บลจ.กสิกรไทยมองยุคดิจิตอลโอกาสใหม่การเติบโตของธุรกิจกองทุน แนะคนไทยวางแผนรับเกษียณ ทั้งประกันชีวิต-เงินออม เตือนอย่าหวังพึ่งแต่เงินฝากเพราะอาจเห็นดอกเบี้ยติดลบในอนาคต พร้อมลุยพัฒนาระบบหวังตอบโจทย์นักลงทุน วางแผนการเงินอย่างเหมาะสม
นายวศิน วณิชย์วรนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า การขยายฐานเอยูเอ็มของบริษัทขณะนี้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อมองลึกลงไปแล้วการแข่งขันของตลาดมีกองทุนใหม่เกิดขึ้นเยอะ แต่ไม่เหมือนการลงทุนในหุ้นที่มีนักวิเคราะห์คอยให้คำแนะนำว่าตัวไหนดีหรือไม่ดี แต่เมื่อเป็นกองทุนแล้วจะไม่มีนักวิเคราะห์มาคอยบอก ทำให้มีการพัฒนาการของตลาดเกิดขึ้น
ทั้งนี้ หากมองในแง่ของผลงานย้อนหลังจะพบว่าแต่ละบริษัทมีผลงานไม่แตกต่างกันมากนัก โดยปัจจุบันนักลงทุนมีโจทย์เพิ่มขึ้นว่าจะซื้ออย่างไรให้ถูก ซื้ออย่างไรให้เหมาะกับตนเองมากที่สุด โดยขณะนี้มี 2 ด้านที่มีการพัฒนาขึ้นมาเพื่อรองรับเรื่องดังกล่าว คือ 1. พัฒนาการของตลาด มีผู้แนะนำ และให้ข้อมูลกองทุนมากขึ้น 2. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนมีการผลักดันให้คนไทยมีเงินออมเพื่อวางแผนระยะยาว หรือรองรับการเกษียณอายุ
ส่วนการขยายตลาด บริษัทมีความพยายามเจาะลูกค้าคนรุ่นใหม่และดิจิตอลแบงก์มากขึ้น ซึ่งถ้าไปดูแบบฟอร์มของแบงก์กสิกรไทยจะพบว่ามีผู้ใช้ธนาคารบนมือถือ (K-mobile) อยู่จำนวนมาก โดยลูกค้ากลุ่มนี้จะเป็นฐานลูกค้ารายใหม่ของบริษัท และจะทำอย่างไรให้สามารถขยายเข้าไปได้ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ปานกลาง เพราะคนกลุ่มนี้มีความจำเป็นต้องวางแผนทางการเงินมากที่สุด โดยบริษัทเชื่อว่าช่องทางดิจิตอลจะสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับธุรกิจได้
“สมัยก่อนที่ดอกเบี้ยเงินฝาก 10% ซึ่งมีเงินแค่ 1 ล้านบาทก็น่าจะเกษียณได้แล้ว แต่ตอนนี้เมื่อมองไปข้างหน้าดอกเบี้ยจะต่ำมากและจะได้เห็นการใช้อัตราดอกเบี้ยติดลบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน การจะอิงกับการฝากเงินเป็นไปไม่ได้ รวมถึงแรงงานในระบบที่น้อยลง อัตราผู้สูงอายุจะมากขึ้น และงานจะถูกคอมพิวเตอร์แย่งงานมากขึ้นจึงเป็นความยากลำบากของคนที่กำลังมีอายุมากขึ้น”นายวศินกล่าว
นายวศิน กล่าวอีกว่า การลงทุนในอนาคตจะโดนแรงกดดันของตลาดกับการลงทุนที่เหมาะสมกับสังคมสูงวัย การผลักดันจากภาครัฐเพื่อการลงทุนอย่างเหมาะสมจะเป็นอย่างไร ทางบริษัทเองมีการวางแผนเพื่อทำให้กองทุนเหมาะสมกับลูกค้าและมีการแนะนำอย่างเหมาะสม
“ทางบริษัทเห็นภาพรวมแบบนี้และเชื่อว่าธุรกิจกองทุนไม่เพียงจะออกกองใหม่ๆ เพื่อนำไปขายเท่านั้น แต่จะทำอย่างไรให้ลูกค้าเลือกได้ง่ายและตอบโจทย์ให้เขามากที่สุด ซึ่งจะต้องมีความหลากหลายเอาไว้รองรับด้วยเช่นกัน ตรงนี้เป็นโจทย์ที่เราจะทำมากยิ่งๆ ขึ้นไป”นายวศินกล่าว
ทั้งนี้ นอกจากการวางแผนทางการเงินแล้ว การทำประกันชีวิตก็มีความสำคัญ เพราะเมื่อไม่มีเงินออมแล้วหากเจ็บป่วยจะทำให้มีปัญหาเรื่องค่ารักษาพยาบาล และจะไม่มีเงินชดเชยการทำงาน ซึ่งประกันน่าจะเป็นสิ่งแรกที่ควรมีมากกว่าการออมเงินด้วยซ้ำ และเมื่อมีประกันแล้วค่อยขยับมาเป็นเงินออมเพื่อในกรณีฉุกเฉิน และต่อจากนั้นค่อยมีเงินออมในส่วนของเรื่องการเกษียณอายุหรือวางแผนในระยะยาว
สำหรับการพัฒนาที่จะสามารถตอบโจทย์แก่ลูกค้าได้นั้น ขณะนี้บริษัทมีการพัฒนาด้านข้อมูลสถิติเพื่อนำมาวิเคราะห์และช่วยผู้จัดการกองทุนให้สามารถตัดสินใจได้ดีขึ้น และมีการปรับขั้นตอนต่างๆ ให้มีความถูกต้องและรวดเร็ว
ด้านที่สองคือ การทำให้โปรดักต์ที่มีทั้งหมดเข้าไปหาลูกค้าได้อย่างถูกต้อง ซึ่งต้องมีการพัฒนาวิธีการ และที่บริษัทกำลังทำอยู่คือการให้ความรู้ด้านพอร์ตการลงทุนว่าจะจัดการกระจายความเสี่ยงแบบไหน ด้วยรูปแบบที่บริษัทพัฒนาขึ้นมาจะทำให้ตัวแทนขายของเราสามารถไปนำเสนอแก่ลูกค้าได้ และจะเห็นได้ว่าบริษัทมีการบริหารอย่างเป็นระบบ
