บลจ.กสิกรไทยสุดปลื้ม นักลงทุนแห่จองเพิ่มทุนกองอสังหาฯ WHAPF เต็มโครงการ 4 พันล้านบาท จ่อขยายลงทุนเพิ่ม 6 โครงการ ทั้งคลังสินค้า โรงงาน และระบบปรับอากาศ ดันขนาดกองทุนเกือบ 1 หมื่นล้านบาท ระบุทุกโครงการยังมีผู้เช่าเต็มพื้นที่
นายประเสริฐ ขนบธรรมชัย รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า จากการเปิดจองซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มทุนครั้งที่ 3 ของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม แฟคทอรี่แอนด์แวร์เฮ้าส์ ฟันด์ (WHAPF) สำหรับผู้ถือหน่วยลงทุนเดิม เมื่อวันที่ 12-14 พฤศจิกายน 2556 และสำหรับผู้ลงทุนทั่วไป เมื่อวันที่ 18-22 พฤศจิกายน 2556 ที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดียิ่ง ทำให้มียอดจองซื้อหน่วยลงทุนเข้ามาเต็มมูลค่าโครงการกว่า 4,055 ล้านบาท
ทั้งนี้ กองทุนเตรียมจะขยายการลงทุนในโครงการคลังสินค้าและโรงงานจำนวน 5 โครงการ และโครงการระบบปรับอากาศ 1 โครงการ ซึ่งโครงการทั้งหมดไม่เพียงโดดเด่นด้วยมาตรฐานการก่อสร้างในระดับสากล หากยังมีความได้เปรียบในแง่ที่ตั้งซึ่งอยู่บนทำเลยุทธศาสตร์การขนส่งและลอจิสติกส์
สำหรับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม แฟคทอรี่แอนด์แวร์เฮ้าส์ ฟันด์ (WHAPF) ปัจจุบันมีจำนวนเงินทุนโครงการ 5,252 ล้านบาท และภายหลังดำเนินการเพิ่มทุนครั้งที่ 3 นี้แล้วจะส่งผลให้กองทุนมีขนาดโครงการเพิ่มเป็นประมาณ 9,308 ล้านบาท ปัจจุบันมีการลงทุนในอาคารคลังสินค้าและอาคารโรงงานรวมแล้ว 9 โครงการ ประกอบด้วยโครงการคลังสินค้า 7 โครงการ
นายประเสริฐกล่าวต่อไปว่า บลจ.กสิกรไทยขอขอบคุณผู้ลงทุนในกองทุน WHAPF ทุกท่านที่มอบความไว้วางใจให้ บลจ.กสิกรไทยในการบริหารกองทุน และขอขอบคุณธนาคารกสิกรไทยและธนาคารไทยพาณิชย์ที่ได้ให้การสนับสนุนการขายอย่างดียิ่ง ตลอดทั้งร่วมกันเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์เกี่ยวกับการลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ WHAPF เพื่อประกอบการตัดสินใจแก่ผู้ลงทุน อันเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันความสำเร็จในการเสนอขายหน่วยลงทุนเพิ่มทุนดังกล่าว ขณะนี้ บลจ.กสิกรไทย อยู่ระหว่างดำเนินการจัดสรรหน่วยลงทุน ซึ่งผู้ลงทุนในกองทุน WHAPF ที่จองซื้อหน่วยลงทุนเข้ามาสามารถติดตามตรวจสอบผลการจัดสรรหน่วยลงทุนเพิ่มทุนได้ทาง www.kasikornasset.com
ทั้งนี้ สำหรับผู้ลงทุนที่พลาดโอกาสจองซื้อในครั้งนี้สามารถเข้าซื้อ-ขายหน่วยลงทุนในกองทุนดังกล่าวภายใต้ชื่อ WHAPF ได้ตามราคาตลาดฯ ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่ง บลจ.กสิกรไทยคาดว่าจะสามารถนำหน่วยลงทุนเพิ่มทุนครั้งที่ 3 นี้เข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ภายในต้นเดือนธันวาคมนี้
ได้แก่ โครงการคลังสินค้า Kao 1, Kao 2 และโครงการคลังสินค้า Kao 3 ตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี พร้อมด้วย อาคารคลังสินค้า DKSH (หรือดีทแฮล์มเดิม) จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ โครงการคลังสินค้า DKSH ที่นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โครงการคลังสินค้า DKSH Consumer โครงการคลังสินค้า DKSH 3M และโครงการคลังสินค้า Healthcare บริเวณ ถ.บางนา-ตราด กม.20 (ใกล้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ) และยังมีโครงการโรงงานอีก 2 โครงการ คือ โครงการโรงงาน Primus และโครงการโรงงาน Ducati ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จ. ระยอง ซึ่งทุกโครงการยังคงมีผู้เช่าเต็มพื้นที่ ทั้งนี้นับตั้งแต่จัดตั้งโครงการในปี 2553 เป็นต้นมากองทุนมีรายได้อย่างสม่ำเสมอจากค่าเช่าอาคารคลังสินค้าและอาคารโรงงาน และมีการประกาศจ่ายเงินปันผลแล้วทั้งสิ้น 11 ครั้ง อัตราการจ่ายปันผลรวมทั้งสิ้น 2.0692 บาทต่อหน่วย โดยมีอัตราการจ่ายปันผลในรอบปีบัญชีที่ผ่านมาประมาณ 7.20% ต่อปี มูลค่าเงินปันผลรวมแล้วทั้งสิ้นประมาณ 651 ล้านบาท