“ชัย โสภณพนิช” ประธานกรรมการ กรุงเทพประกันภัย หรือ BKI ส่งหนังสือแสดงความเสียใจและไม่มีเจตนาในการเปิดเผยข้อมูลภายในเพื่อให้บุคคลอื่นซื้อหุ้น หลัง ก.ล.ต.ลงดาบเปรียบเทียบปรับ 5 แสนบาท
นายชัย โสภณพนิช ประธานกรรมการ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีประกาศที่คณะกรรมการเปรียบเทียบมีคำสั่งเปรียบเทียบปรับ จากการเปิดเผยข้อมูลภายในเพื่อให้บุคคลอื่นซื้อหุ้นของกรุงเทพประกันภัย (BKI) ซึ่งผลประโยชน์ที่ได้รับเมื่อนำมาพิจารณากำหนดเป็นค่าปรับแล้วมีมูลค่าไม่สูง และยังต่ำกว่ามูลค่าเปรียบเทียบปรับขั้นต่ำ ดังนั้น คณะกรรมการเปรียบเทียบจึงมีคำสั่งเปรียบเทียบปรับในจำนวนขั้นต่ำเป็นเงิน 500,000 บาท นั้น
“การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวนั้นมิได้มีเจตนาที่จะแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตนเอง หรือหาผลประโยชน์ให้แก่บุคคลอื่นใด อันเป็นการเอาเปรียบผู้ถือหุ้น ผู้ลงทุน หรือบุคคลภายนอกแต่อย่างใด แต่เกิดจากการปรึกษาหารือเรื่องการจัดการทรัพย์สินภายในครอบครัว ทำให้มีสมาชิกในครอบครัวบางคนสั่งซื้อหุ้นกรุงเทพประกันภัยเพียงเล็กน้อย ดังจะเห็นได้จากประกาศในคำสั่งเปรียบเทียบปรับ ว่าผลประโยชน์ที่ได้รับมีมูลค่าไม่สูงและต่ำกว่ามูลค่าเปรียบเทียบปรับขั้นต่ำ ซึ่งในการสั่งซื้อหุ้นดังกล่าว ผมก็ไม่ทราบและมิได้มีส่วนรู้เห็นแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ผมรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้”
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2559 ที่ผ่านมารายงานข่าวจาก ก.ล.ต.ระบุว่า คณะกรรมการเปรียบเทียบมีคำสั่งเปรียบเทียบ นายชัย โสภณพนิช กรณีเปิดเผยข้อมูลภายในเพื่อให้บุคคลอื่นซื้อหุ้น บมจ.กรุงเทพประกันภัย (BKI) เป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท
โดย ก.ล.ต.ได้รับแจ้งจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่านายชัย ขณะเกิดเหตุดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ และประธานคณะผู้บริหารของ BKI เสนอให้มีการจ่ายหุ้นปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น BKI ในอัตราส่วน 5 หุ้นเดิม ต่อ 2 หุ้นปันผล เพิ่มเติมจากการจ่ายเงินปันผลตามปกติของ BKI จากผลการดำเนินงานประจำปี 2556 ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญและจะมีผลด้านบวกต่อราคาหุ้น BKI โดยนายชัยเปิดเผยข้อมูลนี้ให้แก่บุคคลอื่นทราบ และบุคคลอื่นดังกล่าวได้ซื้อหุ้น BKI ในวันที่ 24-25 ก.พ. 57 ก่อนที่ข้อมูลดังกล่าวจะถูกเปิดเผยต่อบุคคลทั่วไปในวันที่ 28 ก.พ. 57 จึงเป็นการเอาเปรียบบุคคลภายนอก การกระทำของนายชัยจึงเป็นความผิดตามมาตรา 241 ต้องระวางโทษตามมาตรา 296 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535
ทั้งนี้ นายชัยได้รับการลงโทษทางอาญาโดยการถูกปรับ แต่เนื่องจากมูลค่าผลประโยชน์ที่นายชัยได้รับเมื่อนำมาพิจารณากำหนดเป็นค่าปรับแล้วมีมูลค่าไม่สูง และยังต่ำกว่ามูลค่าเปรียบเทียบปรับขั้นต่ำ ดังนั้น คณะกรรมการเปรียบเทียบจึงมีคำสั่งเปรียบเทียบปรับในจำนวนขั้นต่ำเป็นเงิน 500,000 บาท
นอกจากนี้ นายชัยยังเป็นกรรมการของ บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต (BLA) ซึ่งได้รับใบอนุญาตนายหน้าค้า หรือจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน (LBDU) ซึ่งเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน การกระทำข้างต้นถือเป็นลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน* นายชัยจึงไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่เป็นกรรมการของ BLA ได้เป็นเวลา 3 ปี นับแต่วันที่ 17 มีนาคม 2559 และไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่เป็นบุคลากรในตลาดทุน ทั้งผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อื่นได้ในช่วงเวลาเดียวกัน
*ข้อ 4 และข้อ 31 (2) แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทลธ. 8/2557 เรื่อง หลักเกณฑ์เกี่ยวกับบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน ลงวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2557