xs
xsm
sm
md
lg

บลจ.กรุงไทยมองตลาดหุ้นอินเดียน่าสนใจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบจากเอเจนซีส์
บลจ.กรุงไทยประเมินหุ้นอินเดียยังน่าสนใจ หลังรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้เอื้อต่อการทำธุรกิจ ขณะที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะฟื้นตัวเต็มที่ ล่าสุดส่งกองทุน “เคแทม อินเดีย อิควิตี้ ฟันด์” ลุยแดนภารตะ

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การลงทุนในตลาดหุ้นอินเดียมีความน่าสนใจ เนื่องจากมีนโยบายการปฏิรูปภายในประเทศ มีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมการลงทุนและดึงดูดนักลงทุนทั้งภายในและภายนอกประเทศอินเดีย มีการปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้เอื้ออำนวยต่อการทำธุรกิจที่ง่ายขึ้น และการลดขั้นตอนต่างๆ เพื่อที่จะเพิ่ม productivity ส่งเสริม Digital Economy และความโปร่งใสของการบริหารงานในองค์กรต่างๆ ทั้งนี้ การปฏิรูปจะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของตลาดทุนและระบบเศรษฐกิจโดยรวมทำให้ตลาดอินเดียมีความน่าสนใจเพิ่มมากขึ้นอย่างมาก

ทั้งนี้ เศรษฐกิจของอินเดียกำลังเปลี่ยนแปลงจากสภาวะถดถอยเข้าสู่สภาวะฟื้นตัวเต็มตัว การลงทุนใหม่ๆ จะเป็นตัวช่วยในการฟื้นตัว จะเห็นได้ว่าในปี 2014 กระแสเงินไหลเข้าประเทศอินเดียมากถึง 40% ของเงินที่ไหลเข้าตลาดประเทศเกิดใหม่ทั้งหมด และในปี 2015 ยังมีการลงทุนในประเทศอินเดียอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับอัตราการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดอินเดียโดยนักลงทุนต่างชาติที่สูง น่าจะเป็นสัญญาณที่ดีของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและตลาดทุน

โดยประเทศอินเดียเป็นประเทศที่นำเข้าพลังงานเป็นอันดับสามของโลก รองจาก อเมริกา และจีน ดังนั้น ภาวะที่ราคาน้ำมันลงลดอย่างมากจะส่งผลดีต่อบริษัทต่างๆ ในภาคอุตสาหกรรม ต้นทุนการผลิตของสินค้าจะต่ำลง ส่งผลให้บริษัทต่างๆ สามารถทำกำไรได้มากขึ้น ประเทศอินเดียเป็นประเทศหนึ่งที่ดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับที่สูงเมื่อเทียบกับประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ แม้กระทั่งมีการลดดอกเบื้ยนโยบาย 25 bps เมื่อเดือนที่ผ่านมาจาก 7.5% มาอยู่ที่ 7.25% แล้วก็ตาม

ทั้งนี้จึงคาดการณ์ว่าอาจจะมีการลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอีกหลายรอบ หลังจากเริ่มเห็นผลของการปฏิรูปในด้านอื่นๆ แล้ว ซึ่งการลดดอกเบี้ยก็จะส่งผลดีต่อตลาดทุนเช่นกัน และประชากรวัยทำงานของประเทศอินเดียจะเพิ่มขึ้น 60% ภายในปี 2050 การเพิ่มขึ้นของประชากรวัยทำงานจะส่งผลให้อินเดียเป็นประเทศที่มีแรงงานมากที่สุดในภูมิภาค ประกอบกับแรงงานในอินเดียมีราคาถูก ซึ่งจะเป็นที่ดึงดูดบริษัทใหญ่มาลงทุนในอินเดีย

นางชวินดา กล่าวว่า ในช่วงที่ประเทศจีนประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ ปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิหร่านกับซาอุดีอาระเบีย และภาวะหุ้นไทยยังมีความผันผวน บลจ.กรุงไทยได้แสวงหาช่องทางการลงทุนที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ลงทุน จึงเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดเคแทม อินเดีย อิควิตี้ ฟันด์ (KT-INDIA) ช่วง IPO ในวันที่ 20-27 มกราคม 2559 เป็นกองทุนรวมที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Invesco India Equity Fund (กองทุนรวมหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม โดยกองทุนรวมหลักมีวัตถุประสงค์บริหารเงินเพื่อการเติบโตของเงินลงทุนในระยะยาว เน้นลงทุนในตราสารทุนของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของอินเดียเป็นหลัก

สำหรับผลตอบแทนของกองทุนรวมหลัก ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2558 ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 35.69% 3 ปีอยู่ที่ 24.91% และ 5 ปีอยู่ที่ 26.88% ซึ่งสูงกว่าดัชนีอ้างอิง โดยผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 24.76% 3 ปีอยู่ที่ 26.31% และ 5 ปีอยู่ที่ 21.65%

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่าย กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 79 (KTFF79) เสนอขายตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 26 มกราคม 2559 อายุ 6 เดือน มูลค่า 3,000 ล้านบาท เน้นลงทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ ประกอบด้วย MTN ที่ออกโดย Banco Latinoemericano de Comercio Exterior, S.A. MTN ที่ออกโดย Industrial and Commercial Bank of CHINA (Asia ) Ltd. เงินฝากประจำ Abu Dhabi Commercial Bank PJSC และเงินฝากประจำ Ahli Bank QSC ในสัดส่วน 95% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม ส่วนที่เหลือลงทุนในตราสารหนี้ของ บมจ.บัตรกรุงไทย ผลตอบแทนประมาณ 1.75% ต่อปี โดยบุคคลธรรมดาไม่เสียภาษี


กำลังโหลดความคิดเห็น