นักวิเคราะห์คาดสัปดาห์นี้ถือเป็นรอยต่อสำคัญสำหรับสถานการณ์การเมืองในประเทศ โดยในส่วนของร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ก็จะเห็นผลความชัดเจน และความเชื่อมั่นผู้ชุมนุมฯ ต่อรัฐบาลจะมีหรือไม่ พร้อมคาดจันทร์นี้ หากเกิดกรณีเลวร้ายที่สุด สถานการณ์ยังไม่รุนแรง ดัชนีหุ้นปรับลงไม่เกิน 3.3%
นางภรณี ทองเย็น ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส ได้ออกบทวิจัยประจำสัปดาห์ที่ 11-15 พ.ย.2556 โดยระบุว่า ปัจจัยการเมืองจะยังคงเป็นประเด็นที่สร้างแรงกดดันให้แก่ดัชนีหุ้นไทย โดยเชื่อว่าบริเวณ 1,360-1,380 จุด หรือสัดส่วนราคาต่อกำไร 14 เท่า น่าจะสามารถรับแรงกดดันดังกล่าวได้ (หากไม่มีเหตุรุนแรง) หรือลดลงจากระดับ 1,405.03 จุด เมื่อวันศุกร์ที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา
ดังนั้น หากเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ดัชนีปรับลดลงมาบริเวณดังกล่าว จึงควรถือเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้น โดยเน้นหุ้นปัจจัยพื้นฐานแกร่ง เช่น บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ราคาที่เหมาะสม 558 บาท บริษัท ศรีราชา คอนสตรัคชั่น (SRICHA) ราคาที่เหมาะสม 48 บาท บริษัท เอเอสเค (ASK) ราคาที่เหมาะสม 32.50 บาท และบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) ราคาที่เหมาะสม 88 บาท
ด้าน บล.กสิกรไทย และบริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ดัชนีหุ้นไทย 11-15 พ.ย. ยังคงผันผวน และมีโอกาสปรับลดลง โดยต้องติดตามประเด็นการเมืองในประเทศ และคำตัดสินของศาลโลกในคดีปราสาทพระวิหารเป็นปัจจัยสำคัญ
สัปดาห์ที่ผ่านมา (4-8 พ.ย.2556) ต่างชาติได้พลิกกลับมาขายสุทธิหุ้นไทย 8,308 ล้านบาท ขณะที่กลุ่มนักลงทุนสถาบันได้พลิกกลับมาซื้อสุทธิอีกครั้งราว 3,463 ล้านบาท
สัปดาห์นี้ถือเป็นรอยต่อสำคัญสำหรับสถานการณ์การเมืองในประเทศ โดยในส่วนของร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ก็จะเห็นความชัดเจนของผลการพิจารณาในชั้นวุฒิสภาว่าจะออกมาในแนวทางใดระหว่างการโหวตไม่รับหลักการตั้งแต่วาระ 1 และส่งกฎหมายกลับไปยังสภาผู้แทนราษฎร
ทั้งนี้ อาจตรงตามความต้องการของกลุ่มผู้ชุมนุม หรือรับหลักการในวาระ 1 แล้วทำการแปรญัตติในวาระ 2 ให้กลับไปเป็นร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับต้นซอย หลังจากนั้นทำการตั้งกรรมาธิการร่วม 2 สภาขึ้นมาเพื่อพิจารณา และอนุมัติ ซึ่งเป็นแนวทางที่กลุ่มผู้ชุมนุมเสนอ แต่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเวลา 18.00 น. ของวันจันทร์ที่ 11 พ.ย.2556
อย่างไรก็ตาม หากไม่เป็นไปตามกำหนดการข้างต้น คาดว่าจะเห็นการชุมนุมที่เข้มข้นมากขึ้น และในวันที่ 11 พ.ย.2556 เช่นกัน ในเวลา 16.00 น. ศาลโลกก็จะอ่านคำวินิจฉัยกรณีปราสาทพระวิหาร ซึ่งได้มีการเชื่อมโยงประเด็นนี้กับการเมืองในประเทศ ในขณะที่สภาธุรกิจตลาดทุนไทยได้ถอนการประชุมออกมาดูสถานการณ์ก่อน
