจุบันยังไม่มีรถไฟเชื่อมต่อระหว่างสนามบินจาการ์ตากับย่านใจกลางเมือง ผู้โดยสารจึงเสี่ยงที่จะต้องเผชิญปัญหารถติด หากเดินทางในช่วงเวลาเร่งด่วน
พิธีเปิดอาคารผู้โดยสารแห่งใหม่ต้องล่าช้าไปกว่า 1 เดือนตามคำสั่งของรัฐบาล หลังมีการตรวจพบว่าพื้นที่สำคัญจุดหนึ่งไม่สามารถมองเห็นได้จากหอควบคุมการบิน
นอกจากโครงสร้างพื้นฐานอายุการใช้งานยาวนานแล้ว อุตสาหกรรมการบินของอินโดนีเซียยังมีประวัติด้านความปลอดภัยที่ไม่สู้ดี และเคยเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงหลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีมานี้