อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต มั่นใจปีนี้เบี้ยรับปีแรกโต 13% หนุนขึ้นแท่นผู้นำสินค้าคุ้มครองของประเทศไทย ระบุเน้นกลยุทธ์ตอบสนองความต้องการลูกค้าทุกระดับชั้น มั่นใจคนไทยต้องการสินค้าคุ้มครอง-สุขภาพอีกมาก เหตุประเทศไทยเริ่มเข้าสู่สังคมสูงวัย
นายไบรอัน สมิธ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เปิดเผยว่า ปีนี้ อลิอันซ์ อยุธยาจะนำความได้เปรียบด้านความแข็งแกร่งในฐานะผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจประกันชีวิตระดับโลก พร้อมเดินหน้าด้วยกลยุทธ์บ้านสีน้ำเงินมาเป็นตัวผลักดันความสำเร็จสู่เป้าหมายผู้นำด้านผลิตภัณฑ์คุ้มครองชีวิตและสุขภาพในตลาดประเทศไทย ถือเป็นครั้งแรกที่จะเปิดตัวผู้บริหารระดับสูงทุกฝ่ายได้พูดถึงกลยุทธ์ที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนการเติบโตทุกช่องทางอย่างยั่งยืน โดยตั้งเป้าพิชิตเบี้ยประกันภัยรับปีแรกโต 13% เบี้ยประภัยรับรวมโต 9% และเพิ่มสัดส่วนของผลิตภัณฑ์คุ้มครองเป็น 29%
นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นกลยุทธ์ช่องทางหลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างของลูกค้าทุกระดับ ตั้งแต่ระดับมวลชนที่มีช่องทางขายผ่านโทรทัศน์ ระดับกลางผ่านช่องทางการขายตรงผ่านสาขาคู่ค้า ระดับบนผ่านช่องทางธนาคาร และระดับมั่งคั่งผ่านช่องทางตัวแทน
“ทั้งนี้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยที่ยังต้องการผลิตภัณฑ์คุ้มครองชีวิตและสุขภาพอีกมาก อีกทั้งสถิติค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับประเทศไทยกำลังมุ่งสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัวในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า บริษัทฯ จึงมุ่งเน้นพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์คุ้มครองชีวิตและสุขภาพเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้าที่ต้องการความอุ่นใจเมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์ไม่คาดคิด เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระด้านค่ารักษาพยาบาล” นายสมิธกล่าว
ด้าน ชารอน ตัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ กล่าวว่า ด้วยเหตุนี้บริษัทฯ จึงเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องพัฒนา “นวัตกรรมผลิตภัณฑ์คุ้มครอง” ชีวิตและสุขภาพอย่างต่อเนื่อง โดยสัดส่วนเบี้ยประกันภัยรับรายปี (ANP) ของผลิตภัณฑ์คุ้มครองเติบโตขึ้นจาก 21% ในปี 2556 เป็น 27% ในปี 2557 ซึ่งผลิตภัณฑ์คุ้มครองที่ได้รับความนิยมที่สุดคือ “มาย เฮลท์ พลัส” หรือ “สุขภาพ ปลดล็อค” ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากหลังจากเปิดตัวเพียงปีเดียว และล่าสุดเราได้เพิ่มความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ด้วยการออกอนุสัญญาผู้ป่วยนอก (OPD) เพื่อให้สามารถแนบเพิ่มเติมกับ “สุขภาพ ปลดล็อค” ได้ นอกจากนั้น ในเร็วๆ นี้บริษัทฯ ยังเตรียมออกผลิตภัณฑ์คุ้มครองซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้อย่างครบถ้วน”
นายวิทยา ชาญพานิชย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารตัวแทน กล่าวว่า ช่องทางตัวแทนมีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้บริษัทขึ้นเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์คุ้มครองชีวิตและสุขภาพได้ เพราะการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าได้เข้าใจถึงผลประโยชน์ต่างๆ จำเป็นจะต้องใช้ตัวแทนที่มีความเป็นมืออาชีพ และต้องเป็น “ตัวแทนที่บริการด้วยใจ” ความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้ากับตัวแทนถือว่ามีความสำคัญ ที่ผ่านมาเราได้ออกแคมเปญต่างๆ มากมายเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า เช่น เค้ก Get Well Soon มอบให้ลูกค้าที่นอนโรงพยาบาล โครงการ Social Media for Sales ที่นำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้การติดต่อสื่อสารระหว่างตัวแทนกับลูกค้าให้ได้รับความสะดวกสบาย และตัวแทนสามารถให้บริการลูกค้าได้ทุกที่ทุกเวลาอีกด้วย ซึ่งผลสำรวจ Top Down Net Promoter Score ล่าสุดยืนยันว่าบริษัทฯ ได้รับคะแนนความพึงพอใจสูงสุดจากลูกค้าจากการให้บริการของตัวแทนของเรา
นางสาวพัชรา ทวีชัยวัฒนะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบริหารการตลาดและสื่อสารองค์กร กล่าวว่า ในส่วนของสายงานบริหารการตลาด สิ่งสำคัญคือ “การสร้างแบรนด์” อลิอันซ์ อยุธยาให้เป็นที่หนึ่งในใจของลูกค้า เราได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับกิจกรรมเพื่อสังคม โดยเน้นจุดยืน “การบริการที่เป็นเลิศ” ผ่านสื่อครบวงจร รวมทั้งสื่อทางด้านดิจิตอล และกลยุทธ์การบอกต่อ (Worth of Mouth) ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์อันทรงพลังที่ได้มาจากความพึงพอใจที่ลูกค้ามีให้กับบริษัทฯ อย่างแท้จริง นอกจากนั้น จะเห็นได้ว่าอลิอันซ์ อยุธยา ยังคงมุ่งมั่นคิดค้นและสร้างสรรค์กิจกรรมใหม่ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อสร้างความแตกต่างและความจดจำให้กับแบรนด์อลิอันซ์
นายไบรอัน สมิธ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เปิดเผยว่า ปีนี้ อลิอันซ์ อยุธยาจะนำความได้เปรียบด้านความแข็งแกร่งในฐานะผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจประกันชีวิตระดับโลก พร้อมเดินหน้าด้วยกลยุทธ์บ้านสีน้ำเงินมาเป็นตัวผลักดันความสำเร็จสู่เป้าหมายผู้นำด้านผลิตภัณฑ์คุ้มครองชีวิตและสุขภาพในตลาดประเทศไทย ถือเป็นครั้งแรกที่จะเปิดตัวผู้บริหารระดับสูงทุกฝ่ายได้พูดถึงกลยุทธ์ที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนการเติบโตทุกช่องทางอย่างยั่งยืน โดยตั้งเป้าพิชิตเบี้ยประกันภัยรับปีแรกโต 13% เบี้ยประภัยรับรวมโต 9% และเพิ่มสัดส่วนของผลิตภัณฑ์คุ้มครองเป็น 29%
นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นกลยุทธ์ช่องทางหลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างของลูกค้าทุกระดับ ตั้งแต่ระดับมวลชนที่มีช่องทางขายผ่านโทรทัศน์ ระดับกลางผ่านช่องทางการขายตรงผ่านสาขาคู่ค้า ระดับบนผ่านช่องทางธนาคาร และระดับมั่งคั่งผ่านช่องทางตัวแทน
“ทั้งนี้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยที่ยังต้องการผลิตภัณฑ์คุ้มครองชีวิตและสุขภาพอีกมาก อีกทั้งสถิติค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับประเทศไทยกำลังมุ่งสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัวในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า บริษัทฯ จึงมุ่งเน้นพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์คุ้มครองชีวิตและสุขภาพเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้าที่ต้องการความอุ่นใจเมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์ไม่คาดคิด เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระด้านค่ารักษาพยาบาล” นายสมิธกล่าว
ด้าน ชารอน ตัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ กล่าวว่า ด้วยเหตุนี้บริษัทฯ จึงเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องพัฒนา “นวัตกรรมผลิตภัณฑ์คุ้มครอง” ชีวิตและสุขภาพอย่างต่อเนื่อง โดยสัดส่วนเบี้ยประกันภัยรับรายปี (ANP) ของผลิตภัณฑ์คุ้มครองเติบโตขึ้นจาก 21% ในปี 2556 เป็น 27% ในปี 2557 ซึ่งผลิตภัณฑ์คุ้มครองที่ได้รับความนิยมที่สุดคือ “มาย เฮลท์ พลัส” หรือ “สุขภาพ ปลดล็อค” ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากหลังจากเปิดตัวเพียงปีเดียว และล่าสุดเราได้เพิ่มความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ด้วยการออกอนุสัญญาผู้ป่วยนอก (OPD) เพื่อให้สามารถแนบเพิ่มเติมกับ “สุขภาพ ปลดล็อค” ได้ นอกจากนั้น ในเร็วๆ นี้บริษัทฯ ยังเตรียมออกผลิตภัณฑ์คุ้มครองซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้อย่างครบถ้วน”
นายวิทยา ชาญพานิชย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารตัวแทน กล่าวว่า ช่องทางตัวแทนมีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้บริษัทขึ้นเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์คุ้มครองชีวิตและสุขภาพได้ เพราะการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าได้เข้าใจถึงผลประโยชน์ต่างๆ จำเป็นจะต้องใช้ตัวแทนที่มีความเป็นมืออาชีพ และต้องเป็น “ตัวแทนที่บริการด้วยใจ” ความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้ากับตัวแทนถือว่ามีความสำคัญ ที่ผ่านมาเราได้ออกแคมเปญต่างๆ มากมายเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า เช่น เค้ก Get Well Soon มอบให้ลูกค้าที่นอนโรงพยาบาล โครงการ Social Media for Sales ที่นำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้การติดต่อสื่อสารระหว่างตัวแทนกับลูกค้าให้ได้รับความสะดวกสบาย และตัวแทนสามารถให้บริการลูกค้าได้ทุกที่ทุกเวลาอีกด้วย ซึ่งผลสำรวจ Top Down Net Promoter Score ล่าสุดยืนยันว่าบริษัทฯ ได้รับคะแนนความพึงพอใจสูงสุดจากลูกค้าจากการให้บริการของตัวแทนของเรา
นางสาวพัชรา ทวีชัยวัฒนะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบริหารการตลาดและสื่อสารองค์กร กล่าวว่า ในส่วนของสายงานบริหารการตลาด สิ่งสำคัญคือ “การสร้างแบรนด์” อลิอันซ์ อยุธยาให้เป็นที่หนึ่งในใจของลูกค้า เราได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับกิจกรรมเพื่อสังคม โดยเน้นจุดยืน “การบริการที่เป็นเลิศ” ผ่านสื่อครบวงจร รวมทั้งสื่อทางด้านดิจิตอล และกลยุทธ์การบอกต่อ (Worth of Mouth) ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์อันทรงพลังที่ได้มาจากความพึงพอใจที่ลูกค้ามีให้กับบริษัทฯ อย่างแท้จริง นอกจากนั้น จะเห็นได้ว่าอลิอันซ์ อยุธยา ยังคงมุ่งมั่นคิดค้นและสร้างสรรค์กิจกรรมใหม่ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อสร้างความแตกต่างและความจดจำให้กับแบรนด์อลิอันซ์
