xs
xsm
sm
md
lg

กสิกรไทยชวนลุยตราสารหนี้นอก ล็อกยิลด์ช่วงดอกเบี้ยลง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

บลจ.กสิกรไทยชวนลงทุนกองตราสารหนี้ต่างประเทศเพิ่มผลตอบแทน ล่าสุดเปิดเพิ่มเป็นทางเลือกแก่นักลงทุนอีก 4 กอง ทั้งอายุ 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี ชูผลตอบแทนสูงสุด 2.65% ต่อปี ระบุดอกเบี้ยลงนักลงทุนควรล็อกผลตอบแทนการลงทุนระยะกลางถึงยาวตั้งแต่ 6 เดือนถึง 1 ปี

นายชัชชัย สฤษดิ์อภิรักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในวันที่ 10-16 มีนาคม 2558 บลจ.กสิกรไทยจะเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 6 เดือน ซีเอส (KFI6MCS) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.1% ต่อปี กองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ 3 เดือน พี (KEFI3MP) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.40% ต่อปี

กองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ 6 เดือน เค (KEFI6MK) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.55% ต่อปี และกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี เอจี (KEFF1YAG) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.65% ต่อปี

ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทยยังได้เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนต่อเนื่องให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้แบบที่มีกำหนดอายุโครงการ (Fixed Term Fund) ของ บลจ.กสิกรไทย ซึ่งเมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ บริษัทจัดการจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนที่ผู้ลงทุนเลือกได้กองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 3 กองทุน คือ กองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือกองทุนเปิดเค เอ็มพลัส (K-MPLUS) ซึ่งอยู่ในกลุ่มกองทุนรวมตราสารหนี้ของ บลจ.กสิกรไทย เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนอย่างต่อเนื่อง

สำหรับกองทุนข้างต้นจะมีการลงทุนในต่างประเทศ ตัวอย่างเช่น กองทุน KEFI3MP จะเข้าไปลงทุนในเบื้องต้นประกอบด้วยเงินฝาก Garanti Bank, ประเทศตุรกี, เงินฝาก China Construction Bank Corporation, สาขาฮ่องกง เป็นต้น ขณะที่ กองทุน KEFF1YAG เบื้องต้นคาดว่าจะลงทุนในเงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า, เงินฝาก Bank Rakyat Indonesia (Persero) Tbk, ประเทศอินโดนีเชีย, ตราสารหนี้ Akbank T.A.S., ประเทศตุรกี, ตราสารหนี้ Banco ABC Brasil S.A., ประเทศบราซิล และตราสารหนี้ Agricultural Bank of China, สาขาฮ่องกง

ด้านมุมมองการลงทุนในตราสารหนี้ไทย นายชัชชัยกล่าวว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมาอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยยังคงมีแนวโน้มทรงตัวถึงปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนได้คาดการณ์ถึงผลการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ว่าอาจพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเพิ่มเติม

 ทั้งนี้ จากตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุด ยอดการส่งออกของไทยในเดือนมกราคม ปี 2558 ที่ผ่านมาหดตัวถึง 3.46% เมื่อเทียบจากปีก่อนหน้า ขณะที่ตลาดได้คาดว่าจะขยายตัวที่ระดับ 1.9% ส่วนตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของไทยในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2558 ที่ผ่านมาหดตัว 0.52% เมื่อเทียบจากปีก่อนหน้า ซึ่งถือเป็นการหดตัวแรงสุดในรอบ 5 ปี 5 เดือน

อย่างไรก็ตาม บลจ.กสิกรไทยประเมินว่าธนาคารแห่งประเทศไทยอาจพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงภายในช่วงครึ่งปีแรกนี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมได้  ดังนั้น สำหรับผู้ลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ต่ำถึงปานกลาง ที่มุ่งเน้นรักษาเงินลงทุนให้มีความผันผวนไม่สูงมากนัก จึงอาจเน้นลงทุนในตราสารที่มีอายุปานกลางถึงยาว เนื่องจากมีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงกว่าตราสารอายุสั้นๆ  หรือสามารถเลือกลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้แบบที่มีกำหนดระยะเวลา (Fixed Term) โดยเน้นลงทุนในกองทุนอายุตั้งแต่ 6 เดือน-1 ปี เพื่อล็อกอัตราผลตอบแทนไว้ก่อนล่วงหน้า


กำลังโหลดความคิดเห็น