ศก.สหรัฐฯ-ยุโรปยังขยายตัว แนะจับตาปัจจัยเสี่ยงจากจีน

เศรษฐกิจโลกยังเติบโตได้ สหรัฐฯ ยุโรปขยายตัว ด้านตลาดเกิดใหม่ชะลอตัวสวนทางทำให้ตลาดผันผวนได้ ด้านเศรษฐกิจไทยรอมาตรการลงทุนภาครัฐกระตุ้น คาดดัชนีหุ้นไทยปีนี้ 1,432 จุด

นางสุภาพร ลีนะบรรจง รักษาการประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.กรุงศรี จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมของตลาดในปีนี้น่าจะได้อานิสงส์จากมาตรการของภาครัฐที่จะออกมาซึ่งน่าจะเห็นผลได้ในช่วงประมาณปลายไตรมาส 1-2 ได้ คาดว่าจีดีพีปีนี้อยู่ที่ 3.2% แต่ผลกระทบก็ยังคงมีมาจากประเทศจีน ขณะเดียวกัน การลงทุนในตอนนี้จะเห็นว่าเงินไหลเข้าไปที่สินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น ถ้ามีสัญญาณที่ดีต่อการลงทุนเงินก็น่าจะไหลเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น

ทั้งนี้ การส่งออกในปีนี้คาดว่าอยู่ที่ 2% และยังได้ปัจจัยเสริมจากภาคการท่องเที่ยวที่ยังเติบโตดี ขณะเดียวกันมองว่าราคาน้ำมันในปีนี้น่าจะเห็นการปรับตัวขึ้นมาบ้างหลังจากปรับตัวลดลงไปมาก มองว่าราคาน้ำมันน่าจะอยู่ที่รับ 30-40 เหรียญ และมองว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยน่าจะอยู่ที่ระดับ 1,432 จุด

นายไท หุย Managing Director, chief Market Strategist, Asia, J.P. Morgan Asset Management กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกในปีนี้ยังคงเติบโตได้อยู่แต่เป็นไปแบบช้าๆ โดยประเทศพัฒนาแล้วจะเติบโตได้ดี แต่ประเทศเกิดใหม่จะชะลอตัวลง ดังนั้นตลาดอาจเกิดความผันผวนได้ โดยสหรัฐฯ เศรษฐกิจขยายตัวได้ดี คนมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นทำให้การใช้จ่ายในประเทศขยายตัว คาดว่าจีดีพีสหรัฐฯ ปีนี้น่าจะโตที่ระดับ 2% ได้ แต่ยังต้องจับตามองการขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่ยุโรปยังเติบโตได้ สภาพเศรษฐกิจเหมือนกับสหรัฐฯ แต่มีปัจจัยเสี่ยงจากปัจจัยภายในของแต่ละประเทศ ด้านจีน ภาคการผลิตชะลอตัวลงแต่การบริโภคในประเทศช่วยให้เศรษฐกิจไม่ชะลอตัวลงแรง

“ในปีนี้ปีหน้าจะยังเจอภาวะเงินล้นโลกจากการอัดฉีดเงินของธนาคารกลางต่างๆ ที่จะออกมามากกว่าครั้งที่ผ่านมา ส่วนความเสี่ยงยังมาจากเรื่องหนี้ของประเทศเกิดใหม่ ปัญหาการเมือง และความขัดแย้งในตะวันออกกลาง และมาตรการของรัฐบาลจีน”

นายริคกี้ ทาง Associate Product Manager, Multi-Asset, Schroder Investment Management กล่าวว่า ในปี 2559 ตลาดเอเชียจะยังคงเติบโตได้อย่างช้าๆ แม้ว่าการส่งออกจะชะลอตัวลงอย่างมากและทำให้การบริโภคในเอเชียปีนี้ยังไม่มาก แต่ตลาดเอเชียยังมีความน่าสนใจเพราะตลาดเอเชียราคายังถูกมาก จึงแนะนำว่าในภาวะที่ตลาดมีความผันผวนจึงควรลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนชัดเจน เช่น หุ้นปันผล และตราสารหนี้ แต่ควรระวังในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน

นายลุค สปายอิค Pd.D. Executive Vice President and Portfolio Manager, PIMCO กล่าวว่า อย่ากังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ เพราะการขึ้นดอกเบี้ยแต่จะอยู่ในระดับต่ำต่อไป ดังนั้นการขึ้นดอกเบี้ยไม่ใช่ความเสี่ยง ปี 2016 เศรษฐกิจโลกยังโตได้แต่มีความผันผวนเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ดังนั้นการลงทุนในตราสารหนี้ยังสามารถบริหารจัดการได้ โดยตราสารที่มีอายุ 3-5 ปีน่าสนใจ ลงทุนผลตอบแทนที่อ้างอิงกับเงินเฟ้อ