เอเอฟพี - เศรษฐกิจของมาเลเซีย ขยายตัวร้อนแรงอย่างน่าประหลาดใจถึงร้อยละ 6.2 ในช่วงไตรมาสแรกของปี ธนาคารกลางของประเทศแถลงในวันศุกร์ (16) แต่นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่าตัวเลขการส่งออกที่สูงขึ้น อาจได้รับผลกระทบจากภาวะชะลอตัวในจีน
ชาติเศรษฐกิจอันดับ 3 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบเห็นการเติบโตทางบวกในทุกภาคส่วนหลักๆ ของเศรษฐกิจ ช่วงระหว่างเดือนมกราคมถึงมีนาคมที่ผ่านมา ยกเว้นแต่ภาคเหมืองแร่ ขณะเดียวกัน แบงก์เนการา หรือธนาคารกลางมาเลเซีย บอกต่อว่าอุปสงค์ภายในต่อสินค้าต่างประเทศก็ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งเช่นกัน
ธนาคารกลางแห่งนี้ระบุด้วยว่าอัตราเงินเฟ้อในไตรมาสแรกของปี 2014 อยู่ที่ 3.4 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 0.4 เปอร์เซ็นต์ สืบเนื่องจากรัฐบาลลดการอุดหนุนราคาน้ำมัน น้ำตาล และอื่นๆ
นอกจากนี้แล้วตัวเลขการค้าระหว่างเดือนมกราคมถึงมีนาคมก็เติบโตอย่างแข็งแกร่งเช่นกัน โดยเฉพาะยอดการส่งออกในช่วงนี้ทำให้ประเทศมีตัวเลขเกินดุลการค้าเพิ่มขึ้น 14.9 เปอร์เซ็นต์ และอุปสงค์ภายในเมื่อเทียบแบบปีต่อปีเพิ่มขึ้น 7.4 เปอร์เซ็นต์
“การส่งออกจะยังคงได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของชาติเศรษฐกิจก้าวหน้า ขณะที่คาดหมายว่าอุปสงค์ภายในภาคเอกชนจะยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการเติบโตโดยรวม” ธนาคารกลางมาเลเซียกล่าว
อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกอาจตกอยู่ท่ามกลางความไม่แน่นอน เนื่องจากการเติบโตของจีนยังคงหยุดชะงัก ซึ่งจะกระทบต่อเศรษฐกิจของมาเลเซียด้วย เนื่องจากปักกิ่ง กลายเป็นตลาดส่งออกสำคัญสุดของมาเลเซียในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะน้ำมันปาล์ม อุปกรณ์การขนส่งและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
ยอดการส่งออกไปยังจีนของมาเลเซีย มีมูลค่า 97,000 ล้านริงกิต (ราว 970,000 ล้านบาท) ในปี 2013 แม้ว่าตัวเลขการค้ากับปักกิ่งในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาจะลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2013 ก็ตาม
รัฐบาลมาเลเซียประมาณการว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวราวร้อยละ 5 ถึง 5.5 ในปีนี้ ส่วนธนาคารกลางคาดคะเนไว้ราวๆร้อยละ 4.5 ถึง 5.5 โดยในขณะเดียวกันรัฐบาลก็มีแผนบังคับใช้มาตรการทางภาษีสินค้าและการบริการในปีหน้า ในความพยายามหาทางจัดการกับยอดขาดดุลงบประมาณ
อย่างไรก็ตาม ในวันแรงงาน เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ประชาชนหลายพันคนพากันรวมตัวกันบนท้องถนนเพื่อประท้วงมาตรการทางภาษีใหม่นี้ โดยบอกว่ามันทำให้ต้นทุนการดำเนินชีวิตของพวกเขาสูงเกินไป
