กสิกรไทยปันผลกองอสังหาฯ ศก.โตดันค่าเช่าเต็มโครงการ

บลจ.กสิกรไทยจ่อปันผลกองอสังหาฯ คลังสินค้า WHAPF อีก 175 ล้านบาท หลังจ่ายปันผลไปแล้ว 3 ครั้งหรือคิดเป็นผลตอบแทนประมาณ 7.05% ต่อปี ระบุแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศโตหนุนกองทุนทำรายได้มากขึ้น

นายพงศ์พิเชษฐ์ นานานุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม แฟคทอรี่แอนด์แวร์เฮ้าส์ ฟันด์ (WHAPF) ครั้งที่ 14 สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2556 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2557 ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่ออยู่ในสมุดทะเบียนวันที่ 22 กันยายน 2557 ในอัตรา 0.1870 บาทต่อหน่วย โดยมีกำหนดจ่ายเงินปันผลดังกล่าวในวันที่ 30 กันยายน 2557 มูลค่าการจ่ายเงินปันผลรวม 175.60 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทเชื่อมั่นว่าคลังสินค้าที่กองทุนลงทุนจะได้รับประโยชน์จากการขยายตัวของเศรษฐกิจรวมทั้งการบริโภคในประเทศที่เพิ่มขึ้น และสามารถสร้างโอกาสให้กองทุนมีรายได้อย่างสม่ำเสมอจากสัญญาเช่าระยะยาวและจะสามารถเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจในระยะยาวให้แก่ผู้ลงทุนต่อไป

“ผลการดำเนินงานของกองทุน WHAPF ที่ผ่านมาถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพึงพอใจ ทั้งนี้นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนในปี 2553 เป็นต้นมา กองทุนฯ มีการประกาศจ่ายเงินปันผลแล้ว 13 ครั้ง จ่ายปันผลรวมทั้งสิ้น 2.5857 บาทต่อหน่วย อย่างไรก็ตาม สำหรับผลการดำเนินงานในรอบบัญชีที่ผ่านมา (1 ส.ค. 2556-31 ก.ค. 2557) กองทุนมีกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้ว 587.17 ล้านบาท และมีประวัติการจ่ายเงินปันผลทั้งสิ้นจำนวน 3 ครั้ง รวมทั้งสิ้นในอัตรา 0.5115 บาทต่อหน่วย ซึ่งหากรวมการจ่ายปันผลในครั้งนี้แล้ว จะคิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลต่อปี (Dividend Yield) ที่ประมาณ 7.05% ต่อปี”

นายพงศ์พิเชษฐ์กล่าวอีกว่า กองทุนดังกล่าวยังคงมีรายได้อย่างสม่ำเสมอจากค่าเช่าของอาคารคลังสินค้าและอาคารโรงงานต่างๆ ซึ่งทุกโครงการยังคงมีผู้เช่าเต็มพื้นที่ โดยในปัจจุบันกองทุน WHAPF ถือครองทรัพย์สินในโครงการรวมแล้วทั้งสิ้นเป็นมูลค่ารวมกว่า 9,307 ล้านบาท และมีขนาดพื้นที่เช่ารวมประมาณ 389,982 ตารางเมตร ซึ่งประกอบด้วยโครงการอาคารคลังสินค้าและโรงงานคุณภาพสูง จำนวน 17 โครงการ เช่น โครงการคลังสินค้า Kao 1, Kao 2 และ Kao 3, โครงการอาคารคลังสินค้า DKSH จำนวน 7 โครงการซึ่งตั้งอยู่ที่บางพลี บางปะอิน และบริเวณถนนบางนา-ตราด ก.ม.20, โครงการศูนย์กระจายสินค้า WHA Mega Logistics Center บนถนนบางนา-ตราด กม.19 และโครงการศูนย์กระจายสินค้า WHA Mega Logistics Center บริเวณ อ.พานทอง จ.ชลบุรี, โครงการ DSG 1 และ 2 ในเขตประกอบการเหมราช จ.สระบุรี และยังมีอีก 3 โครงการ คือ โครงการโรงงาน Primus และโครงการโรงงาน Ducati 1 และ 2 ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จ. ระยอง ซึ่ง บลจ.กสิกรไทย ยังเชื่อมั่นว่าคลังสินค้าในกลุ่มดังกล่าวจะได้รับประโยชน์จากการขยายตัวของเศรษฐกิจรวมทั้งการบริโภคในประเทศที่เพิ่มขึ้น และสามารถสร้างโอกาสให้กองทุนมีรายได้อย่างสม่ำเสมอจากสัญญาเช่าระยะยาว และจะสามารถเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจในระยะยาวให้แก่ผู้ลงทุนต่อไป