บลจ.แอสเซท พลัสส่งกองทุน ASP-AIF10 ลงทุน 9 เดือน ชูผลตอบแทน 3.20% ต่อปี เพิ่มทางเลือกสำหรับนักลงทุนรายใหญ่ IPO 11-17 ก.พ.นี้
นายรัชต์ โสดสถิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ในวันที่ 11-17 กุมภาพันธ์ 2558 บลจ.แอสเซท พลัส จะเสนอขายกองทุนเปิดแอสเซทพลัสเอไอตราสารหนี้ 10 (ASP-AIF10) เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจท่ามกลางภาวะดอกเบี้ยต่ำแก่กลุ่มผู้ลงทุนที่ไม่ใช่รายย่อย โดยกองทุนดังกล่าวมีขนาดกองทุน 1,000 ล้านบาท อายุโครงการในรอบการลงทุนนี้ประมาณ 9 เดือน มีแผนจะลงทุนเบื้องต้นในตราสารหนี้ในประเทศ ได้แก่ ตั๋วแลกเงิน บมจ.สวนอุตสาหกรรมโรจนะ (ROJNA) และตั๋วแลกเงิน บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ (NOBLE) ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ BBB+ และ BBB จาก TRIS ตามลำดับ พร้อมด้วยตั๋วแลกเงิน บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) ตั๋วแลกเงิน บมจ.สามารถ ไอ-โมบาย (SIM) ตั๋วแลกเงิน บมจ.ทิปโก้ฟูดส์ (TIPCO) และตั๋วแลกเงิน บมจ.สัมมากร (SAMCO) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 3.20% ต่อปี
ด้านมุมมองต่อการลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศ มองว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยในเดือนมกราคมยังคงปรับลดลงเมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2557 ส่วนหนึ่งเป็นการปรับลดลงตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ และแรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยในเดือนมกราคม 2558 ติดลบ 0.41% จากราคาพลังงานที่ลดลง
อย่างไรก็ตาม เดือนมกราคมนักลงทุนต่างชาติมียอดขายสุทธิในตลาดตราสารหนี้ไทยกว่า 2,800 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดการถือครองตราสารหนี้ไทยโดยนักลงทุนต่างชาติลดลง ปัจจัยในประเทศยังคงส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยทรงตัว แต่อาจต้องจับตาดูปัจจัยต่างประเทศ
เช่น ความกังวลเกี่ยวกับประเทศกรีซทั้งด้านวิกฤตหนี้สาธารณะและการขอเจรจาเงื่อนไขการกู้ยืมจากกลุ่มเจ้าหนี้ต่างประเทศอีกครั้ง ซึ่งอาจมีผลต่อการไหลเข้าและออกของนักลงทุนต่างชาติและอาจส่งผลต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ลงทุนที่คาดหวังโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีกว่าในการเข้าลงทุนกับกองทุน AI เพื่อล็อกโอกาสรับผลตอบแทนไว้ล่วงหน้า
สำหรับกองทุนเปิดแอสเซทพลัสเอไอตราสารหนี้ 10 (ASP-AIF10) เป็นกองทุนที่มีกำหนดการเปิดซื้อขายหน่วยลงทุนเป็นรอบระยะเวลา (Roll-over) เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อย
นายรัชต์ โสดสถิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ในวันที่ 11-17 กุมภาพันธ์ 2558 บลจ.แอสเซท พลัส จะเสนอขายกองทุนเปิดแอสเซทพลัสเอไอตราสารหนี้ 10 (ASP-AIF10) เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจท่ามกลางภาวะดอกเบี้ยต่ำแก่กลุ่มผู้ลงทุนที่ไม่ใช่รายย่อย โดยกองทุนดังกล่าวมีขนาดกองทุน 1,000 ล้านบาท อายุโครงการในรอบการลงทุนนี้ประมาณ 9 เดือน มีแผนจะลงทุนเบื้องต้นในตราสารหนี้ในประเทศ ได้แก่ ตั๋วแลกเงิน บมจ.สวนอุตสาหกรรมโรจนะ (ROJNA) และตั๋วแลกเงิน บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ (NOBLE) ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ BBB+ และ BBB จาก TRIS ตามลำดับ พร้อมด้วยตั๋วแลกเงิน บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) ตั๋วแลกเงิน บมจ.สามารถ ไอ-โมบาย (SIM) ตั๋วแลกเงิน บมจ.ทิปโก้ฟูดส์ (TIPCO) และตั๋วแลกเงิน บมจ.สัมมากร (SAMCO) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 3.20% ต่อปี
ด้านมุมมองต่อการลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศ มองว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยในเดือนมกราคมยังคงปรับลดลงเมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2557 ส่วนหนึ่งเป็นการปรับลดลงตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ และแรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยในเดือนมกราคม 2558 ติดลบ 0.41% จากราคาพลังงานที่ลดลง
อย่างไรก็ตาม เดือนมกราคมนักลงทุนต่างชาติมียอดขายสุทธิในตลาดตราสารหนี้ไทยกว่า 2,800 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดการถือครองตราสารหนี้ไทยโดยนักลงทุนต่างชาติลดลง ปัจจัยในประเทศยังคงส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยทรงตัว แต่อาจต้องจับตาดูปัจจัยต่างประเทศ
เช่น ความกังวลเกี่ยวกับประเทศกรีซทั้งด้านวิกฤตหนี้สาธารณะและการขอเจรจาเงื่อนไขการกู้ยืมจากกลุ่มเจ้าหนี้ต่างประเทศอีกครั้ง ซึ่งอาจมีผลต่อการไหลเข้าและออกของนักลงทุนต่างชาติและอาจส่งผลต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ลงทุนที่คาดหวังโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีกว่าในการเข้าลงทุนกับกองทุน AI เพื่อล็อกโอกาสรับผลตอบแทนไว้ล่วงหน้า
สำหรับกองทุนเปิดแอสเซทพลัสเอไอตราสารหนี้ 10 (ASP-AIF10) เป็นกองทุนที่มีกำหนดการเปิดซื้อขายหน่วยลงทุนเป็นรอบระยะเวลา (Roll-over) เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อย