คปภ.คาดเบี้ยรับรวมทั้งปี 58 โต 737,323 ล้านบาท คิดเป็น 4.73% หลังมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐลงสู่ผู้มีรายได้น้อย ดันธุรกิจประกันภัยในครึ่งปีหลังขยายตัว พร้อมมอบรางวัล ประกันภัยดีเด่น ปี 2558
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การประกันภัยเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยสร้างหลักประกันความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่ประชาชน รวมถึงเป็นแหล่งระดมเงินทุนที่สำคัญในการพัฒนาตลาดทุนของประเทศ โดยข้อมูล ณ ไตรมาส 2 วันที่ 30 มิถุนายน 2558 ธุรกิจประกันภัยมีสินทรัพย์ลงทุนมากกว่า 2.32 ล้านล้านบาท มีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงรวมทั้งสิ้น 363,590 ล้านบาท ซึ่งตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้มีการปรับเปลี่ยนฐานของการจัดทำผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศรายไตรมาส เป็นแบบปริมาณลูกโซ่ (Chain Volume Measures) ส่งผลให้ธุรกิจประกันภัยมีสัดส่วนเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศอยู่ที่ร้อยละ 7.64 นับว่าธุรกิจประกันภัยเป็นสถาบันการเงินประเภทหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่สังคม และระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่า ในปี 2558 สำนักงาน คปภ. และภาคอุตสาหกรรมประกันภัยได้พัฒนารูปแบบกรมธรรม์ประกันภัยที่หลากหลายเหมาะสมกับประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย เช่น การพัฒนากรมธรรม์ประกันภัยข้าวนาปี ปี 2558 เป็นกรมธรรม์ที่จัดทำขึ้นเพื่อรองรับนโยบายของรัฐบาล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ระบบประกันภัยเป็นเครื่องมือช่วยบริหารจัดการความเสี่ยงภัยธรรมชาติแก่เกษตรกรผู้เพาะปลูกข้าว มีเกษตรกรให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการเป็นอย่างมาก จากเดิมที่กำหนดพื้นที่ประกันภัยไว้ 1.5 ล้านไร่ ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกร รัฐบาลจึงเห็นชอบขยายพื้นที่การรับประกันภัยเพิ่มเติมอีก 5 แสนไร่รวมเป็น 2 ล้านไร่ทั่วประเทศ จากที่ผ่านมาโครงการนี้สามารถช่วยรัฐประหยัดงบประมาณในการชดเชยได้ปีละสูงถึง 3 หมื่นล้านบาท รวมทั้งการพัฒนากรมธรรม์ประกันภัยรายย่อย (Micro Insurance) เป็นกรมธรรม์ที่พัฒนาสำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อยให้สามารถเข้าถึงระบบการประกันภัยได้มากขึ้น
โดยเริ่มจากโครงการประกันภัย 200 ซึ่งเป็นกรมธรรม์ที่มีราคาไม่สูง คิดเบี้ยประกันภัย 200 บาทต่อปี เงื่อนไขกรมธรรม์เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน ผ่านช่องทางการจำหน่ายที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย และบูรณาการต่อเนื่องจนมีผลิตภัณฑ์ประกันภัยรายย่อยรวม 11 ประเภท ในปี 2557 มียอดจำหน่ายมากกว่า 8 แสนกรมธรรม์ สำหรับปี 2558 ณ เดือนมิถุนายนมียอดจำหน่ายมากกว่า 5 แสนกรมธรรม์ และมีเป้าหมาย 1 ล้านกรมธรรม์ในปีนี้ ขณะเดียวกันได้พัฒนารูปแบบกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ปัจจุบัน และการพัฒนากฎหมายด้านการประกันภัย เพื่อพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่จะมาถึงในปีนี้
สำหรับข้อมูลรอบ 6 เดือนแรกของปี 2558 ธุรกิจประกันภัยมีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงรวมทั้งสิ้น 363,590 ล้านบาท ซึ่งขยายตัวจากระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 2.25 และมีสัดส่วนเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงทั้งระบบต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศอยู่ที่ร้อยละ 7.64 จากตัวเลขการเติบโตของธุรกิจประกันภัยในครึ่งปีแรกดังกล่าวจึงคาดการณ์ว่าธุรกิจประกันภัยจะมีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงรวมทั้งสิ้น 737,323 ล้านบาท ซึ่งขยายตัวร้อยละ 4.73 ในสิ้นปี 2558 อันเป็นผลจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของนโยบายรัฐบาลที่จะอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบโดยตรงและเน้นกลุ่มผู้มีรายได้น้อย โดยเฉพาะประชาชนในภาคเกษตรกรรม มีส่วนช่วยให้กำลังซื้อในประเทศปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมของธุรกิจประกันภัยในครึ่งปีหลังสามารถขยายตัวได้
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จัดพิธีมอบรางวัลประกันภัยดีเด่นครบวงจร (Prime Minister’s Insurance Awards) ประจำปี 2558 ภูมิภาค ซึ่งในปีนี้จะเป็นการมอบรางวัลที่เป็นผลงานของปี 2557 โดยมีผู้ได้รับรางวัลทั้งสิ้นรวม 11 ประเภท จำนวน 58 รางวัล เช่น บริษัทประกันภัยดีเด่น ตัวแทน นายหน้าประกันภัยคุณภาพดีเด่น อาสาสมัครประกันภัยดีเด่น และยุวชนประกันภัยดีเด่น เป็นต้น