xs
xsm
sm
md
lg

กองทุน FIF ครึ่งปีแรกเติบโตสูง เงินไหลเข้าหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์-จีน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กองทุนต่างประเทศครึ่งปีแรกโดดเด่นมีดีมานด์สูง เม็ดเงินไหลเข้าลงกองทุน FIF เพิ่มขึ้น 36.92% มีกองทุนออกใหม่ 28 กองทุน โดยหุ้นญี่ปุ่น จีน ยุโรป ส่วนหุ้นไทยมีแรงขายออกจากหุ้นกลุ่มใหญ่ แต่หุ้นกลุ่มขนาดกลาง-เล็กเงินไหลเข้าหลังผลตอบแทนน่าสนใจ

นายกิตติคุณ ธนรัตนพัฒนกิจ นักวิเคราะห์กองทุนรวม บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมกองทุนรวมในช่วงครึ่งแรกปี 2558 มีสินทรัพย์กองทุนรวมโตทะลุ 4 ล้านล้านบาท โดยเติบโตจากปลายปีที่แล้วกว่า 6.03% โดยกลุ่มที่โตสูงคือกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ (ไม่รวมกองทุน Term Fund) ซึ่งในครึ่งปีนี้มีการเปิดกองทุนใหม่ 28 กองทุน ทำให้ปัจจุบันมีกองทุนในกลุ่มดังกล่าวทั้งหมด 285 กองทุน มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 302,110 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.92% จากปลายปี 2557 โดยกลุ่มกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศนี้ กลุ่ม Global Allocation มีสินทรัพย์มากที่สุดที่ 57,432 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่ม Global Health Care ที่สินทรัพย์รวม 39,381 ล้านบาท และยังถือว่าเป็นกลุ่มที่เติบโตเร็วและมีเม็ดเงินไหลเข้ามากที่สุดในรอบครึ่งปีแรกนี้อีกด้วย โดยกองทุนกลุ่มนี้มีเม็ดเงินไหลเข้าสุทธิกว่า 26,600 ล้านบาท

ขณะที่กลุ่มหุ้นจีนยังแรงอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ประมาณ 32,000 ล้านบาท มีเงินลงทุนไหลเข้าสุทธิ 15,400 ล้านบาท รวมถึงกลุ่มหุ้นญี่ปุ่นที่มีเงินลงทุนไหลเข้าสุทธิประมาณ 15,100 ล้านบาท ทำให้ขณะนี้มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 27,500 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม กลุ่มกองทุนที่ยังคงได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนสูงสุดยังคงเป็นกลุ่มกองทุนประเภท Money Market และ High Yield Bond ซึ่งเน้นลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศที่มีเม็ดเงินไหลเข้าสุทธิรวม 127,818 ล้านบาท และ 98,184 ล้านบาท ตามลำดับ

ขณะที่กองทุนหุ้นไทย (ไม่นับรวม LTF และ RMF) ยังโตอย่างต่อเนื่อง มีเงินไหลเข้า 94,749 ล้านบาท มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวม 179,738 ล้านบาท โดยในกลุ่มที่เริ่มได้รับความนิยมจากนักลงทุนมากขึ้นนั้นก็คือกลุ่มหุ้นขนาดกลางและเล็ก Equity Small/Mid Cap เนื่องจากกองทุนสร้างผลตอบแทนที่ดีและน่าสนใจกว่ากลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ โดยในช่วงครึ่งปีแรกมีเงินไหลออกจากหุ้นขนาดใหญ่ประมาณ 3,000 ล้านบาท แต่มีเงินไหลเข้าหุ้นกลุ่มขนาดกลาง-เล็ก ประมาณ 5,000 ล้านบาท

ส่วน Trigger fund ครึ่งปีแรกนี้มีกองทุนเปิดใหม่มากถึง 68 กองทุน โดยทำยอด IPO ได้ประมาณ 30,000 ล้านบาท สูงกว่าครึ่งปีแรกปี 2557 กว่า 124% โดยแบ่งเป็นที่เน้นลงทุนในหุ้นต่างประเทศมากถึง 42 กองทุน มูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวม 21,000 ล้านบาท ลงทุนในหุ้นไทย 21 กองทุน 6,500 ล้านบาท และลงทุนในน้ำมัน 5 กองทุน 2,500 ล้านบาท โดยอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยที่ตั้งเป็นเป้าหมายนั้นอยู่ที่ประมาณ 5-8% และกลุ่มประเทศที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากนักลงทุน Trigger fund ก็คือ หุ้นญี่ปุ่น 7,000 ล้านบาท หุ้นไทย 6,500 ล้านบาท หุ้นจีน 6,400 ล้านบาท หุ้นเอเชีย 3,200 ล้านบาท และหุ้นเยอรมนี 2,150 ล้านบาท แต่ส่วนของกองทุนหุ้นไทยนั้นยังไม่มีกองทุนไหนที่สามารถปิดกองทุนได้ ขณะที่กองทุนต่างประเทศสามารถปิดกองทุนไปได้ 20 กองทุน เป็นกองทุนหุ้นจีน ญี่ปุ่น และน้ำมัน รวมกันประมาณ 7,500 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในส่วนของกองทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงในช่วงครึ่งปีแรก กลุ่มที่ทำผลตอบแทนเฉลี่ยได้สูงนั้นจะเป็นกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ นำโดย กลุ่มกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นญี่ปุ่นให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 16.52% รองลงมาคืน กลุ่มหุ้นจีนที่เฉลี่ย 14.61% ซึ่งเริ่มปรับตัวลดลงอย่างมากในช่วงท้ายของไตรมาสที่ 2 จากความกังวลว่าจะเกิดฟองสบู่ในตลาดหุ้นจีน และหุ้นยุโรปที่เฉลี่ย 11.15% ซึ่งโดดเด่นในไตรมาสแรกแต่เนื่องจากปัญหาหนี้ของกรีซกดดันทำให้ผลตอบแทนผันผวนตลอดทั้งไตรมาส 2 ที่ผ่านมา

สำหรับหุ้นไทย กลุ่มกองทุนหุ้นขนาดกลางและเล็กทำผลตอบแทนได้เฉลี่ย 2.69% สูงกว่ากลุ่มกองทุนหุ้นขนาดใหญ่ (Equity Large Cap) ที่ทำได้เฉลี่ย 1.12% แต่กลุ่มที่โดดเด่นคือ กลุ่มที่เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกองทุนอสังหาริมทรัพย์ (Property Indirect) ที่สามารถทำได้เฉลี่ยสูงถึง 6.5% ซี่งกลุ่มนี้มักจะสร้างผลตอบแทนได้ดีในช่วงที่ตลาดผันผวน

ด้านกองทุน LTF และ RMF โดยภาพรวมมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 264,749 ล้านบาท และ 171,138 ล้านบาท จากปลายปี ตามลำดับ ซึ่ง LTF นั้นมีมูลค่าลดลงประมาณ -2.31% เมื่อเทียบกับเมื่อปลายปี 2557 เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนขายเงินลงทุนที่ครบกำหนดไตรมาสที่ 1 ถึงแม้ว่าจะมีนักลงทุนบางส่วนเริ่มลงทุนบ้างแล้วในไตรมาสที่ 2 แต่ก็ยังคงเป็นส่วนน้อย ซึ่งคาดการณ์ว่านักลงทุนส่วนใหญ่คงจะรอลงทุนในช่วงปลายปี ขณะที่ RMF นั้นก็มีเงินลงทุนไหลเข้าเช่นกันในไตรมาสที่ 2 ทำให้ปีนี้มีเงินไหลเข้าสุทธิแล้วกว่า 2,713 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.66% ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่มีกองทุน RMF เปิดใหม่


กำลังโหลดความคิดเห็น