“ก.ล.ต.” จับมือ “บลจ.” จัดทำหลักธรรมาภิบาลการลงทุนสำหรับนักลงทุนสถาบัน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้ตลาดทุน โดยเน้นให้สมาชิกของสมาคมฯ มีแนวปฏิบัติที่ดี ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง มีความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งจะส่งผลตอบแทนอย่างยั่งยืนแก่ผู้ลงทุน ขณะเดียวกัน ก็ต้องมีมาตรการป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ และมีการตัดสินใจลงทุนเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อสมาชิก และลูกค้าเป็นสำคัญ
นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า การจัดทำ “หลักธรรมาภิบาลการลงทุนสำหรับผู้ลงทุนสถาบัน” เป็นหนึ่งในแนวทางการสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ตลาดทุนไทยตามแผนยุทธศาสตร์ ประจำปี 2559-2561 ที่ต้องการส่งเสริมให้ผู้ลงทุนสถาบันมีแนวปฏิบัติที่ดี ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง มีความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งจะส่งผลตอบแทนอย่างยั่งยืนแก่ผู้ลงทุน ในขณะที่ผู้ลงทุนสถาบันที่มีมาตรการป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ มีการตัดสินใจลงทุนเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อสมาชิก และลูกค้าเป็นสำคัญก็จะได้รับการยอมรับว่าได้มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี
ทั้งนี้ คณะทำงานซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจาก ก.ล.ต. และสมาชิกของสมาคม กำลังอยู่ระหว่างพิจารณาจัดทำ “หลักธรรมาภิบาลการลงทุนสำหรับผู้ลงทุนสถาบัน” ที่จะนำมาใช้กำหนดนโยบาย และหลักปฏิบัติในการทำธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล ซึ่งรวมถึงการดูแลเงินลงทุน และการติดตามการดำเนินการของบริษัทจดทะเบียนที่เข้าลงทุน เช่น จัดทำ และเปิดเผยนโยบายการจัดการลงทุนอย่างรับผิดชอบ (Responsible Investment Policy) มีมาตรการในการจัดการความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่ชัดเจน กำหนดให้ ESG หรือการพัฒนาอย่างยั่งยืนในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ เป็นปัจจัยในการเลือกลงทุนในบริษัทจดทะเบียน
นอกจากนี้ ยังมีการติดตามการดำเนินงานของบริษัทที่ลงทุนอย่างสม่ำเสมอ และใกล้ชิดเพื่อทราบ และจัดการปัญหาได้ตั้งแต่ในระยะเริ่มต้น โดยหากพบว่าบริษัทจดทะเบียนที่เข้าลงทุนมีการดำเนินงานที่อาจมีปัญหา บริษัทจัดการก็อาจออกหนังสือขอให้บริษัทชี้แจง ขอเข้าพบกรรมการอิสระ หรือกรรมการตรวจสอบ และถ้าเห็นว่ายังเพิกเฉยก็อาจประชุมร่วมกับสมาชิกอื่นๆ ของสมาคมเพื่อซักถาม และใช้สิทธิออกเสียงในที่ประชุมผู้ถือหุ้น ตลอดจนเปิดเผยผลการใช้สิทธิออกเสียง และการดำเนินการต่างๆ ให้ลูกค้าทราบ เพื่อความโปร่งใส และแสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งในการดูแลประโยชน์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า เป็นต้น
เมื่อหลักธรรมาภิบาลแล้วเสร็จ ก.ล.ต.จะขอความร่วมมือบริษัทจัดการให้แสดงเจตนารมณ์ที่จะปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาล และเปิดเผยข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัท เพื่อให้สาธารณชนรับทราบทั่วไปในวงกว้าง และหวังให้นักลงทุนสถาบันอื่นๆ ร่วมประกาศเจตนารมณ์ที่จะปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาลนี้ และใช้เป็นปัจจัยในการเลือกบริษัทจัดการที่จะให้บริหารเงินลงทุนต่อไปด้วยเช่นกัน
นางวรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน เปิดเผยว่า บริษัทจัดการต่างเห็นพ้องร่วมกันที่จะเดินหน้าปฏิบัติตามกรอบ “หลักธรรมาภิบาลการลงทุนสำหรับผู้ลงทุนสถาบัน” ซึ่งเป็นการแสดงถึงพลังของผู้ลงทุนสถาบันที่ให้ความสำคัญต่อการทำหน้าที่ผู้จัดการกองทุนที่มีความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส และสามารถสร้างการเจริญเติบโตที่ยั่งยืนเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของผู้ลงทุน
ที่ผ่านมา บริษัทจัดการได้ให้ความสำคัญต่อจรรยาบรรณการลงทุน และมาตรฐานการประกอบวิชาชีพการจัดการลงทุนโดยเป็นส่วนหนึ่งของการประกอบธุรกิจอยู่แล้ว แต่หลักธรรมาภิบาลการลงทุนนี้จะช่วยกำหนดหลักการ และแนวปฏิบัติที่ชัดเจนขึ้นในการให้ความสำคัญต่อจริยธรรมควบคู่ไปกับผลกำไร
