xs
xsm
sm
md
lg

ศก.สหรัฐฯ-ยุโรป-ญี่ปุ่นปี 59 ยังดี บลจ.เมย์แบงก์ให้น้ำหนักลงทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.เมย์แบงก์ให้น้ำหนักลงทุนต่างประเทศในปีหน้า โดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัว และยุโรปกับญี่ปุ่นที่ยังมีการกระตุ้นเศรษฐกิจอีก เล็งออกกองทุน FIF เน้นลงทุนหุ้นทั่วโลก รวมทั้งกองทุนไทยในปีหน้า

นายตรีพล ภูมิวสนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะปรับตัวขึ้นไม่มาก โดยจะปรับขึ้นในเดือน ธ.ค. 2558 ไปจบที่ 0.25% และจะปรับขึ้นอีก 2 ครั้งในปี 2559 ในช่วงครึ่งแรก 1 ครั้ง และครึ่งหลังอีก 1 ครั้ง ไปจบที่ 0.75% ในปลายปี 2559

ทั้งนี้ การที่อัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ เป็นขาขึ้นแต่ทยอยปรับขึ้นจึงไม่ได้น่ากังวลและไม่ใช่ว่าจะลงทุนในตราสารหนี้ไม่ได้ โดยตราสารหนี้ที่ยังลงทุนได้ยังเป็นกลุ่มของตราสารหนี้แบบไฮยีลด์บอนด์ ซึ่งบริษัทเองยังมีความยืดหยุ่นในการปรับคลาสของกองทุนหลักในจังหวะที่กังวลต่อความเสี่ยงในอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น อาจจะปรับไปอยู่ในคลาสของกองทุนหลักที่มีอายุเฉลี่ยของตราสารหนี้ที่ลงทุนเป็นศูนย์เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากดอกเบี้ยขาขึ้นได้เช่นกัน

นายตรีพล กล่าวต่อว่า ปัจจุบันกลุ่มเมย์แบงก์ให้น้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเท่ากับตลาด (Neutral) ซึ่งยังคงต้องรอดูรูปธรรมที่จับต้องได้ของมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐต่อไปว่าจะทำได้ดีแค่ไหน โดยบริษัทยังมองว่าในปีหน้าโอกาสการลงทุนในต่างประเทศยังน่าสนใจกว่าในไทย

โดยบริษัทชอบมากสุด คือ สหรัฐฯ เพราะเศรษฐกิจมีการฟื้นตัวชัดเจน การใช้จ่ายของภาคเอกชนน่าจะปรับตัวดีขึ้นเช่นเดียวกับการขยายตัวของสินเชื่อเช่นกัน ซึ่งจะส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนปรับตัวดีขึ้น รองลงมาคือ ยุโรป จากนโยบายการเงินที่ยังผ่อนคลายเพื่อสนับสนุนการเติบโตอยู่ ส่วนญี่ปุ่นเองบริษัทให้น้ำหนักเท่ากับตลาด และให้น้ำหนักการลงทุนต่ำกว่าตลาดในตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) ถ้าจะลงทุนในตลาดนี้ต้องเลือกหุ้นลงทุน หรือเลือกประเทศที่จะลงทุน ไม่ใช่มองเป็นธีมในภาพรวม

นายตรีพล ยังกล่าวอีกว่า ในปีนี้สินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหาร (AUM) จบได้ที่ระดับ 2,000 ล้านบาท ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ส่วนในปีหน้านั้นบริษัทไม่ได้เน้นในเรื่องของเอยูเอ็มแต่มุ่งเป้าจะพลิกธุรกิจให้กลับมามีกำไรมากกว่าซึ่งเชื่อมั่นว่าจะสามารถทำได้ โดยในช่วงต้นปีหน้าบริษัทมีแผนจะออกกองทุนต่างประเทศเพิ่มอีก 1 กองทุน คือ กองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นเติบโตสูงทั่วโลก ซึ่งบริหารจัดการโดย บลจ. Baillia Gifford หนึ่งใน บลจ.ยักษ์ใหญ่ของสกอตแลนด์ มีสินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหารกว่า 140 พันล้านดอลลาร์ เฉพาะกองทุนหลักมีสินทรัพย์สุทธิประมาณ 30 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเน้นลงทุนในหุ้นที่มีนวัตกรรมทั่วโลก ซึ่งมีโอกาสเติบโตสูงในระยะยาว

นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมเปิดตัวกองทุนหุ้นในประเทศด้วย โดยจะมุ่งเน้นการลงทุนที่มาจากการคัดเลือกหุ้นที่มีศักยภาพเพื่อลงทุนในพอร์ตประมาณ 15 ตัวเท่านั้น นอกจากนี้ บริษัทเองยังอยากจะตั้งกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ด้วยเช่นกัน เพราะหลังจากรัฐบาลมีมติในการต่ออายุกองทุน LTF ออกไปอีก 3 ปี ก็หวังว่าภาครัฐจะเปิดให้ บลจ.น้องใหม่ที่ยังไม่มีกองทุน LTF ได้ออกโปรดักต์ประเภทนี้เพิ่มเติมด้วยเช่นกัน

ล่าสุดบริษัทกำลังอยู่ระหว่างเสนอขาย กองทุนเปิดเมย์แบงก์ไดนามิค โกลบอล ไฮยิลด์ (M-HY) ระหว่างวันที่ 16 พ.ย.-2 ธ.ค. 2558


กำลังโหลดความคิดเห็น