บลจ.กรุงศรี เสนอขายกองตราสารหนี้ เอไอ 6M9 (KFFAI6M9) ลงทุน 6 เดือน รับผลตอบแทน 2.45% ต่อปี เสนอขายระหว่างวันที่ 21 - 27 เมษายน 2558 ทางด้านบลจ.เอ็มเอฟซีขายกองทุนเปิด MK6S31 ลงทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ คาดผลตอบแทน 2.425%ต่อปี ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 27 เมษายน 2558
นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด หรือ KSAM กล่าวว่าสำหรับภาวะตลาดตราสารหนี้โลกนั้น ราคาตราสารหนี้ภาครัฐของสหรัฐอเมริกาปรับขึ้นเนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจออกมาอ่อนแอ โดยอัตราผลตอบแทนปรับลดลงร้อยละ 0.02 - 0.15 โดยที่อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะยาวลดลงมากกว่าอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะสั้น ทางด้านสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ S&P ประกาศลดอันดับเครดิตของกรีซลงจาก B- สู่ CCC+ และให้มุมมอง “เชิงลบ” เนื่องจากไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาปัญหาหนี้สินระหว่างรัฐบาลกรีซกับกลุ่มเจ้าหนี้ ซึ่งหากรัฐบาลกรีซไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการปฏิรูปก่อนสิ้นเดือน มิ.ย. กรีซก็อาจจะผิดนัดชำระหนี้ได้
ด้านไอเอ็มเอฟคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัว 3.7% ในปี 2558 โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน แต่ก็มีความเสี่ยงขาลงในระยะสั้น ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่นโยบายการคลังและการเงินจะต้องช่วยหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ในขณะที่สภาพัฒน์คงคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ที่ 3.5 - 4.5% พร้อมทั้งระบุว่า เศรษฐกิจในไตรมาสแรกของปีนี้น่าจะขยายตัวได้ 3% โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน และการลงทุน
ทั้งนี้บริษัทเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ต่างประเทศเอไอ 6M9 (KFFAI6M9) อายุประมาณ 6 เดือน มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ เช่น เงินฝากธนาคาร China Construction Bank (สาธารณรัฐประชาชนจีน ฮ่องกง) สัดส่วนการลงทุน 12% ตราสารหนี้ GMTN ออกโดยธนาคาร Akbank T.A.S. (ตุรกี) สัดส่วนการลงทุน 22% ตราสารหนี้ GMTN ออกโดยธนาคาร Isbank (ตุรกี) สัดส่วนการลงทุน 23% ตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร Vakifbank (ตุรกี) สัดส่วนการลงทุน 22% และตราสารหนี้ GMTN ออกโดยธนาคาร Yapi Kredit bank (ตุรกี) สัดส่วนการลงทุน 22% ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน โดยนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติประมาณ 2.45% ต่อปี และหลังครบกำหนดอายุโครงการบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน (KFCASH) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนต่อไป
“กองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ต่างประเทศเอไอ 6M9 (KFFAI6M9) เป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนในตราสารหนี้เหมาะกับนักลงทุนที่มิใช่รายย่อยและผู้ที่มีเงินลงทุนสูง ที่ต้องการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก และต้องการล็อคผลตอบแทนโดยสามารถลงทุนได้เป็นระยะเวลาประมาณ 6 เดือน”
ทางด้านนางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เอ็มเอฟซีเปิดขายกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี กาญจนทรัพย์ 6 ซีรี่ส์ 31 เป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ ซึ่งจะลงทุนในต่างประเทศไม่เกินร้อยละ 79 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ คาดโอกาสรับผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายร้อยละ 2.425 ต่อปี โดยมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ที่มีคุณภาพทั้งในและต่างประเทศ เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งชาติ พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ ตราสารหนี้ที่ออกโดยนิติบุคคลที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น ตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารต่างประเทศ และตราสารหนี้เอกชนที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (ไม่ต่ำกว่า BBB-)
ตัวอย่างตราสารที่คาดว่ากองทุนจะลงทุนดังนี้ เงินฝากประจำของธนาคาร PT Bank Rakyat Indonesia (Persero) Tbk ร้อยละ 24 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.68 ต่อปี เงินฝากประจำของ Akbank ธนาคารเอกชนของตุรกี ร้อยละ 20 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.54 ต่อปี ตราสารหนี้ระยะสั้นของ Isbank ธนาคารพาณิชย์ของตุรกีร้อยละ 24 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.63 ต่อปี ตั๋วแลกเงินของบริษัทราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ร้อยละ 14.29 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.36 ต่อปี ตราสารหนี้ระยะสั้นของบริษัทอยุธยา แคปปิตอล ออโต้ลีส จำกัด (มหาชน) ร้อยละ 17.71 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.34 ต่อปี ทั้งนี้กองทุนอาจพิจารณาลงทุนในตราสารอื่นแทนหรือเพิ่มเติม โดยมีอันดับความน่าเชื่อถือไม่ต่ำกว่า BBB- สำหรับประมาณการผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนร้อยละ 2.55 ต่อปี ประมาณการค่าใช้จ่ายของกองทุนร้อยละ 0.125 และประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายร้อยละ 2.425 ต่อปี
นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด หรือ KSAM กล่าวว่าสำหรับภาวะตลาดตราสารหนี้โลกนั้น ราคาตราสารหนี้ภาครัฐของสหรัฐอเมริกาปรับขึ้นเนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจออกมาอ่อนแอ โดยอัตราผลตอบแทนปรับลดลงร้อยละ 0.02 - 0.15 โดยที่อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะยาวลดลงมากกว่าอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะสั้น ทางด้านสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ S&P ประกาศลดอันดับเครดิตของกรีซลงจาก B- สู่ CCC+ และให้มุมมอง “เชิงลบ” เนื่องจากไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาปัญหาหนี้สินระหว่างรัฐบาลกรีซกับกลุ่มเจ้าหนี้ ซึ่งหากรัฐบาลกรีซไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการปฏิรูปก่อนสิ้นเดือน มิ.ย. กรีซก็อาจจะผิดนัดชำระหนี้ได้
ด้านไอเอ็มเอฟคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัว 3.7% ในปี 2558 โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน แต่ก็มีความเสี่ยงขาลงในระยะสั้น ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่นโยบายการคลังและการเงินจะต้องช่วยหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ในขณะที่สภาพัฒน์คงคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ที่ 3.5 - 4.5% พร้อมทั้งระบุว่า เศรษฐกิจในไตรมาสแรกของปีนี้น่าจะขยายตัวได้ 3% โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน และการลงทุน
ทั้งนี้บริษัทเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ต่างประเทศเอไอ 6M9 (KFFAI6M9) อายุประมาณ 6 เดือน มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ เช่น เงินฝากธนาคาร China Construction Bank (สาธารณรัฐประชาชนจีน ฮ่องกง) สัดส่วนการลงทุน 12% ตราสารหนี้ GMTN ออกโดยธนาคาร Akbank T.A.S. (ตุรกี) สัดส่วนการลงทุน 22% ตราสารหนี้ GMTN ออกโดยธนาคาร Isbank (ตุรกี) สัดส่วนการลงทุน 23% ตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร Vakifbank (ตุรกี) สัดส่วนการลงทุน 22% และตราสารหนี้ GMTN ออกโดยธนาคาร Yapi Kredit bank (ตุรกี) สัดส่วนการลงทุน 22% ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน โดยนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติประมาณ 2.45% ต่อปี และหลังครบกำหนดอายุโครงการบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน (KFCASH) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนต่อไป
“กองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ต่างประเทศเอไอ 6M9 (KFFAI6M9) เป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนในตราสารหนี้เหมาะกับนักลงทุนที่มิใช่รายย่อยและผู้ที่มีเงินลงทุนสูง ที่ต้องการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก และต้องการล็อคผลตอบแทนโดยสามารถลงทุนได้เป็นระยะเวลาประมาณ 6 เดือน”
ทางด้านนางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เอ็มเอฟซีเปิดขายกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี กาญจนทรัพย์ 6 ซีรี่ส์ 31 เป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ ซึ่งจะลงทุนในต่างประเทศไม่เกินร้อยละ 79 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ คาดโอกาสรับผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายร้อยละ 2.425 ต่อปี โดยมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ที่มีคุณภาพทั้งในและต่างประเทศ เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งชาติ พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ ตราสารหนี้ที่ออกโดยนิติบุคคลที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น ตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารต่างประเทศ และตราสารหนี้เอกชนที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (ไม่ต่ำกว่า BBB-)
ตัวอย่างตราสารที่คาดว่ากองทุนจะลงทุนดังนี้ เงินฝากประจำของธนาคาร PT Bank Rakyat Indonesia (Persero) Tbk ร้อยละ 24 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.68 ต่อปี เงินฝากประจำของ Akbank ธนาคารเอกชนของตุรกี ร้อยละ 20 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.54 ต่อปี ตราสารหนี้ระยะสั้นของ Isbank ธนาคารพาณิชย์ของตุรกีร้อยละ 24 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.63 ต่อปี ตั๋วแลกเงินของบริษัทราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ร้อยละ 14.29 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.36 ต่อปี ตราสารหนี้ระยะสั้นของบริษัทอยุธยา แคปปิตอล ออโต้ลีส จำกัด (มหาชน) ร้อยละ 17.71 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.34 ต่อปี ทั้งนี้กองทุนอาจพิจารณาลงทุนในตราสารอื่นแทนหรือเพิ่มเติม โดยมีอันดับความน่าเชื่อถือไม่ต่ำกว่า BBB- สำหรับประมาณการผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนร้อยละ 2.55 ต่อปี ประมาณการค่าใช้จ่ายของกองทุนร้อยละ 0.125 และประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายร้อยละ 2.425 ต่อปี