บลจ.กสิกรไทยเตรียมจ่ายปันผลกองทุนอสังหาฯ ส่งท้ายปี 2557 มอบเป็นของขวัญแก่นักลงทุน รวม 4 กองทุน มูลค่าเงินปันผลทั้งสิ้นกว่า 300 ล้านบาท
นายพงศ์พิเชษฐ์ นานานุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า บลจ.กสิกรไทยเตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์จำนวน 4 กองทุน ได้แก่ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ไลฟ์สไตล์ (MJLF) กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เคพีเอ็น (KPNPF) กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โรงแรมและรีสอร์ตในเครือเซ็นทารา (CTARAF) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม แฟคทอรี่ แอนด์แวร์เฮ้าส์ ฟันด์ (WHAPF)
โดยกองทุน MJLF กองทุน KPNPF และกองทุน CTARAF จะจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2557-วันที่ 30 กันยายน 2557 ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่อในสมุดทะเบียนของวันที่ 2 ธันวาคม 2557 โดยกำหนดจ่ายปันผลพร้อมกันในวันที่ 17 ธันวาคม 2557 สำหรับกองทุน WHAPF จะจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2557-วันที่ 31 ตุลาคม 2557 ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่อในสมุดทะเบียนของวันที่ 4 ธันวาคม 2557 โดยกำหนดจ่ายปันผลพร้อมกันในวันที่ 24 ธันวาคม 2557 รวมจ่ายปันผลทั้ง 4 กองทุนรวมมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท
สำหรับกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ไลฟ์สไตล์ (MJLF) มีกำหนดจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.23 บาทต่อหน่วย คิดเป็นมูลค่าการจ่ายเงินปันผลรวม 75.9 ล้านบาท โดยครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 ของรอบปีบัญชี 2557 ซึ่งตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมามีการจ่ายปันผลรวม 29 ครั้ง คิดเป็นการจ่ายปันผลรวมแล้วทั้งสิ้น 6.841 บาทต่อหน่วย และมีอัตราการจ่ายปันผลในรอบปีบัญชีที่ผ่านมาประมาณ 9.9% ต่อปี
โดยกองทุน MJLF มีการลงทุนในสิทธิการเช่าอาคารโครงการเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รังสิต เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน และซูซกิ อเวนิว รัชโยธิน ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการเช่าพื้นที่อยู่ประมาณ 96% ของพื้นที่เช่าทั้งหมด ในด้านกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ เคพีเอ็น (KPNPF) มีกำหนดจ่ายปันผลในอัตรา 0.157 บาทต่อหน่วย คิดเป็นมูลค่าการจ่ายเงินปันผลรวม 28.26 ล้านบาท โดยครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 ของรอบปีบัญชี 2557 ซึ่งตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมามีการจ่ายปันผลรวม 6 ครั้ง คิดเป็นการจ่ายปันผลรวมแล้วทั้งสิ้น 0.9120 บาทต่อหน่วย และมีอัตราการจ่ายปันผลในรอบปีบัญชีที่ผ่านมาประมาณ 6.31% ต่อปี โดยกองทุน KPNPF เป็นอีกหนึ่งกองทุนที่มีความน่าสนใจ
สำหรับกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โรงแรมและรีสอร์ตในเครือเซ็นทารา (CTARAF) มีกำหนดจ่ายปันผลในอัตรา 0.095 บาทต่อหน่วย คิดเป็นมูลค่าการจ่ายเงินปันผลรวม 30.4 ล้านบาท โดยครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 ของรอบปีบัญชี 2557 ซึ่งตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมามีการจ่ายปันผลรวม 22 ครั้ง และมีการจ่ายปันผลรวมแล้วทั้งสิ้น 4.1472 บาทต่อหน่วย
นายพงศ์พิเชษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับทางด้านกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ดับบลิวเอชเอ พรีเมื่ยม แฟคทอรี่ แอนด์แวร์เฮ้าส์ ฟันด์ (WHAPF) มีกำหนดจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.1810 บาทต่อหน่วย คิดเป็นมูลค่าการจ่ายเงินปันผลรวม 169.97 ล้านบาท ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 1 ของรอบปีบัญชี 2557 ซึ่งที่ผ่านมามีการประกาศจ่ายเงินปันผลแล้วรวม 15 ครั้ง คิดเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 2.7667 บาทต่อหน่วย โดยที่ผ่านมาผลการดำเนินงานตลอดระยะเวลาของกองทุนสามารถสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอ จากค่าเช่าของอาคารคลังสินค้าและอาคารโรงงานต่างๆ ซึ่งทุกโครงการยังคงมีผู้เช่าเต็มพื้นที่
ปัจจุบันกองทุน WHAPF ถือครองทรัพย์สินในโครงการรวมแล้วทั้งสิ้นเป็นมูลค่ารวมกว่า 9,307 ล้านบาท และมีขนาดพื้นที่เช่ารวมประมาณ 389,982 ตารางเมตร ซึ่ง บลจ.กสิกรไทยยังเชื่อมั่นว่าคลังสินค้าในกลุ่มดังกล่าวจะได้รับประโยชน์จากการขยายตัวของเศรษฐกิจรวมทั้งการบริโภคในประเทศที่เพิ่มขึ้น และสามารถสร้างโอกาสให้กองทุนมีรายได้อย่างสม่ำเสมอจากสัญญาเช่าระยะยาว และจะสามารถเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจในระยะยาวให้แก่ผู้ลงทุนต่อไป
นายพงศ์พิเชษฐ์ นานานุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า บลจ.กสิกรไทยเตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์จำนวน 4 กองทุน ได้แก่ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ไลฟ์สไตล์ (MJLF) กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เคพีเอ็น (KPNPF) กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โรงแรมและรีสอร์ตในเครือเซ็นทารา (CTARAF) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม แฟคทอรี่ แอนด์แวร์เฮ้าส์ ฟันด์ (WHAPF)
โดยกองทุน MJLF กองทุน KPNPF และกองทุน CTARAF จะจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2557-วันที่ 30 กันยายน 2557 ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่อในสมุดทะเบียนของวันที่ 2 ธันวาคม 2557 โดยกำหนดจ่ายปันผลพร้อมกันในวันที่ 17 ธันวาคม 2557 สำหรับกองทุน WHAPF จะจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2557-วันที่ 31 ตุลาคม 2557 ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่อในสมุดทะเบียนของวันที่ 4 ธันวาคม 2557 โดยกำหนดจ่ายปันผลพร้อมกันในวันที่ 24 ธันวาคม 2557 รวมจ่ายปันผลทั้ง 4 กองทุนรวมมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท
สำหรับกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ไลฟ์สไตล์ (MJLF) มีกำหนดจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.23 บาทต่อหน่วย คิดเป็นมูลค่าการจ่ายเงินปันผลรวม 75.9 ล้านบาท โดยครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 ของรอบปีบัญชี 2557 ซึ่งตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมามีการจ่ายปันผลรวม 29 ครั้ง คิดเป็นการจ่ายปันผลรวมแล้วทั้งสิ้น 6.841 บาทต่อหน่วย และมีอัตราการจ่ายปันผลในรอบปีบัญชีที่ผ่านมาประมาณ 9.9% ต่อปี
โดยกองทุน MJLF มีการลงทุนในสิทธิการเช่าอาคารโครงการเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รังสิต เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน และซูซกิ อเวนิว รัชโยธิน ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการเช่าพื้นที่อยู่ประมาณ 96% ของพื้นที่เช่าทั้งหมด ในด้านกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ เคพีเอ็น (KPNPF) มีกำหนดจ่ายปันผลในอัตรา 0.157 บาทต่อหน่วย คิดเป็นมูลค่าการจ่ายเงินปันผลรวม 28.26 ล้านบาท โดยครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 ของรอบปีบัญชี 2557 ซึ่งตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมามีการจ่ายปันผลรวม 6 ครั้ง คิดเป็นการจ่ายปันผลรวมแล้วทั้งสิ้น 0.9120 บาทต่อหน่วย และมีอัตราการจ่ายปันผลในรอบปีบัญชีที่ผ่านมาประมาณ 6.31% ต่อปี โดยกองทุน KPNPF เป็นอีกหนึ่งกองทุนที่มีความน่าสนใจ
สำหรับกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โรงแรมและรีสอร์ตในเครือเซ็นทารา (CTARAF) มีกำหนดจ่ายปันผลในอัตรา 0.095 บาทต่อหน่วย คิดเป็นมูลค่าการจ่ายเงินปันผลรวม 30.4 ล้านบาท โดยครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 ของรอบปีบัญชี 2557 ซึ่งตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมามีการจ่ายปันผลรวม 22 ครั้ง และมีการจ่ายปันผลรวมแล้วทั้งสิ้น 4.1472 บาทต่อหน่วย
นายพงศ์พิเชษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับทางด้านกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ดับบลิวเอชเอ พรีเมื่ยม แฟคทอรี่ แอนด์แวร์เฮ้าส์ ฟันด์ (WHAPF) มีกำหนดจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.1810 บาทต่อหน่วย คิดเป็นมูลค่าการจ่ายเงินปันผลรวม 169.97 ล้านบาท ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 1 ของรอบปีบัญชี 2557 ซึ่งที่ผ่านมามีการประกาศจ่ายเงินปันผลแล้วรวม 15 ครั้ง คิดเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 2.7667 บาทต่อหน่วย โดยที่ผ่านมาผลการดำเนินงานตลอดระยะเวลาของกองทุนสามารถสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอ จากค่าเช่าของอาคารคลังสินค้าและอาคารโรงงานต่างๆ ซึ่งทุกโครงการยังคงมีผู้เช่าเต็มพื้นที่
ปัจจุบันกองทุน WHAPF ถือครองทรัพย์สินในโครงการรวมแล้วทั้งสิ้นเป็นมูลค่ารวมกว่า 9,307 ล้านบาท และมีขนาดพื้นที่เช่ารวมประมาณ 389,982 ตารางเมตร ซึ่ง บลจ.กสิกรไทยยังเชื่อมั่นว่าคลังสินค้าในกลุ่มดังกล่าวจะได้รับประโยชน์จากการขยายตัวของเศรษฐกิจรวมทั้งการบริโภคในประเทศที่เพิ่มขึ้น และสามารถสร้างโอกาสให้กองทุนมีรายได้อย่างสม่ำเสมอจากสัญญาเช่าระยะยาว และจะสามารถเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจในระยะยาวให้แก่ผู้ลงทุนต่อไป