บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) ขายทรัพย์สินเข้ากองทรัสต์ WHART มูลค่า 4.64 พันล้านบาท โดยนำเงินที่ได้จากการขายทรัพย์สินดังกล่าวชำระหนี้เงินกู้ และนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ขณะที่ผู้จัดการกองทรัสต์ WHART ปลื้ม การเพิ่มทุนครั้งที่ 1 ได้รับการตอบรับที่ดี เตรียมเทรดหน่วยเพิ่มทุน 7 ม.ค. 59 นี้ พร้อมชูจุดเด่น WHART เป็นกองทรัสต์ประเภทคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และรองประธานกรรมการ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ให้กับกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (WHART) กล่าวว่า ภายหลังจากที่บริษัทฯ ได้มีการขายทรัพย์สินเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์เข้ากองทรัสต์ WHART ซึ่งประกอบด้วย โครงการ WHA Mega Logistics Center (ชลหารพิจิตร กม.4) โครงการ WHA Mega Logistics Center (วังน้อย 61) และโครงการ WHA Mega Logistics Center (สระบุรี) มีพื้นที่เช่าอาคารรวมประมาณ 174,913.55 ตารางเมตร และพื้นที่เช่าหลังคาประมาณ 94,856.25 ตารางเมตร บนที่ดินรวมประมาณ 184 ไร่ 3 งาน 43.9 ตารางวา ด้วยมูลค่าประมาณ 4,645 ล้านบาท โดยล่าสุดบริษัทฯ ได้โอนทรัพย์สินแล้วเสร็จตั้งแต่ช่วงปลายปี 2558 ที่ผ่านมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยบริษัทฯ ได้นำเงินที่ได้จากการขายทรัพย์สินดังกล่าวไปชำระหนี้เงินกู้ และเป็นเงินทุนหมุนเวียน ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ มีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน (Gearing Ratio) ในปี 2558 ลดลงอยู่ที่ระดับ 2.3 เท่า จาก ณ ไตรมาส 3/2558 อยู่ที่ 3.3 เท่า
“หลังจากที่ WHA ได้มีการขายทรัพย์สินเข้ากองทรัสต์ WHART ส่งผลให้บริษัทฯ ได้รับเงินโอนจากการขายทรัพย์สินดังกล่าว โดยมาจากการที่ WHART เสนอขายหน่วยเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหน่วยเดิมและนักลงทุนทั่วไป จำนวน 350.8 ล้านหน่วย ราคาเสนอขายหน่วยทรัสต์ 10 บาท ทำให้มีเม็ดเงินจากการระดมทุนดังกล่าวเข้ามาประมาณ 3,508 ล้านบาท และจากการที่ WHART ดำเนินการกู้จากสถาบันการเงินอีก1,350 ล้านบาท ส่งผลให้ WHART มีมูลค่าสินทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 4,645 ล้านบาท (หลังหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง) ในการซื้อทรัพย์สินเพิ่มจาก WHA” นางสาวจรีพรกล่าว
อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จการระดมทุนของ WHART ดังกล่าวส่งผลทำให้บริษัทฯ มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น โดยจะเห็นได้อย่างชัดเจนตั้งแต่ผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2558 เป็นต้นไป ส่วนผลดำเนินงานในงวดปี 2558 ที่บริษัทฯ จะมีรายได้เติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งบริษัทฯ ได้มีการประมาณการอัตราการเติบโตของรายได้ในปี 2558 ไว้ที่ระดับ 12,000 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2557 ที่มีรายได้อยู่ที่กว่า 5,050 ล้านบาท
ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการขายทรัพย์สินเพิ่มเข้ากองทรัสต์ WHART และรายได้ที่สามารถรับรู้จากบริษัทเหมราชพัฒนาที่ดินตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2558 อย่างไรก็ดี หากคำนึงถึงการชำระคืนเงินกู้ยืมในช่วงไตรมาส 4 ที่ผ่านมาซึ่งมีผลทำให้อัตราหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนลดลงจาก 3.3 เท่าเป็น 2.3 เท่านั้น นอกจากการขายทรัพย์สินเพิ่มเข้ากองทรัสต์ WHART ที่กล่าวมาแล้ว ยังรวมถึงกระแสเงินสดที่ได้รับจากการขายอาคารสำนักงาน เอสเจ อินฟินิท วัน บิสซิเนส คอมเพล็กซ์ และ อาคารบางนา บิสซิเนส คอมเพล็กซ์ เข้ากองทรัสต์ เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า ดับบลิวเอชเอ บิสซิเนส คอมเพล็กซ์ (WHABT) ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทฯ สามารถชำระคืนเงินกู้ได้ประมาณ 5,000 ล้านบาท ภายในไตรมาส 4 ไตรมาสเดียว และอัตราส่วนดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะลดลงอย่างต่อเนื่องจากการจำหน่ายทรัพย์สินของบริษัทเหมราช พัฒนาที่ดินในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้อีกด้วย
ด้านนายปิยะพงศ์ พินธุประภา กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ เรียลเอสเตท แมเนจเม้นท์ จำกัด (WHAREM) ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (WHART) กล่าวว่า หลังจากที่หน่วยเพิ่มทุนครั้งที่ 1 ของกองทรัสต์ WHART เพื่อเสนอขายแก่ผู้ถือหน่วยเดิมและนักลงทุนทั่วไป ในช่วงปลายปี 2558 ที่ผ่านมาได้ผลตอบรับที่ดีจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันและรายย่อยเป็นจำนวนมาก ส่วนหนึ่งเพราะกลุ่มนักลงทุนเล็งเห็นถึงศักยภาพในคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าระดับพรีเมียม ที่มีผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวโดย WHA ที่เป็นเครื่องการันตีถึงคุณภาพและศักยภาพระดับมาตรฐานสากล
นอกจากนี้ หลังจากการขายหน่วยเพิ่มทุนในครั้งนี้แล้ว ส่งผลให้ WHART มีมูลค่าสินทรัพย์รวมเพิ่มเป็นมากกว่า 9 พันล้านบาท ซึ่งขยายตัวมากกว่า 1 เท่าตัว จากเดิมที่กองทรัสต์ WHART มีมูลค่าสินทรัพย์ประมาณ 4,400 ล้านบาท จนส่งผลให้ในปัจจุบัน WHART เป็นกองทรัสต์ประเภทคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยหน่วยเพิ่มทุนครั้งที่ 1 ของกองทรัสต์ WHART จะเข้าซื้อขายในวันที่ 7 มกราคม 2559 นี้ ซึ่งการเพิ่มขนาดกองทุนและมูลค่าสินทรัพย์ครั้งนี้จะทำให้สัดส่วนสินทรัพย์ Freehold เพิ่มขึ้นเป็นเฉลี่ย 70% ซึ่งจะทำให้กองทรัสต์ WHART อัตราผลตอบแทนสูงขึ้น และมีสภาพคล่องของการซื้อขายที่สูงขึ้นอีกด้วย