คลินิกกองทุนรวม :จัดพอร์ตลงทุนรับปีแพะ เลือกสินทรัพย์ให้เหมาะสมช่วยลดความผันผวนได้

สัปดาห์นี้ทีมงานหยิบบทวิเคราะห์ดีๆ จาก บล.ฟิลลิป จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจากคุณสานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล Fund Super Mart Analyst บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ที่จะมาให้คำแนะนำการจัดพอร์ตที่เหมาะสมในปีนี้ ส่วนผู้อ่านท่านใดมีคำถามก็สามารถส่งคำถามมาได้ที่ mgrfund@gmail.com เช่นเดิมคะ

คำแนะนำในการลงทุน

1.เน้นการลงทุนในประเทศพัฒนาแล้ว : เนื่องจากมีการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เพราะหลายประเทศเพิ่งฟื้นจากภาวะถดถอย

2.ตราสารหนี้ต่างประเทศ : การลงทุนในปีนี้อาจจะมีความผันผวนในทางลบมากกว่าทางบวก เนื่องจากปีนี้น่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ทำให้ตราสาหนี้น่าจะมีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น แต่ในส่วนของตราสารหนี้ในยุโรปนั้นยังคงลงทุนได้จากอัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับต่ำมาก และยังไม่มีแนวโน้มการปรับขึ้นในช่วงปีนี้

3.ตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว : ในปีนี้ยังคงเป็นโอกาสในการลงทุนที่ดีสำหรับกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว เนื่องจากมีการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เช่น ญี่ปุ่น และยุโรป ที่มีนโยบายผ่อนคลายนโยบายการเงิน ส่วนสหรัฐฯ เองก็ฟื้ตัวอย่างแข็งแกร่ง

4.ตลาดหุ้นจีน : เนื่องจากจีนมีนโยบายเปิดเสรีทางการเงินมากขึ้น ทำให้มีการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น และมีความพร้อมในการปฎิรูปเศรษฐกิจ ในระยะยาวเรายังคงเห็นการเติบโตของจีนได้อีกมาจากพื้นฐานเศรษฐกิจที่ได้รับการปฎิรูป แต่ยังคงต้องอาศัยระยะเวลาในการลงทุนจึงเหมาะต่อการลงทุนระยะยาวที่มากกว่า 3 ปีขึ้นไป และราคาหุ้นก็ยังไม่สูงเมื่อเทียบกับภูมิภาค

5.ตลาดหุ้นไทย : ตลาดหุ้นไทยยังคงน่าลงทุนถึงแม้ปัจจัยเสี่ยงจะเยอะแต่แนวโน้มการเติบโตจากโครงสร้างพื้นฐานยังเป็นปัจจัยหลักในการลงทุนที่น่าสนใจปีนี้

6.ตราสารหนี้ไทย : การลงทุนในตราสารหนี้ยังสามารถทำได้ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนของประเทศไทย อาจจะทำให้เราได้เห็นการปรับตัวลดลงของอัตราดอกเบี้ยได้

7.ทองคำ : ความต้องการทำคำในปัจจุบันกำลังลดน้อยลง เนื่องจากทองคำเองไม่ได้ทำให้ดอกเบี้ยแก่นักลงทุน แต่ในทางกลับกัน แนวโน้มอัตราในพันธบัตรของประเทศต่างๆ โดยเฉพาะสหรัฐฯ และอังกฤษกำลังจะเพิ่มมากขึ้น จึงกดดันให้ทองคำมีความต้องการน้อยลง ถึงแม้จะสถิติแล้วในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงแรกจะทำให้ทองคำผันผวนในช่วงสั้นๆ และกลับเพิ่มขึ้นในภายหลัง แต่เรามองว่าปัจจัยเสี่ยงในการลงทุนยังคงมากอยู่

8.น้ำมัน : ปริมาณน้ำมันยังคงล้นตลาดจากการที่กลุ่มโอเปกยังมีการผลิตน้ำมันตามปกติ และไม่มีทีท่าจะลดการผลิตลง ทำให้ราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับต่ำแบบนี้ต่อไป เราคาดการณ์ว่า อาจจะต้องใช้เวลา 3-6 เดือนขึ้นไปจึงจะเห็นแนวโน้มที่ชัดเจนมากขึ้น

9.อสังหาฯ ไทย : การลงทุนในอสังหาฯ ไทยยังคงเป็นการลงทุนที่น่าสนใจ เนื่องจากได้ผลตอบแทนที่ไม่ค่อยผันผวนคล้ายการลงทุนในตราสารหนี้แบบระยะยาว แต่ปัจจัยเสี่ยงก็คือ การเติบโตของโครงสร้างพื้นฐานที่อาจจะไม่เป็นไปตามคาดการณ์ และหนี้ครัวเรือนที่สูงมากขึ้น