โดย วสุ ศรีธิมาสถาพร
กองทุนบัวหลวง
Current view in Asia
ในเดือนสิงหาคม ดัชนีตลาดหุ้นเอเชียผันผวนจากความกังวลเศรษฐกิจจีนชะลอตัว อันจะส่งผลต่อประเทศรอบตัวจีนที่พึ่งพิงรายได้จากการส่งออกมาจีนได้น้อยลง ยอดการขายสุทธิในตลาดเอเชียจากนักลงทุนต่างประเทศ รวมถึงการปรับลดลงของราคาหุ้นในเอเชีย ทำให้ ณ ปัจจุบันตลาดหุ้นเอเชียมีระดับราคาเทียบกับมูลค่าทางบัญชี (P/B) ที่ต่ำ โดยซื้อขาย ณ ระดับราคา P/B ที่ใกล้เคียง 1 เท่า เทียบเคียงกับช่วงเกิดวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2008 เนื่องจากมีความกังวลว่าผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) จะปรับลดลง ราคาที่แสนจะถูกของหุ้นเอเชียเกิดจากอะไรล่ะ!!
เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น?
ถ้ามาดูบริษัทจดทะเบียนในเอเชียทั้งในเชิงคุณภาพและมูลค่าจะพบว่า บริษัท (ไม่รวมภาคการเงินและสาธารณูปโภค) ในเอเชียที่ผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ของบริษัทตั้งแต่ปี 2003 มีกำไรจากการดำเนินงานที่ค่อนข้างจะทรงตัว โดยมียอดขายเติบโตกว่า 10% แต่ในระยะหลังเช่นปี 2013-2015 เป็นช่วงที่ยอดขายลดลง ประกอบกับบริษัทเอเชียมีการลงทุนลดลง การปรับตัวลดลงของการขยายตัวด้านการผลิตที่ยังไม่กลับมา โดยเฉพาะในปี 2015 ก็เลยทำให้ผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ลดลง ดังนั้นความกังวลของเอเชียจึงเป็นเรื่องของการเติบโต
ยักษ์ใหญ่อย่างจีนก็ยังมีดีนะ!
จากตารางด้านซ้าย พบว่าบริษัทจีนที่จดทะเบียนในฮ่องกง หรือที่เรียกว่า China H-Shares มีรายได้ใน 2Q 2015 ใกล้เคียงกับที่นักลงทุนคาดการณ์ กล่าวคือ มีจำนวน 46 บริษัทที่ประกาศรายได้สูงกว่าคาดการณ์ (คิดเป็นสัดส่วน 45 เปอร์เซ็นต์) และมีจำนวน 56 บริษัทที่ประกาศรายได้ต่ำกว่าคาดการณ์ (คิดเป็นสัดส่วน 55 เปอร์เซ็นต์) แต่หากพิจารณาจากมูลค่าตลาดแล้วถือว่าต่ำกว่าที่ตลาดคาดคือ -2 เปอร์เซ็นต์ และสำหรับกำไรสุทธิในตารางด้านขวา ถือว่าบริษัทจีนที่จดทะเบียนในฮ่องกงมีกำไรต่อหุ้นสูงกว่าที่คาดการณ์ +6 เปอร์เซ็นต์
แม้ตลาดหุ้นจีนที่เคยปรับตัวขึ้นสูงถึง 160% ระหว่างเดือนมิถุนายน 2014 ถึงเดือนมิถุนายน 2015 และปรับตัวลดลงกว่า 50% จากจุดสูงสุดในเดือนมิถุนายน 2015 ถึงสิงหาคม 2015 จากการที่นักลงทุนส่วนใหญ่กว่า 70% เป็นนักลงทุนรายย่อย รวมถึงมีการลงทุนด้วยการกู้ยืมเงิน หรือที่เรียกว่ามาร์จิ้นสูงถึง 7% ของมูลค่าตลาดในปี 2015 เทียบกับ 1% ในปี 2012 ผลของความกังวลของนักลงทุนด้านการเติบโตที่อาจไม่เห็นสูงเหมือนในอดีตอีก ทำให้หุ้นเกิดการคอเรกชั่น จนทำให้ปัจจุบันหุ้นจีนมีราคาที่ถูกลง โดยอัตราส่วนของราคาต่อกำไรสุทธิ (PE) ของหุ้นจีนที่จดทะเบียนในฮ่องกง (H-Shares) ซื้อขายที่ระดับ Forward PE เพียง 6 เท่า และมีอัตราการจ่ายเงินปันผลสูงถึง 5%
จากมุมมองด้านมหภาค ประเทศจีนกำลังอยู่ในช่วงของการปรับสมดุลทางเศรษฐกิจใหม่ให้ตัวเอง โดยหันมาพึ่งพิงการลงทุนรวมถึงส่งออกให้น้อยลง และหันมาเน้นการบริโภคภายในประเทศมาตั้งแต่ปี 2007 การปรับสมดุลเศรษฐกิจใหม่ครั้งนี้จะมีทั้งผู้ที่ได้ประโยชน์ (ภาคเทคโนโลยี) และเสียประโยชน์ (ภาคอุตสาหกรรมผลิต) เป็นต้น