ตลาดหลักทรัพย์ฯ สมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) และ 15 บลจ. ภายใต้โครงการให้เงินทำงานผ่านกองทุนรวม จัด “ตลาดนัดกองทุนรวม: Mutual Fund Fair” 14-15 ส.ค.นี้ ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ชวนผู้ลงทุนทุกวัย ทยอยสะสมกองทุนรวม LTF-RMF และเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนและความมั่งคั่งระยะยาวด้วยกองทุนรวมหุ้น
ทั้งนี้ ภายในงานจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ให้เงินทำงาน ผ่านกองทุนรวมหุ้น” และ “Buy Now LTF!” พบกับบริการวางแผนลงทุนในกองทุนรวมกว่า 1,500 กองทุน โดยเฉพาะกองทุนรวมหุ้น และ LTF จาก 15 บลจ. ชั้นนำ workshop แนะวิธีดูผลการดำเนินแบบเจาะลึกและบริการคำนวณสิทธิประโยชน์ทางภาษีด้วยเกณฑ์ใหม่ล่าสุด พร้อมจัดสัมมนาเข้มข้นตลอด 2 วันเต็มจากผู้บริหาร บลจ. นักวางแผนการเงินและต้นแบบผู้ลงทุน อาทิ หัวข้อ “มองเศรษฐกิจ จับทิศลงทุนหุ้น - กองทุนรวม” “กองทุนรวมน่าเล่น: เทศ-ไทย/ ใหญ่-เล็ก/ หา Sector เด่น” “เทคนิคลงทุน หุ้น VS กองทุนรวม ให้ปลอดภัย กำไรได้ยามผันผวน” และสัมมนาพิเศษสำหรับมนุษย์เงินเดือนวัยทำงาน เช่น “สร้างเงินล้านรับเกษียณยิ้ม ด้วยกองทุนรวม” และ “เคล็ดลับลงทุน หุ้น-กองทุน-ภาษี สำหรับมนุษย์เงินเดือน”
นอกจากนี้ยังชวนมือใหม่วัยทำงานทยอยลงทุนสะสมสม่ำเสมอแบบ DCA เริ่มต้นเพียง 1,000 บาทก็ลงทุนได้ รับคู่มือลงทุน อาทิ “โผกองทุนรวมหุ้นที่เหมาะกับผู้ลงทุนแต่ละวัยและมือใหม่หัดลงทุน” และ “หนังสือซีรีส์ชุดกองทุนรวม” และรับโปรโมชั่นเมื่อลงทุนในงาน พบกันวันศุกร์ที่ 14 และเสาร์ที่ 15 สิงหาคมนี้ เวลา 10.00-17.00 น. ณ อาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ ข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.thaimutualfundnews.com หรือ SET Contact Center 0 2229 2222
ด้าน นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า “ปัจจุบันผู้ลงทุนให้ความสนใจลงทุนในกองทุนรวมหุ้นผ่าน บลจ. มากขึ้น โดยเฉพาะผู้เริ่มลงทุน หรือยังไม่มีความพร้อมที่จะลงทุนด้วยตนเอง เนื่องจากมีนโยบายหลากหลายให้เลือกลงทุนตามความสนใจ อาทิ กองทุนหุ้นกลุ่ม SET50 SET100 กองทุนหุ้นที่ลงทุนใน mai หรืออ้างอิงตามกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น กลุ่มพลังงาน กลุ่มธนาคาร เป็นต้น และประการสำคัญคือการลงทุนในกองทุนหุ้นผ่าน บลจ. จะมีผู้จัดการกองทุนที่เป็นมืออาชีพบริหารจัดการให้ มีความโปร่งใสและมีหลักธรรมาภิบาล และสามารถสร้างผลตอบแทนในระดับที่น่าพอใจ ซึ่งจากสถิติพบว่าการลงทุนในหุ้นโดยระยะยาวให้ผลตอบแทนดีที่สุดเมื่อเทียบกับทรัพย์สินลงทุนประเภทอื่น
“ขณะเดียวกัน ในภาวะปัจจุบันที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับตัวลดลง เป็นจังหวะที่เหมาะสมอย่างมากในการทยอยลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว LTF และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ RMF แบบสะสมสม่ำเสมอ นอกจากนี้ ผลดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 2/2558 ที่เริ่มทยอยออกมาพบว่า บจ. ไทยมีผลดำเนินงานครึ่งปีแรกในระดับที่ดี หุ้นหลายกลุ่มที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องและมีศักยภาพการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง โดยผู้ลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศยังมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนระยะยาวในตลาดหุ้นไทย จึงนับเป็นจังหวะที่ดีที่จะทยอยลงทุนเพื่อเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนในระยะยาว” นางเกศรากล่าว
นางวรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) กล่าวว่า “กองทุนรวมได้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่คนไทยคุ้นเคย ประกอบกับมีการพัฒนาและออกแบบให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการใช้เป็นเครื่องมือเพื่อการวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้กองทุนรวมเพื่อบริหารสภาพคล่องร่วมกับบัญชีออมทรัพย์ การใช้เป็นที่พักเงินสำหรับเงินสำรองยามฉุกเฉิน หรือการลงทุนเพื่อเป้าหมายต่างๆ โดยเฉพาะการเก็บออมเพื่อใช้จ่ายในวัยเกษียณมีความจำเป็นอย่างยิ่งกับสังคมไทยที่กำลังจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ ต้องมีการจัดสรรเงินลงทุนในสินทรัพย์หลากประเภทเพื่อสร้างผลตอบแทนให้เพียงพอเพื่ออนาคต เช่น การลงทุนในหุ้น ขณะที่เศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอนและผันผวนสูง การลงทุนในหุ้นผ่านกองทุนรวมจึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยผู้ลงทุนให้มีโอกาสบรรลุเป้าหมายได้มากขึ้น อีกทั้งพบว่ามีผู้ถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมหุ้นไทยและหุ้นต่างประเทศผ่านกองทุนรวม เพิ่มมากขึ้นอย่างมาก โดย 5 ปีย้อนหลังเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละกว่า 20% อีกทั้งยังสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจแก่ผู้ลงทุนได้ตอบโจทย์เรื่องการลงทุนระยะยาวเพื่ออนาคต โดยผลตอบแทนเฉลี่ย 5 ปี ย้อนหลังของกองทุนรวมหุ้นไทยเฉลี่ยที่ 13% ผลตอบแทนสูงสุดอยู่ที่ 21 % ขณะที่กองทุน LTF และ RMF ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้น ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 11% และสูงสุดอยู่ที่ 17%