บลจ.วรรณจับมือ Stoxx Limited สถาบันจัดทำ Index ระดับโลกสร้างดัชนี Stoxx Asean Select Dividend 30 Index ประเมินการลงทุนในหุ้นอาเซียนมาแรง เตรียมออกกองทุน ONE-STOXX ASEAN คาดเปิดไอพีโอเดือน พ.ค.นี้
นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) วรรณ จำกัด กล่าวว่า ทิศทางเศรษฐกิจและการลงทุนในกลุ่มอาเซียนเป็นตลาดที่จะเปิดกว้างและมีโอกาสการเติบโตได้ในระดับสูง ทั้งในด้านเศรษฐกิจและการลงทุนจากความร่วมมือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) รวมทั้งจากอานิสงส์ของการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและการดำเนินมาตรการการสนับสนุนเศรษฐกิจที่คล้ายคลึงกัน โดยเฉพาะการสนับสนุนการใช้จ่ายภายในประเทศของภาครัฐ
ทั้งการเร่งลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในแต่ละประเทศ การใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายผ่านอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำ ซึ่งจะผลักดันให้การบริโภคและการลงทุนในแต่ละประเทศทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง และน่าจะผลักดันให้เศรษฐกิจในกลุ่มอาเซียนเติบโตได้ประมาณปีละ 5.0-5.5% นอกจากนี้ การเข้าร่วมกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยการร่วมเป็นตลาดและฐานการผลิตแห่งเดียวในภูมิภาค ทำให้ภูมิภาคอาเซียนมีความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้นจากต้นทุนที่ต่ำลง โดยเปรียบเทียบและทำให้ภูมิภาคอาเซียนเริ่มเป็นเป้าหมายของธุรกิจการลงทุนในเศรษฐกิจโลก
“ในด้านปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นอาเซียน นับได้ว่าระดับราคายังคงไม่แพงมากนักเมื่อเทียบกับหุ้นประเทศอื่นๆ และแนวโน้มของเศรษฐกิจที่เติบโตในอนาคตข้างหน้า รวมทั้งอัตราการจ่ายปันผลของบริษัทฯ ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากผลประกอบการบริษัทที่สดใสหลังเศรษฐกิจโลกและกลุ่มอาเซียนฟื้นตัวได้ โดยปัจจุบันประเทศในกลุ่มอาเซียน (อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย) มีอัตราการจ่ายปันผลประมาณปีละ 4.5%”
ทั้งนี้ บลจ.วรรณมองเห็นโอกาสการลงทุนที่เชื่อว่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุน จึงมีแผนที่จะนำเสนอกองทุนประเภท Index Fund เพื่อสร้างผลตอบแทนตามดัชนี Stoxx Asean Select Dividend 30 เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่นักลงทุน ซึ่งจากการ Roadshow ก็ได้รับกระแสการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนเช่นกัน โดยกองทุน ONE-STOXX ASEAN กำลังอยู่ในช่วงระหว่างการพิจารณาจากทางสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งมีแผนที่จะเสนอขายให้แก่นักลงทุนในช่วงเดือน พ.ค. 58 นี้
Dr. Hartmut Graf, CEO, STOXX Limited กล่าวว่า ดัชนี Stoxx ASEAN Select Dividend 30 ดังกล่าวเป็นดัชนี Price Index โดย Stoxx ใช้เกณฑ์ในการคัดเลือกหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีฯ โดยคัดเลือกหุ้นจากดัชนี The Stoxx Asia Total Market Index (TMI) เพื่อกรองหุ้นจาก 6 ประเทศในกลุ่มอาเซียน ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม และไทย โดยมี Key Criteria ในการคัดเลือกหุ้นที่มีประวัติการจ่ายปันผลสูงสุดในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา
โดยจะคัดเลือกลงทุนในหุ้น 30 อันดับแรก จำกัดหุ้นแต่ละประเทศไม่เกิน 7 หลักทรัพย์ และไม่เกิน 5 หลักทรัพย์สำหรับประเทศไทย รวมถึงจำกัดกลุ่มอุตสาหกรรมละไม่เกิน 8 หลักทรัพย์ และให้น้ำหนักหุ้นในดัชนีฯ แต่ละตัวเท่าๆ กัน (Equally Weighted) นอกจากนี้ หลักทรัพย์ที่เข้าข่ายไม่ถูกเลือก ได้แก่ หลักทรัพย์ที่มีปริมาณการซื้อขายต่อวันต่ำกว่า 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หุ้นที่มีอัตราการจ่ายปันผลสูงกว่า 80% หุ้นที่มีอัตราส่วนของเงินลงทุนต่างประเทศต่ำกว่า 4% และกองทุน REITS