xs
xsm
sm
md
lg

คปภ.ห่วง บ.ประกันกลาง-เล็ก เล็งเพิ่มเงินกองทุนฯ รับมือเปิด AEC

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คปภ.เล็งเพิ่มเงินกองทุนบริษัทประกันฯรับมือเปิดเสรีอาเซียน เผยห่วงบริษัทขนาดกลางและเล็ก พร้อมรับมือการเพิ่มรวมกิจการและการเพิ่มสัดส่วนของผู้ถือหุ้นต่างชาติ

นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบการธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่า หลังจากได้มอบนโยบายให้สมาคมวินาศภัยไทย และผู้บริหารระดับสูงของบริษัทประกันวินาศภัย โดยเน้นมาตรการกำหนดจำนวนเงินกองทุนขั้นต่ำ การดำรงเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยงระยะที่ 2 และการส่งเสริมให้บริษัทประกันภัยเข้าไปลงทุนในต่างประเทศ

ทั้งนี้ ธุรกิจประกันภัยมีลักษณะ Capital-intensive ใช้เงินทุนในการดำเนินกิจการเป็นจำนวนสูง ดังนั้นเงินกองทุนซึ่งเป็นส่วนของผู้ถือหุ้นถือได้ว่ามีความสำคัญมากในการรองรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน รวมถึงการขยายการรับประกันภัยเพิ่มเติมในอนาคต โดยบริษัทประกันภัยที่จะเติบโตได้อย่างยั่งยืนจะต้องมีเงินกองทุนมากเพียงพอที่จะพัฒนาศักยภาพในการแข่งขัน

อย่างไรก็ตาม การศึกษาเปรียบเทียบกับธุรกิจประกันภัยในภูมิภาคอาเซียนพบว่า แม้ว่าธุรกิจประกันภัยไทยมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก แต่ธุรกิจประกันภัยไทยมีบริษัทขนาดเล็กเป็นจำนวนมากและมีศักยภาพในการแข่งขันที่ไม่เพียงพอ จึงอาจเป็นอุปสรรคต่อการเจริญเติบโตอย่างมีเสถียรภาพและลดทอนความสามรถในการแข่งขันกับบริษัทประกันภัยในภูมิภาคอาเซียน

นายประเวชกล่าวด้วยว่า สำนักงาน คปภ.ได้กำหนดมาตรการเพิ่มระดับเงินกองทุนขั้นต่ำของบริษัทประกันภัยอย่างเป็นขั้นตอน โดยกำหนดเงินกองทุนบริษัทประกันชีวิตภายในระยะเวลา 3 ปีอยู่ที่ 500 ล้านบาท และภายใน 5 ปีอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท ส่วนเงินกองทุนบริษัทประกันวินาศภัยจากเดิมอยู่ที่ 30 ล้านบาท โดยเราจะขยับจากวันที่ประกาศให้ใช้แผนการเพิ่มทุนภายใน 1 ปีอยู่ที่ 100 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 3 ปี เท่ากับ 300 ล้านบาท และภายในระยะเวลา 5 ปี เท่ากับ 500 ล้านบาท สำหรับเงินกองทุนบริษัทประกันสุขภาพภายในระยะเวลา 3 ปีเท่ากับ 100 ล้านบาท

“คปภ.เองได้เตรียมมาตรการรองรับผลกระทบเพื่อผลักดันให้บริษัทสามารถเพิ่มเงินกองทุนขั้นต่ำ เช่น การควบรวมกิจการ การเพิ่มสัดส่วนผู้ถือหุ้นต่างชาติ และการเพิ่มทางเลือกในการระดมทุนผ่านการออกตราสารทางการเงิน โดยหลังจากนี้ คปภ.เตรียมยกร่างประกาศในไตรมาสที่ 4 และแผนดังกล่าวจะเริ่มใช้หลังจากประกาศครบ 1 ปี” นายประเวชกล่าว

นายอานนท์ วังวสุ นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวว่า ประเด็นการเพิ่มเงินในกองทุนนั้นเราได้มีการพูดคุยกันในสมาคมฯ โดยบริษัทขนาดเล็กก็พร้อมที่จะเพิ่มเติมเงินกองทุนแต่อาจจะต้องขอเวลาและขอการปรับเพิ่มเงินกองทุนแบบขั้นบันได รวมถึงการหาผู้ร่วมทุน การปรับแผนธุรกิจ และการแปลงกำไรสะสมเป็นทุน เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีการหารือร่วมกันภายในสมาคมฯ เรื่องการบริหารต้นทุนค่าใช้จ่ายของธุรกิจประกาศวินาศภัย โดยเฉพาะเรื่องกรมธรรม์ประกันภัยผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Policy) เพราะจากการรวบรวมสถิติข้อมูลจำนวนกรมธรรม์ประกันภัย ซึ่งปัจจุบันกรมธรรม์ประกันภัยประมาณ 52 ล้านฉบับ และคาดการณ์ว่าจะมีการเติบโตถึง 160-200 ล้านฉบับในอีก 10 ปีข้างหน้า รวมถึงยอดขายกรมธรรม์ประกันภัยผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ที่มียอดขายประมาณ 68 ล้านบาท มีการขยายตัวเป็น 880 ล้านบาท เติบโตขึ้นประมาณ 1,000%

“การออกกรมธรรม์ประกันภัยหรือหลักฐานการรับประกันภัยนั้น ธุรกิจประกันภัยควรที่จะมีการปรับตัวเพื่อให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่ได้มีการพัฒนาให้ทันสมัยเพิ่มขึ้น และยังเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในการออกเอกสาร รวมถึงผู้เอาประกันภัยก็ได้รับความรวดเร็วในการรับบริการ” นายอานนท์กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น