โดยคุณศึกษา รัศมีประภา CFP
สมาคมนักวางแผนการเงินไทย
แค่อ่านหัวข้อเรื่องก็ทำให้ผมต้องนิ่งเล็กน้อย และคิดว่าการลงทุนให้ชนะตลาดนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ขนาดผู้จัดการกองทุนที่ได้ชื่อว่าเป็นมืออาชีพที่สุด ในแต่ละปียังมีไม่ถึงครึ่งที่สามารถชนะตลาดได้ แต่คิดอีกทีเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ จากประสบการณ์ที่ผ่าน ผมขอสรุปหลักการลงทุนที่ทำให้ชนะตลาดออกเป็น 3 ข้อ ดังต่อไปนี้
1.การลงทุนต้องมีแผนการลงทุน (Investment Plan) แผนการลงทุนที่ดี จะนำมาซึ่งวิธีการลงทุนเพื่อเอาชนะตลาดได้ ก่อนที่เราจะวางแผนการลงทุน เราต้องรู้เราเป็นนักลงทุนประเภทใด นักเก็งกำไร (Speculator) หรือนักลงทุนเชิงมูลค่า (Value Investor) ซึ่งนักลงทุนทั้ง 2 ประเภท มีแผนการลงทุนที่ต่างกัน นักลงทุนแบบเก็งกำไรต้องทำการศึกษาเครื่องมือทางเทคนิคต่างๆ ให้ชำนาญ เช่น RSI, MACD, EMA, Price pattern เป็นต้น
สัญญาณแบบใดที่แสดงสัญญาณซื้อ แบบใดที่บอกว่าต้องขาย เครื่องมือใดที่จะใช้เป็นเครื่องมือหลักในการตัดสินใจ สำหรับนักเก็งกำไรนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การอ่านสัญญาณ หาจังวะในการลงทุนให้ถูกต้อง ส่วนนักลงทุนเชิงมูลค่า หรือที่เรียกกันว่า นักลงทุนแบบวีไอนั้น ต้องศึกษาการอ่านงบการเงิน ทำความเข้าใจในแต่ละอุตสาหกรรมที่ลงทุน และสามารถคาดการณ์อนาคตได้ นักลงทุนแบบวีไอ จะใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเลือกหุ้นเพราะถ้าเลือกหุ้นถูกก็สามารถชนะตลาดได้
ขอยกตัวอย่างแผนการลงทุนที่ผมใช้เป็นประจำ คือ การเข้าซื้อหุ้นในช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม โดยเลือกลงทุนในหุ้นที่คาดว่าน่าจะสามารถจ่ายปันผลได้เกิน 7% เมื่อเทียบกับราคาปัจจุบัน หนึ่งในหุ้นที่ผมเลือกก็คือ Thani หุ้นตัวนี้กำไรต่อหุ้นเติบโตลดลงปีต่อปี เนื่องจากธุรกิจเน้นปล่อยกู้ซื้อรถบรรทุก ดูแล้วก็เป็นหุ้นที่ตลาดไม่มีใครสนใจ แต่เมื่อมาดูกำไรต่อหุ้น 3 ไตรมาสอยู่ที่ 0.28 บ ผมคาดว่าจบปีน่าจะไม่ต่ำกว่า 0.40 บาท บริษัทจะจ่ายปันผลขั้นต่ำ 50% แต่บริษัทนี้จ่ายจริงสูงกว่านั้นมาก ผมจึงคาดว่าน่าจะจ่ายที่ 0.30 บาท ราคาขณะนั้นคือ 3.6 บาท คิดเป็น 8.3% ผมจึงทำการลงทุนในหุ้นตัวนี้ และจะขายเมื่อข่าวออกว่าจ่ายปันผลเท่าใด ด้วยแผนการลงทุนแบบนี้ผมสามารถทำกำไรได้สูงกว่า 10% ทุกปีในเวลาแค่ 4 เดือน
2.เมื่อเรามีแผนการลงทุนที่ดีแล้ว เราต้องมีวินัย รู้จักอดทน เพื่อที่จะปฏิบัติตามแผนการลงทุนที่ได้วางไว้ เช่น นักเก็งกำไร ตั้งจุด cut loss ที่ 5% พอหุ้นตกลงมาจริง กลับบอกว่า เงินเย็นถือได้ หรือนักลงทุนแบบวีไอ คาดการณ์แล้วว่าหุ้นตัวนี้ถูกมาก ราคาน่าจะปรับขึ้นได้อีกอย่างน้อย 100% แต่พอราคาขึ้นมา 10% ก็ขาย ผมเชื่อเลยว่าถ้าคุณทำแบบนี้ คุณไม่มีทางเลยที่จะลงทุนชนะตลาด ดังนั้น การมีวินัย รู้จักอดทนรอเวลาที่เหมาะสม และปฏิบัติตามแผนการลงทุนที่ได้สร้างไว้จึงเป็นหัวใจอีกข้อในการลงทุนให้ชนะตลาดได้
3.อย่าฟังเสียงรอบข้าง อย่าฟังเสียงรอบข้าง และขอย้ำอีกครั้งว่า อย่าฟังเสียงรอบข้าง จงมั่นใจและปฏิบัติตามแผนการลงทุนที่เราได้สร้างขึ้น เสียงรอบข้างระหว่างการลงทุนที่ผมหมายถึง คือ ข่าวลือว่าหุ้นตัวนี้จะไป 5 บาท ตัวนั้นจะ tender ที่ 100 บาท ข่าวจากโบรกฯ นั้นว่าจะปั่นตัวนี้ไป 10 บาท มาร์บอกว่าเสี่ยจะปั่นหุ้นตัวนั้นไป 20 บาท เพื่อนบอกว่าหุ้นตัวนี้ปรับเป้าหมายใหม่เป็น 30 บาทเห็นแน่นอน หรือเจ้าของบอกมาเลยว่าหุ้นเค้าต้อง 80 บาท จ้างเสี่ยมาปั่นแล้ว เสียงรอบข้างเหล่านี้จะเข้ามารบกวนเราตลอดเวลาลงทุน เราต้องเชื่อมั่นว่าแผนการลงทุนที่สร้างขึ้นดีแล้ว และปฏิบัติตาม
ถ้าคุณปฏิบัติตามหลักการลงทุนทั้ง 3 ข้อเป็นอย่างดีแล้ว ก็ยังลงทุนแพ้ตลาดมาตลอดหลายปี ผมแนะนำว่า ถ้าลงทุนด้วยตนเองแล้วยังแพ้ตลาดเราสามารถหามืออาชีพมาทำงานนี้แทนก็ได้ ปัจจุบันนี้มีกองทุนรวมให้เลือกมากมาย ทั้งชนะ ทั้งแพ้ หรือที่ง่ายที่สุด คือ อิงผลตอบแทนไปกับตลาดซึ่งก็เป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน ท้ายนี้ผมขอให้ทุกท่านโชคดีในการลงทุนครับ