xs
xsm
sm
md
lg

บลจ.วรรณชี้ตลาดหุ้นไทยยังมีเสน่ห์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บลจ.วรรณตั้งเป้า AUM ปี 59 โต 93,00 ล้านบาท แม้เดือน ม.ค. AUM จะแตะ 94,00-95,000 ล้านบาท พร้อมมองหุ้นไทยยังน่าสนใจ จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐบาล ชี้แรงซื้อจากนักลงทุนสถาบันและรายย่อยในประเทศเป็นผู้เล่นหลักของปีนี้

ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) วรรณ จำกัด กล่าวว่า สำหรับประเด็นการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2559 มีมติอนุมัติการปรับปรุงการจัดเก็บภาษีจากกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ โดยยกเลิกการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะและอากรแสตมป์ โดยกฎหมายทั้งหมดจะมีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 1 ปี นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษานั้น ทาง บลจ.วรรณอาจจะต้องรอความชัดเจนของการประกาศกฎหมายก่อนว่าจะออกมาในลักษณะใด

อย่างไรก็ตาม บลจ.วรรณมีกองทุนอสังหาฯ ประเภท 1 อยู่ทั้งสิ้น 6 กองทุน มูลค่า 9,000 ล้านบาท โดยมีแนวโน้มว่าจะนำกองทุนอสังหาฯ จำนวน 2 กองทุน มูลค่า 2,600 ล้านบาท ได้แก่ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยแลนด์ โฮสพีทาลิตี้ (TLHPF) และกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ทรัพย์ศรีไทย สมาร์ท สโตเรจ (SSTSS) เปลี่ยนเป็นกองรีสท์ในอนาคต ซึ่งหากกฎหมายเรื่องการเก็บภาษีกองอสังหาฯ มีความชัดเจนน่าจะส่งผลให้กองอสังหาฯ เปลี่ยนมาเป็นกองรีสท์มากขึ้น

ดร.วิน กล่าวต่อว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตของมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) ของปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 93,000 ล้านบาท จากสิ้นปี 2558 ที่ระดับ 82,158.04 ล้านบาท ซึ่ง ณ ปัจจุบัน AUM แตะที่ 94,00-95,000 ล้านบาท โดยเฉพาะเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาบริษัทมีอัตราการเติบโตของ AUM เพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของกองทุนส่วนบุคคล กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และกองทุนรวม ในสัดส่วน 32% 14% และ 54% จากเดิม 29% 12% 59% ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม การปรับลดลงของ AUM ของบริษัทในปีที่ผ่านมาเนื่องจากเป็นการปรับตัวลงตามทิศทางการลงทุนของตลาดหุ้นทั่วโลกที่ลดลงมากกว่า 10% และบริษัทได้เพิ่มความระมัดระวังในการเสนอขายกองทุนตราสารหนี้มากขึ้น เนื่องจากปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจโลกค่อนข้างซบเซา ประกอบกับบริษัทได้ปิดกองทุนอสังหาริมทรัพย์ประเภทกอง 2 กอง 3 และกอง 4 ลง ซึ่งเป็นการปิดกองตามกฎระเบียบ ก.ล.ต.

ขณะเดียวกัน ในปี 2558 AUM ของกองทุนส่วนบุคคลมีการปรับลดลง เนื่องจากลูกค้ามีการย้ายพอร์ตการบริหารจากกองทุนตราสารหนี้มายังกองทุนย่อยตราสารทุน ซึ่งปัจจุบันนี้บริษัทก็ได้รับการแต่งตั้งให้บริหารกองทุนย่อยตราสารทุนจากลูกค้ารายเดิมเป็นที่เรียบร้อย อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อมั่นว่าทั้งปีสัดส่วนการเติบโตของ AUM จะเป็นไปตามเป้าหมาย

ทางด้านนายมณฑล จุนชยะ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.วรรณ จำกัด กล่าวว่า ภาพการลงทุนในปีนี้ตลาดหุ้นทั่วโลกมีโอกาสผันผวนในระยะสั้นจากผลกระทบจากเศรษฐกิจจีนและราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง ขณะที่ระยะกลางถึงยาวบริษัทคงมุมมองเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะเป็นไปในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป และยังมีปัจจัยบวกจากมาตรการผ่อนคลายนโยบายการเงินเชิงปริมาณของธนาคารกลางจากประเทศเศรษฐกิจหลัก ซึ่งสนับสนุนการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง โดยตลาดหุ้นต่างประเทศที่บริษัทมองว่าน่าสนใจ ได้แก่ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นและยุโรป เนื่องจากมูลค่าหุ้นที่อยู่ในระดับไม่สูงมากนัก และปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ยังทรงตัวได้ดี และโอกาสของสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นจากการผ่อนคลายนโยบายการเงินเชิงปริมาณ ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ บริษัทมองว่าภาพการลงทุนในปีนี้โอกาสปรับตัวขึ้นจะเป็นภายใต้ขอบเขตที่จำกัดกว่าหากเทียบกับประเทศญี่ปุ่นและยุโรป เนื่องจากมูลค่าหุ้นที่สูงกว่าและผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ

สำหรับภาพการลงทุนในตลาดหุ้นไทย บริษัทตั้งเป้าดัชนีปี 2559 ที่ระดับ 1,488 จุด โดยมองว่าตลาดหุ้นไทยในปีนี้แรงซื้อที่สำคัญจะมาจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยในประเทศเป็นหลัก เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ลงทุนได้ โดยในระยะปานกลางถึงยาวบริษัทประเมินว่าตลาดหุ้นไทยจะมีแรงซื้อกลับจากนักลงทุนต่างชาติ ด้วยสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจของตลาดหุ้นทั่วโลกที่ยังมีอยู่มาก

ประกอบกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนหันกลับมาสนใจในตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง และ ณ ระดับดัชนี 1,300 จุด ซึ่งมีค่า P/E ที่ 13.09 เท่า ขณะที่คาดการณ์แนวโน้มการเติบโตของกำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 25.15% และอัตราการจ่ายปันผลของหุ้นไทยที่ระดับ 3.55%


กำลังโหลดความคิดเห็น