กรุงเทพประกันเผยผลงานปี 58 เบี้ยรับรวมลดลงร้อยละ 13 ตั้งเป้าปี 59 เบี้ยรับปีแรกโต 60% ยังเน้นด้านการวางแผนทางการเงิน พร้อมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ “บีแอลเอ เบาหวาน เทคแคร์”
นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต (BLA) เปิดเผยว่า ในปี 2558 ที่ผ่านมามีสินทรัพย์รวม 250,00 ล้านบาท มีเบี้ยประกันรับรวมลดลงร้อยละ 13 อยู่ที่ 4.4 หมื่นล้านบาท เบี้ยรับจากธุรกิจใหม่ลดลง 28% แต่มีเบี้ยประกันรับปีแรกเติบโตถึงร้อยละ 81 จากปีก่อนหน้า โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทให้ความสำคัญต่อการนำเสนอผลิตภัณฑ์สำหรับผู้สูงวัยและการคุ้มครองด้านสุขภาพมากขึ้น โดยในปี 2558 สามารถสร้างการเติบโตในช่องทางจัดจำหน่ายตัวแทน ยกระดับตัวแทนขึ้นเป็นที่ปรึกษาทางการเงินมีจำนวน 1,000 คน เพิ่มขึ้น 30% จากปีก่อนหน้า ขณะที่รายได้ในปี 2558 อยู่ที่ 56,000 ล้านบาท ลดลง 10% แต่มีกำไรอยู่ที่ 4,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55% จากในปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ในปี 2559 บริษัทตั้งเป้าหมายในการวางแผนทางการเงิน ตั้งเป้าเบี้ยปีแรกอยู่ที่ 22,000 ล้านบาท หรือเติบโต 60% โดยให้ความสำคัญต่อสินค้าประกันสุขภาพและบำนาญ และตั้งเป้าเบี้ยรับรวมในปีนี้อยู่ที่ 55,000 ล้าน หรือเติบโต 22%
“แม้ว่าในปีนี้เศรษฐกิจอาจจะชะลอตัว แต่เนื่องจากคนให้ความสนใจในเรื่องการวางแผนทางการเงินเพื่อการออมและการเกษียณ ซึ่งบริษัทมองว่าเป็นโอกาสที่ดีเพราะบริษัทได้มีความพร้อมในเรื่องสินค้าและบุคคลที่จะเน้นเจาะลูกค้าองค์กรด้วยการตลาดเชิงรุก”
นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญต่อการเสริมสร้างชีวิตที่มีความสุข ด้วยโครงการเพื่อสังคม และสร้างความสัมพันธ์กับชุมชน ครอบคลุม 6 ด้าน ได้แก่ การให้ความรู้ด้านการวางแผนทางการเงิน สนันสนุนการศึกษา ส่งเสริมสุขภาพและกีฬา การดูแลด้านสิ่งแวดล้อม การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ และการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมผ่านกิจกรรมต่างๆ ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ “บีแอลเอ เบาหวาน เทคแคร์” ครั้งแรกในไทยที่ผู้ป่วยเบาหวานมีประกันได้ คุ้มครองสูงสุดถึง 3 ล้านบาท และเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่อีกหลายตัว
สำหรับการลงทุนในปีที่ผ่านมาพอร์ตการลงทุนของบริษัทสร้างผลตอบแทนอยู่ที่ 5% มีสินทรัพย์การลงทุนอยู่ที่ 11,350 ล้านบาท มีสัดส่วนการลงทุนอยู่ในตราสารหนี้ประมาณ 80% หุ้น 6.2-6.3% กองทุนอสังหาฯ ประมาณ 4% โดยในปี 2559 ยังตั้งเป้าผลตอบแทนอยู่ที่ 5% ซึ่งในปีนี้ตราสารหนี้ให้ผลตอบแทนต่ำมาก จึงมีการกระจายลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย ทั้งหุ้น หุ้นกู้ต่างประเทศ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ
