บลจ.ทิสโก้ชูจุดต่างทริกเกอร์ฟันด์ส่งกองทุน “ไชน่า ลิ้งค์ คอมเพล็กซ์ รีเทิร์น 5” เน้นลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้คุณภาพดี พร้อมแบ่งเงินลงทุนในออปชันหุ้นจีนเปิดโอกาสรับผลตอบแทนไม่จำกัดโดยเฉลี่ย 12 ไตรมาสภายใน 3 ปี ป้องกันความเสี่ยงตลาดขาลง IPO แล้ววันนี้-9 พ.ค. 59 ขณะที่ บลจ.กสิกรไทยยิ้มทริกเกอร์ฟันด์หุ้นไทยเข้าเป้า 5% แล้ว
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของไทย (กนง.) มีมติเป็นเอกฉันท์เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2559 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 1.5% แม้ไม่ใช่อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์เศรษฐกิจไทย แต่ต้องยอมรับว่าทำให้การบริหารเงินทำได้ยากขึ้น
อย่างไรก็ตาม จากสภาวะปัจจุบันที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ในระดับที่ต่ำมาก และยังไม่มีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นในอนาคตอันใกล้ จึงถือเป็นภาวะที่ยากลำบากของผู้มีเงินออม บลจ.ทิสโก้จึงออกกองทุนเปิด ไชน่า ลิ้งค์ คอมเพล็กซ์ รีเทิร์น 5 ซึ่งนับเป็นกองที่ 5 ในซีรีส์ “ไชน่า ลิ้งค์” เพื่อตอบโจทย์ผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝาก โดยสร้างโอกาสในการรับผลตอบแทนไม่จำกัดในกรณีหุ้นขึ้น
โดยเหตุผลที่เราเลือกออปชันที่อิงกับดัชนี HSCEI เนื่องจากเรามองว่าเศรษฐกิจจีนเริ่มมีสัญญาณบวกมากขึ้น โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนเมื่อเดือนมีนาคมปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 49.7 จุด และล่าสุดทุนสำรองระหว่างประเทศของจีนกลับมาเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน โดยเพิ่มขึ้น 1.02 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเดือนก่อนที่ลดลง 2.86 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ตลาดหุ้นจีนซึ่งปรับตัวลงมาเยอะช่วงต้นปีทำให้มี Downside จำกัด จึงมองว่าเป็นโอกาสลงทุน ทั้งนี้ คาดว่ากองทุนเปิด ไชน่า ลิ้งค์ คอมเพล็กซ์ รีเทิร์น จะได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากนักลงทุน หลังกองที่ 1 และ 2 เพิ่งจะครบอายุกองทุนไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จให้ผลตอบแทนที่ดีท่ามกลางสภาวะตลาดหุ้นที่มีความผันผวนสูงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
สำหรับกองทุนกองทุนเปิด ไชน่า ลิ้งค์ คอมเพล็กซ์ รีเทิร์น 5 มีอายุโครงการประมาณ 3 ปี เปิดซื้อขายครั้งแรก (IPO) แล้ววันนี้-9 พฤษภาคม 2559 โดยมีนโยบายแบ่งเงินลงทุนออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 95% ลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้คุณภาพดีทั้งในและต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายให้เงินส่วนนี้เติบโตเป็น 100% เมื่อครบกำหนด 3 ปี และส่วนที่เหลือประมาณ 5% จะลงทุนในออปชันที่อ้างอิงผลตอบแทนของดัชนี Hang Seng China Enterprises (HSCEI) ของตลาดหุ้นฮ่องกง โดยส่วนนี้จะสร้างผลตอบแทนเพิ่มให้แก่นักลงทุน หากดัชนีดังกล่าวปรับตัวขึ้นสูงภายในช่วง 3 ปี ผู้ลงทุนก็จะได้รับผลตอบแทนแปรผันตามการเพิ่มขึ้นของดัชนีแบบไม่จำกัดเฉลี่ย 12 ไตรมาส