บลจ.ธนชาตมองการลงทุนปี 59 ผันผวนจากปัจจัยทั้งเรื่องเศรษฐกิจจีน การขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ และราคาน้ำมัน ชี้ ASEAN CIS ไม่ง่าย โปรดักต์กองทุนต้องน่าสนใจ และขายได้บนแพลตฟอร์มที่เหมือนกัน
นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า การมองหาโอกาสการลงทุนเป็นสิ่งที่บริษัทมองหาตลอดเวลาทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในกรณีของแพลตฟอร์ม ASEAN CIS นั้นในความร่วมมือคงพยายามที่จะทำให้การขายกองทุนระหว่างประเทศทำได้ง่ายขึ้น และในอนาคตอาจจะมีประเทศอื่นในอาเซียนเข้ามาร่วมมากขึ้น ถ้าทำแล้วใช้ได้ดีจริงและมีโอกาสในการลงทุนอยู่บริษัทคงไม่ละเลยแน่นอน แต่ตรงนี้ต้องยอมรับก่อนว่าถ้ากองทุนตั้งที่ไทยแล้วขายที่ไทยได้ เวลาไปขายในประเทศเพื่อนบ้านบนแพลตฟอร์มนี้ก็ต้องขายได้เหมือนกันต้องยอมรับ ไม่ใช่พอเอาไปขายที่สิงคโปร์หรือมาเลเซียแล้วต้องไปใช้กฎระเบียบของอีกฝั่งหนึ่งอีก แบบนี้ก็จะไม่สะดวก หรือในอนาคตลาวมาร่วมด้วย กองทุนที่ขายที่ลาวได้อยู่แล้วจะมาขายไทยก็ต้องขายได้ในลักษณะเดียวกัน ถ้าทำได้แบบนี้แพลตฟอร์มนี้ก็มีโอกาสที่จะมีคนเข้ามาใช้ หากมองแล้วมีโอกาสในการลงทุนอยู่ด้วย
ทั้งนี้ ถ้ามองกันในภูมิภาคเดียวกันนี้ ถ้าไทยจะจัดตั้งกองทุนไปขายในสิงคโปร์หรือมาเลเซียก็คงต้องคิดว่าจะตั้งกองทุนอะไรไปขายที่นักลงทุนที่นั่นจะสนใจซื้อ บางทีก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้ามองในแง่ของโปรดักต์กองทุนที่สิงคโปร์มีมากมายกว่าไทยมาก คือ คงต้องมองถึงโอกาสในการลงทุนด้วยเช่นกัน ตลอดจนความน่าสนใจที่จะทำ แต่ไม่ได้บอกว่าไม่ดีแต่ประการใด แต่ในฐานะ บลจ.ก็คงต้องมองในหลายเรื่องด้วยเช่นกัน
น.ส.วิภาสิริ เกษมศุข ผู้จัดการกองทุนอาวุโส บลจ.ธนชาต จำกัด กล่าวว่า ในปี 2559 การแสวงหาผลตอบแทนจากการลงทุนจะยากขึ้นกว่าในหลายปีที่ผ่านมา ตลาดจะมีความผันผวนมากขึ้น และเป็นอีกปีที่ยากสำหรับการลงทุน ปัจจัยเสี่ยงที่ยังคงต้องเฝ้าติดตามคือทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ตลอดจนราคาน้ำมันว่าจะทรงตัวในระดับต่ำต่อเนื่องหรือไม่ ในประเทศเองความคาดหวังกับโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐจะสามารถผลักดันออกมาได้เร็วมากน้อยแค่ไหน ในเรื่องของราคาน้ำมันที่ลดลงในแง่ของผู้บริโภคเองถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ได้ใช้น้ำมันที่ถูกลง แต่ในแง่ของการลงทุนคงต้องติดตามด้วยเพราะจะกระทบไปถึงบริษัทพลังงานต่างๆ ทั่วโลกถึงความอยู่รอดของบริษัทเหล่านี้ในระยะยาว ซึ่งอาจจะกระทบตามมาถึงหลักทรัพย์ที่ออกโดยบริษัทพลังงานเหล่านี้ ซึ่งบางครั้งตลาดก็เป็นกังวลและมีการตอบสนองอะไรที่เร็วไป ทั้งที่ความจริงอาจจะไม่ได้มีอะไรแย่อย่างที่คาดก็ได้
“มองไปในปี 2559 หากราคาน้ำมันยังทรงอยู่ในระดับนี้ได้ ถ้าเทียบกับฐานในปี 2558 ที่ปรับลงมาจากที่สูงจนคนกังวลเรื่องเงินฝืดนั้น แต่ในปี 2559 ปัญหานี้คงไม่น่ากังวลแล้ว เพราะราคาน้ำมันมาจากฐานที่ต่ำแค่ปรับขึ้นมาเล็กน้อยก็ถือว่ามีการเติบโต เรื่องของเงินฝืดจึงไม่น่ากังวลแล้วสำหรับในปีนี้”
