3 หน่วยงานหลัก ตลาดหลักทรัพย์ฯ ก.ล.ต. และ บลจ. จับมือทำโครงการ “การพัฒนาการเข้าถึงกองทุนรวม” เพิ่มช่องทางให้ประชาชนเข้าถึงกองทุนรวมได้ง่ายขึ้น
ดร.ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ มุ่งส่งเสริมให้อุตสาหกรรมกองทุนรวมในประเทศพัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง โดยทำให้ประชาชนเข้าถึงกองทุนรวมได้สะดวกขึ้นและใช้กองทุนรวมที่มีให้เลือกหลากหลายประเภทเป็นเครื่องมือในการบริหารการเงินส่วนบุคคล
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกับ ก.ล.ต. และองค์กรธุรกิจในอุตสาหกรรมกองทุนรวม ซึ่งประกอบด้วยบริษัทจัดการลงทุน 10 แห่ง บริษัทนายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน 19 แห่ง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงนามความร่วมมือใน “โครงการพัฒนาการเข้าถึงกองทุนรวม” เพื่อส่งเสริมให้มีมาตรฐานในการดำเนินงานและเพิ่มช่องทางที่เข้าถึงผลิตภัณฑ์กองทุนรวม ซึ่งจะทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการทางการเงินที่มีคุณภาพและตรงความต้องการได้มากขึ้น ตลอดจนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของตลาดทุนไทยด้วย ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมให้การสนับสนุนการดำเนินงานโครงการและพร้อมพัฒนาระบบงานกลางเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ทางด้านนายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า โครงการพัฒนาช่องทางเข้าถึงกองทุนรวมนี้สอดคล้องกับนโยบายของ ก.ล.ต. ซึ่งต้องการส่งเสริมให้ประชาชนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากตลาดทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยตลาดหลักทรัพย์ฯ พัฒนาระบบงานหรือ platform เพื่อทำหน้าที่เชื่อมงานของระบบปฏิบัติการสนับสนุน (back office) เป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้ผู้ลงทุนได้รับความสะดวกในการได้รับบริการอย่างถูกต้องครบถ้วนในที่เดียวต่อไปได้
ทั้งนี้ ธุรกิจกองทุนรวมมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสูงมากถึง 17% ต่อปี การที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้พัฒนาโครงการนี้ จึงเป็นการสนับสนุนและเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ธุรกิจจัดการลงทุน ในการประหยัดต่อขนาด มีต้นทุนที่ต่ำลง และมีโอกาสต่อยอดธุรกิจในอนาคต โดยรวมถึงกองทุนสำรองเลี้ยงชีพด้วย
นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย และนายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าวว่า ปัจจุบันจำนวนบัญชีกองทุนรวมเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นจำนวน 4.83 ล้านบัญชี แต่หากเทียบกับจำนวนแรงงานทั้งในระบบกว่า 16 ล้านคน และนอกระบบกว่า 18 ล้านคนแล้วจัดว่ามีคนอีกมากที่ยังไม่ได้เข้าถึงกองทุนรวมซึ่งเป็นเครื่องมือการบริหารจัดการการเงินส่วนบุคคลที่มีความสำคัญ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่ประเทศไทยกำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงวัยในระยะเวลาอันใกล้ การพัฒนาระบบใหม่นี้จะช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์กองทุนรวมได้สะดวกขึ้น ซึ่งมีส่วนในการสร้างความมั่นคงทางการเงินของประเทศในระยะยาวตามความมุ่งหวังของแผนพัฒนาตลาดทุน
ดร.ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ มุ่งส่งเสริมให้อุตสาหกรรมกองทุนรวมในประเทศพัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง โดยทำให้ประชาชนเข้าถึงกองทุนรวมได้สะดวกขึ้นและใช้กองทุนรวมที่มีให้เลือกหลากหลายประเภทเป็นเครื่องมือในการบริหารการเงินส่วนบุคคล
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกับ ก.ล.ต. และองค์กรธุรกิจในอุตสาหกรรมกองทุนรวม ซึ่งประกอบด้วยบริษัทจัดการลงทุน 10 แห่ง บริษัทนายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน 19 แห่ง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงนามความร่วมมือใน “โครงการพัฒนาการเข้าถึงกองทุนรวม” เพื่อส่งเสริมให้มีมาตรฐานในการดำเนินงานและเพิ่มช่องทางที่เข้าถึงผลิตภัณฑ์กองทุนรวม ซึ่งจะทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการทางการเงินที่มีคุณภาพและตรงความต้องการได้มากขึ้น ตลอดจนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของตลาดทุนไทยด้วย ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมให้การสนับสนุนการดำเนินงานโครงการและพร้อมพัฒนาระบบงานกลางเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ทางด้านนายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า โครงการพัฒนาช่องทางเข้าถึงกองทุนรวมนี้สอดคล้องกับนโยบายของ ก.ล.ต. ซึ่งต้องการส่งเสริมให้ประชาชนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากตลาดทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยตลาดหลักทรัพย์ฯ พัฒนาระบบงานหรือ platform เพื่อทำหน้าที่เชื่อมงานของระบบปฏิบัติการสนับสนุน (back office) เป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้ผู้ลงทุนได้รับความสะดวกในการได้รับบริการอย่างถูกต้องครบถ้วนในที่เดียวต่อไปได้
ทั้งนี้ ธุรกิจกองทุนรวมมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสูงมากถึง 17% ต่อปี การที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้พัฒนาโครงการนี้ จึงเป็นการสนับสนุนและเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ธุรกิจจัดการลงทุน ในการประหยัดต่อขนาด มีต้นทุนที่ต่ำลง และมีโอกาสต่อยอดธุรกิจในอนาคต โดยรวมถึงกองทุนสำรองเลี้ยงชีพด้วย
นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย และนายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าวว่า ปัจจุบันจำนวนบัญชีกองทุนรวมเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นจำนวน 4.83 ล้านบัญชี แต่หากเทียบกับจำนวนแรงงานทั้งในระบบกว่า 16 ล้านคน และนอกระบบกว่า 18 ล้านคนแล้วจัดว่ามีคนอีกมากที่ยังไม่ได้เข้าถึงกองทุนรวมซึ่งเป็นเครื่องมือการบริหารจัดการการเงินส่วนบุคคลที่มีความสำคัญ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่ประเทศไทยกำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงวัยในระยะเวลาอันใกล้ การพัฒนาระบบใหม่นี้จะช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์กองทุนรวมได้สะดวกขึ้น ซึ่งมีส่วนในการสร้างความมั่นคงทางการเงินของประเทศในระยะยาวตามความมุ่งหวังของแผนพัฒนาตลาดทุน