xs
xsm
sm
md
lg

ดาวโจนส์พุ่งรับคาดการณ์จีนกระตุ้นศก. ทองคำ-น้ำมันปิดลบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดทะยานขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 ก.ย.) หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการเนื่องในวันแรงงานเมื่อวันจันทร์ ตลาดได้ดีดตัวขึ้นขานรับตลาดหุ้นจีนที่ปิดพุ่งขึ้นเมื่อวานนี้ เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อ หลังจากราคาร่วงลงอย่างหนักในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ตลาดมีมุมมองบวกว่า ทางการจีนจะใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อสร้างเสถียรภาพแก่เศรษฐกิจและตลาดหุ้นในประเทศ

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 8 ก.ย. ในแดนบวก โดยดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 390.30 จุด หรือ 2.42% ปิดที่ 16,492.68 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี500 เพิ่มขึ้น 48.19 จุด หรือ 2.51% ปิดที่ 1,969.41 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กเพิ่มขึ้น 128.01 จุด หรือ 2.73% ปิดที่ 4,811.93 จุด

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ทางการจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศที่อ่อนแอในเดือนส.ค. โดยสำนักงานศุลกากรจีนเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า การค้าต่างประเทศของจีนในเดือนส.ค.ปรับตัวลง 9.7% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 2.04 ล้านล้านหยวน (3.208 แสนล้านดอลลาร์) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงมากขึ้นหลังจากที่หดตัว 8.8% ในเดือนก.ค.

ส่วนการส่งออกในเดือนส.ค.ลดลง 6.1% เทียบรายปี แตะ 1.2 ล้านล้านหยวน หลังจากร่วงลง 8.9% ในเดือนก.ค. ขณะที่การนำเข้าในเดือนส.ค.ร่วงลง 14.3% มาอยู่ที่ 8.361 แสนล้านหยวน หลังจากลดลง 8.6% ในเดือนก.ค.

นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีมุมองบวกเกี่ยวกับภาวะตลาดหุ้นจีน หลังจากที่มีข่าวว่าคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) เตรียมที่จะเดินหน้าการปฏิรูป ปรับปรุงกรอบการทำงานด้านกฎหมาย และยกระดับการกำกับดูแลตลาด โดยอาจจะใช้กลไกต่างๆ เช่น ระบบ circuit breaker สำหรับดัชนีหุ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผันผวนอย่างผิดปกติ

ทางด้านสภาแห่งรัฐหรือคณะรัฐมนตรีของจีน ได้มีออกคำสั่งเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ว่า นักลงทุนที่ถือหุ้นระยะยาวจะได้รับการผ่อนปรนสำหรับการเก็บภาษีเงินปันผลและโบนัส โดยมาตรการดังกล่าวมีขึ้นเพื่อสนับสนุนให้นักลงทุนถือครองหุ้นในระยะยาว แทนที่จะเก็งกำไรระยะสั้น

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่ไม่บ่งชี้ทิศทางชัดเจน โดยนักลงทุนต่างก็จับตาการประชุมนโยบายการเงินครั้งต่อไปของเฟดที่มีกำหนดจัดขึ้นในสัปดาห์หน้า เพื่อประเมินความชัดเจนเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ย

ด้านสัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดลดลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (8 ก.ย.) ขณะที่นักลงทุนหันมาให้ความสนใจกับการทะยานขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐ ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประชุมกำหนดนโยบายการเงินในสัปดาห์หน้า

สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ - COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดลบ 40 เซนต์ ที่ 1,121.0 ดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองปิดในแดนลบ ขณะที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังจากช่วงวันหยุดยาวเนื่องในวันแรงงาน เนื่องจากตลาดมีมุมมองบวกว่าทางการจีนจะใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อสร้างเสถียรภาพแก่เศรษฐกิจและตลาดหุ้นในประเทศ

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยกำหนดทิศทางของราคาทอง

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (8 ก.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันจำนวนมากในตลาดโลก ตลอดจนภาวะเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลการค้าที่ย่ำแย่

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนต.ค.ปิดลดลง 11 เซนต์ แตะที่ 45.94 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน ปิดพุ่งขึ้น 1.89 ดอลลาร์ ที่ 49.52 ดอลลาร์/บาร์เรล

ความกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจของจีนยังคงเป็นปัจจัยที่กดดันราคาน้ำมัน ในขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า นอกเหนือจากความวิตกเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนแล้ว ตลาดยังกังวลเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันจำนวนมากในตลาดโลก และสถานการณ์จะเลวร้ายมากขึ้นหากปริมาณน้ำมันจากอิหร่านหลั่งไหลเข้าสู่ตลาดโลกอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันปิดปรับตัวลงไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนมีมุมมองบวกว่าทางการจีนจะออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและตลาดหุ้นภายในประเทศ ขณะที่มีแรงหนุนจากตลาดหุ้นสหรัฐและจีนที่ปิดตลาดทะยานขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น