โดย ศรชัย สุเนต์ตา
รองกรรมการผู้อำนวยการ
และประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน
กลุ่มจัดการลงทุน
บลจ.ไทยพาณิชย์
กองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ จัดเป็นกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้เป็นหลัก ทั้งตราสารหนี้ภาครัฐ ได้แก่ ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจที่มีกระทรวงการคลังค้ำประกัน พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย และตราสารหนี้รัฐวิสาหกิจ และตราสารหนี้ภาคเอกชน เช่น ตั๋วแลกเงิน ตั๋วสัญญาใช้เงิน พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ หุ้นกู้ รวมถึงฝากเงินไว้ในธนาคารพาณิชย์ ทั้งเงินฝากออมทรัพย์ และเงินฝากประจำ เป็นต้น ทั้งนี้ กองทุนรวมตราสารหนี้สามารถลงทุนได้ทั้งตราสารหนี้ระยะสั้น และตราสารหนี้ระยะยาว นอกจากนี้ บางกองทุนยังสามารถลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศได้อีกด้วย เรียกได้ว่าบริษัทจัดการลงทุนสามารถสร้างส่วนผสมได้อย่างหลากหลาย และมีทางเลือกในการจัดส่วนผสมให้สอดคล้องต่อความต้องการของผู้ลงทุนได้ดีทีเดียว
ในมุมมองที่เรารู้จักกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้นั้น มักจะคิดเพียงว่า การลงทุนในกองทุนตราสารแห่งหนี้เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ และช่วยประหยัดภาษี เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบความเสี่ยง และมักจะละเลยคุณประโยชน์ดีๆ ของกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้นี้ไป วันนี้ผมจะขอเน้นให้เห็นถึงประโยชน์อื่นๆ ของการลงทุนในกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ โดยเฉพาะนักลงทุนที่ลงทุนในกองทุนรวมตราสารที่มีความเสี่ยงอื่นๆ ก็ควรที่จะกระจายการลงทุนมาลงทุนในกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ กองทุนรวมตราสารหนี้ยังมีข้อดีแก่นักลงทุนอีกมากมาย เช่น เป็นทางเลือกในการเพิ่มผลตอบแทนให้แก่นักลงทุน ซึ่งขนาดของกองทุนตราสารแห่งหนี้มีขนาดใหญ่เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้เพื่อการลงทุนในระยะยาว ดังนั้น อาจจะมีนักลงทุนบางกลุ่มสามารถใช้เป็นทางเลือกในการลงทุนเพื่อทดแทนการฝากเงินในระยะสั้นได้ด้วยเช่นกัน และด้วยความที่เป็นกองทุนขนาดใหญ่ จึงทำให้มีอำนาจต่อรองในการเลือกตราสารหนี้ หรือฝากเงินได้ในอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยในตลาดทั่วไป และยังได้ผลตอบแทนที่สูงกว่ากองทุนรวมตลาดเงิน โดยนักลงทุนสามารถเลือกลงทุนได้ตามกำหนดระยะเวลาที่ต้องการบนโอกาสที่จะได้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น ทั้งยังไม่เสียภาษีเงินได้จากอัตราดอกเบี้ยอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังช่วยในการจัดสรรสินทรัพย์การลงทุนโดยสามารถใช้ทดแทนการลงทุนในสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำที่ใช้เป็นองค์ประกอบหนึ่งของการจัดน้ำหนักให้แก่สินทรัพย์เพื่อการลงทุน ซึ่งในทางทฤษฎี การจัดสินทรัพย์การลงทุนนั้นมักจะกำหนดให้สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำเป็นสินทรัพย์ตัวแรกสำหรับการลงทุนก่อนที่จะจัดสรรน้ำหนักการลงทุนให้สินทรัพย์เสี่ยงประเภทอื่นๆ ต่อไป กองทุนรวมตราสารหนี้นี้มีการควบคุมความเสี่ยงด้านเครดิตให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม แต่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าการลงทุนในสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำอื่นๆ จึงสามารถใช้เป็นตัวช่วยเพิ่มผลตอบแทนให้แก่การจัดสรรสินทรัพย์การลงทุนโดยที่ไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ตโฟลิโออย่างมีนัยสำคัญได้ และยังใช้เป็นที่พักเงินในระยะสั้น (Safe Heaven) ในยามที่สินทรัพย์อื่นมีความผันผวน นักลงทุนอาจชะลอการลงทุนในกองทุนหุ้นที่กำลังผันผวน และนำเงินมาพักไว้ที่กองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ก่อนที่จะจับจังหวะลงทุนต่อไป และสุดท้ายคือ เป็นการเพิ่มทางเลือกในการกระจายความเสี่ยงของการลงทุน เนื่องจากกองทุนตราสารหนี้มีการกระจายการลงทุนไปในตราสารหนี้ที่มีผู้ออกตราสารที่หลากหลาย ไม่เหมือนกับการลงทุนตรงที่จะถือครองตราสารหนี้จากผู้ออกได้น้อยรายกว่า
นอกจากนี้ ในอนาคตการคุ้มครองเงินฝากกำลังทยอยลดระดับการคุ้มครองลง โดยตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2559 เป็นต้นไป ผู้ฝากแต่ละรายจะได้รับการคุ้มครองเงินฝากลดลงเหลือวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อสถาบันการเงิน ดังนั้น หากพิจารณาถึงข้อดีของการลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้แล้ว อาจจะทำให้นักลงทุนหลายๆ ท่านได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการกระจายการลงทุนไปยังช่องทางต่างๆ ให้มีความหลากหลายมากขึ้นนะครับ ซึ่ง บลจ.ไทยพาณิชย์ เองก็ได้นำเสนอกองทุนประเภทนี้ด้วยเช่นกัน ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์สะสมทรัพย์ตราสารหนี้พลัส (SCBSFFPLUS) ซึ่งลงทุนในตราสารหนี้ประเภทต่างๆ ดังที่กล่าวมาข้างต้นภายใต้กรอบการควบคุมอย่างมืออาชีพ กองทุนนี้มีข้อได้เปรียบอยู่หลายประการ และหากนักลงทุนสามารถใช้ประโยชน์จากกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยเพิ่มผลตอบแทนให้แก่นักลงทุนได้เป็นอย่างดีนะครับ
แต่ก็อย่าลืมนะครับว่า นักลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้งด้วยนะครับ