**ไม่ได้คิดจะทำให้การเคลื่อนไหวของประชาชนภาคส่วนต่างๆ ชะงักงัน แต่เรื่องที่กลุ่มเคลื่อนไหวคัดค้าน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ โดยเฉพาะ “พรรคประชาธิปัตย์”พยายามจะบอกว่า ต้องฝากความหวังไว้ที่ “วุฒิสภา” ให้เป็นด่านสำคัญในการคัดค้าน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ
หวังจะเห็นวุฒิสภาไม่ให้ความเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ในวาระแรกที่เป็นวาระรับหลักการ หรือหากสกัดไม่ได้ วุฒิสภาเห็นชอบจนผ่านวาระแรกไปได้ ก็ขอให้กรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ของวุฒิสภาไปแก้ไขเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญของ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ที่ผ่านสภา ฯ มาแล้วตอนพิจารณาวาระ 2 วุฒิสภาก็เห็นชอบกับ ร่าง ดังกล่าวที่กมธ.วุฒิสภาไปปรับแก้ไขที่จะต่างจากร่างที่ผ่านสภาผู้แทนราษฎร จนสุดท้ายวุฒิสภาโหวตเห็นชอบในวาระ 3 ตามร่างของกมธ.วุฒิสภา ที่ไปแก้ไขเปลี่ยนแปลงร่างของสภาผู้แทนฯจนหมด
อันจะนำไปสู่การตั้งกรรมาธิการร่วมฯสองสภาฯ คือ สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา
เพราะหากวุฒิสภาไปเปลี่ยนแปลงแก้ไขร่างที่ผ่านสภาล่างมา สภาทาสเพื่อไทยไม่ยอมแน่ ฝ่ายสภาเพื่อไทย ยังไงก็ต้องยืนกรานให้คงตามร่างเดิมที่ผ่านสภาล่างมาทุกตัวอักษร ห้ามแตะต้องทำให้ต้องตั้งกมธ.ร่วมสองสภาฯ
หากกระบวนการทั้งหมดเป็นไปแบบนี้ ก็จะทำให้ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่ ทักษิณ ชินวัตร–เพื่อไทย ติดเครื่องเร่งกันอย่างหนักในชั้นสภาผู้แทนฯมาสะดุดในชั้นวุฒิสภา อย่างน้อยก็เกือบร่วมๆ 2 เดือน หากทุกอย่างเป็นไปตามที่บอกไว้ข้างต้น
อันนี้ยังไม่นับรวมกับขั้นตอนที่เมื่อมีการตั้งกมธ.ร่วมสองสภาฯแล้ว กมธ.ก็ต้องมานั่งประชุมกันต่ออีก อาจจะประมาณสัก 1-2 สัปดาห์ เพื่อหาข้อสรุป ว่าจะเอายังไง ก็ยังไม่รู้ว่าผลจะออกมาแบบไหน แต่ส่วนใหญ่แล้ว หากเป็น ร่าง พ.ร.บ.สำคัญๆ อย่างเช่น ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ แบบนี้ ทางเพื่อไทยก็ต้องพยายามดันให้กมธ.ร่วมสองสภาฯ มีมติกลับไปใช้ร่างเดิมที่ผ่านสภาฯให้ได้
แม้หากไม่สามารถทำได้ ซึ่งมีความเป็นไปได้น้อยมาก ทว่าหากเกิดเหตุแบบนั้นจริงเพื่อไทยก็แก้ปัญหาได้อยู่ดี คือ เมื่อกมธ.ร่วมฯ ส่งรายงานของกมธ.กลับไปที่สภาล่าง ฝ่ายเพื่อไทยก็ยังสามารถใช้เสียงสภาทาสที่มีอยู่ในมือประมาณ 300 เสียง ลงมติในที่ประชุมสภาฯ ให้ยืนยันกลับมาใช้ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ฉบับ“ลักหลับคืนปล่อยผี”ได้อยู่ดี
**จะเห็นได้ว่า เมื่อดูขั้นตอนตามรัฐธรรมนูญแล้วยังไงเสียก็ยากที่ วุฒิสภา จะสกัดกั้น หรือยับยั้งร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯได้
อย่างในการโหวตวาระแรก ที่มีข่าวว่าวิปวุฒิสภาจะดันเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมวุฒิสภาฯ 8 พ.ย. หากปรากฏว่าวุฒิสภา “ไม่รับหลักการ” ในวาระแรก คือ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ไม่ผ่านวุฒิสภาวาระแรก
ก็ใช่ว่า ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ จะตกไป เพียงแต่ว่าสภาฯ จะต้องเว้นวรรคไปประมาณ 180 วัน คือ หมายความว่าในช่วง 180 วัน ที่ก็คือ 6 เดือน สภาฯจะไม่สามารถนำ ร่าง พ.ร.บ.ที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกัน เช่น ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองของ เฉลิม อยู่บำรุง มาพิจารณาใหม่ได้ แต่หากพ้น 180 วันไปแล้ว ทางสภาผู้แทนฯก็นำ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ที่วุฒิสภาตีตก กลับมายืนยันได้อีกครั้ง แล้วหากสภาฯ มีมติเสียงข้างมากยืนยันร่างดังกล่าว ขั้นตอนต่อไปก็เข้าสู่กระบวนการเตรียมประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป โดยไม่ต้องส่งกลับไปที่วุฒิสภาอีกครั้ง
**เมื่อดูตามขั้นตอนดังกล่าวจะเห็นได้ว่า วุฒิสภาก็ทำได้แค่คอยแตะเบรก ดึงจังหวะให้ช้าลงเท่านั้น ไม่ได้มีอำนาจในการสกัดกั้น ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯได้เลย
**จึงไม่แปลก เมื่อเวทีสามเสนของพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อสุเทพ เทือกสุบรรณ ประกาศว่า จะขอรอดูการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมในชั้นวุฒิสภาก่อน ถึงค่อยยกระดับการเคลื่อนไหวคนถึง “ส่ายหน้า-ผิดหวัง” กันหมด
โดยเฉพาะคนที่เข้าใจขั้นตอนการพิจารณากฎหมายที่รู้ดีว่า หากร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ผ่านสภาฯมาแล้ว ก็ยากแล้วที่จะขวางได้ในชั้นวุฒิสภาเพราะสภาสูง ก็ทำได้แค่ถ่วงเวลาให้ช้าลงเท่านั้น แต่สกัดไม่ได้
อีกทั้งต้องยอมรับความจริงว่า วุฒิสภาชุดนี้ หากพูดถึงความเป็นอิสระ-การไม่ถูกแทรงแซงจากการเมืองนอกสภาสูง ก็ใช่ว่าจะปลอดมลทินเรื่องดังกล่าว กลับเป็นไปในทางตรงข้ามที่อุดมไปด้วย “ทาสแม้ว”เกลื่อนไปหมด
บอกได้ว่าตอนนี้วุฒิสภาเสียงส่วนใหญ่เป็นเสียง ส.ว.สายพรรคร่วมรัฐบาล มากกว่า ส.ว.สายอิสระ-กลุ่ม 40 ส.ว. ที่กลุ่มหลังรวมตัวกันเสียงในวุฒิสภาก็ยังน้อยกว่าส.ว.สายพรรคร่วมรัฐบาลหลายสิบเสียง
ตรงนี้เห็นได้ชัดจากการจับมือกันของส.ว.เลือกตั้ง และพวกส.ว.สรรหาบางส่วน ที่ระยะหลังวิ่งเข้าหาพรรคร่วมรัฐบาล จากที่พวกนี้ได้จับมือกับพรรคร่วมรัฐบาลในการเสนอญัตติแก้ไขรธน. ทั้งเรื่องที่มาส.ว.-แก้มาตรา 68 และ มาตรา190
เมื่อดูจากเสียงเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ที่วุฒิสภาเห็นชอบด้วยคะแนนเสียง 86 เสียง ต่อ 41 เสียง งดออกเสียง 8 เสียง แสดงให้เห็นว่า ส.ว.สายพรรคร่วมรัฐบาล มีอยู่ในหน้าตักก็แตะระดับ 80 เสียงขึ้นไป ขณะที่ ส.ว.ที่น่าจะลงมติไม่เอาด้วยกับ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ก็น่าจะอยู่ที่ระดับแค่ประมาณ 40 เสียงเท่านั้น
ตัวเลขนี้แม้มีสิทธิสวิงกันได้ คืออาจมีส.ว.ที่เคยเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท เปลี่ยนใจไม่เอาด้วยกับ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ เพราะเห็นว่ากระแสสังคมต่อต้านสูง จนทำให้คะแนนเสียงเห็นชอบไม่เกินกึ่งหนึ่ง แต่ก็มีข่าวว่า ส.ว.สายพรรคร่วมรัฐบาล ที่น่าจะรับงานมาจากสายเพื่อไทยแล้ว ก็เริ่มล็อบบี้พวกส.ว.ด้วยกันเองกันหนักๆ เพื่อขอให้ช่วยโหวตเสียงผ่าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ
เวลานี้เริ่มฝุ่นตลบกันแล้วในสภาสูง เพราะส.ว.สายน้ำดี ที่ไม่เอา พ.ร.บ.นิรโทษฯ ก็พยายามขอเสียงส.ว.ให้คว่ำ ร่าง พ.ร.บ.อัปยศนี้เช่นกัน
**ในทางการเมืองแล้วหากร่างกฎหมายลักหลับปล่อยโจรปล้นชาติผ่านวาระแรกมาได้ ที่เหลือไม่ว่าจะเป็น วาระ 2 และ 3 ในชั้นวุฒิสภา ก็ไม่ต้องคิดมาก ก็น่าจะผ่านเช่นกัน เพราะล่าสุดวิปวุฒิสภาก็ออกมาบอกแล้วว่า ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ จะดันให้ผ่านทั้งฉบับก่อนปิดประชุมสมัยนี้ !!!!
อย่างไรก็ตาม ส.ว.สายสรรหา หลายคนก็ยังมั่นใจว่า วุฒิสภาจะไม่ผ่าน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ แต่หากผ่าน ก็ต้องไปหวังที่ศาลรธน. อย่างเดียวแล้ว
**ด้วยเหตุผลที่มาที่ไปข้างต้นทั้งหมดนี้ จึงเห็นได้ว่า แทบไม่มีประโยชน์อะไรเลย หากจะตั้งเวทีสามเสนแล้วไล่ทุบเรื่อง ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ไปเรื่อยๆ แบบนี้
เพราะหากวุฒิสภาผ่านวาระแรกแล้ว ปชป.จะรอเป่านกหวีดใหญ่หลังวุฒิสภา ให้ความเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ วาระ 3 ที่ก็คาดว่าต่อให้ติดเครื่องเร่งกันขนาดไหน ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3-4 สัปดาห์
ทั้งที่เวลานี้มีความชอบธรรมมากที่สุดแล้วในการยกระดับขับไล่รัฐบาล-สภาทาสเพื่อไทย ไม่ใช่มารอเลี้ยงไข้ หรือโยนความรับผิดชอบไปให้วุฒิสภาทั้งหมดอย่างที่ สุเทพ พยายามจะทำตอนนี้
หากปชป.-เวทีสามเสน รอกันขนาดนั้น จะรอดูผลในชั้นวุฒิสภากันนานถึงตอนนั้นหรือถึงขั้นจะรอให้ศาลรธน.วินิจฉัยอีกที ก็โน่นเลย เลยเกือบปีใหม่เห็นๆ
**หากรอกันแบบนั้น รับรองเวทีสามเสน กองเชียร์หายหมด ทักษิณก็กลับมาครองเมือง ยึดประเทศไทยโดยเบ็ดเสร็จไปแล้ว
หวังจะเห็นวุฒิสภาไม่ให้ความเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ในวาระแรกที่เป็นวาระรับหลักการ หรือหากสกัดไม่ได้ วุฒิสภาเห็นชอบจนผ่านวาระแรกไปได้ ก็ขอให้กรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ของวุฒิสภาไปแก้ไขเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญของ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ที่ผ่านสภา ฯ มาแล้วตอนพิจารณาวาระ 2 วุฒิสภาก็เห็นชอบกับ ร่าง ดังกล่าวที่กมธ.วุฒิสภาไปปรับแก้ไขที่จะต่างจากร่างที่ผ่านสภาผู้แทนราษฎร จนสุดท้ายวุฒิสภาโหวตเห็นชอบในวาระ 3 ตามร่างของกมธ.วุฒิสภา ที่ไปแก้ไขเปลี่ยนแปลงร่างของสภาผู้แทนฯจนหมด
อันจะนำไปสู่การตั้งกรรมาธิการร่วมฯสองสภาฯ คือ สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา
เพราะหากวุฒิสภาไปเปลี่ยนแปลงแก้ไขร่างที่ผ่านสภาล่างมา สภาทาสเพื่อไทยไม่ยอมแน่ ฝ่ายสภาเพื่อไทย ยังไงก็ต้องยืนกรานให้คงตามร่างเดิมที่ผ่านสภาล่างมาทุกตัวอักษร ห้ามแตะต้องทำให้ต้องตั้งกมธ.ร่วมสองสภาฯ
หากกระบวนการทั้งหมดเป็นไปแบบนี้ ก็จะทำให้ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่ ทักษิณ ชินวัตร–เพื่อไทย ติดเครื่องเร่งกันอย่างหนักในชั้นสภาผู้แทนฯมาสะดุดในชั้นวุฒิสภา อย่างน้อยก็เกือบร่วมๆ 2 เดือน หากทุกอย่างเป็นไปตามที่บอกไว้ข้างต้น
อันนี้ยังไม่นับรวมกับขั้นตอนที่เมื่อมีการตั้งกมธ.ร่วมสองสภาฯแล้ว กมธ.ก็ต้องมานั่งประชุมกันต่ออีก อาจจะประมาณสัก 1-2 สัปดาห์ เพื่อหาข้อสรุป ว่าจะเอายังไง ก็ยังไม่รู้ว่าผลจะออกมาแบบไหน แต่ส่วนใหญ่แล้ว หากเป็น ร่าง พ.ร.บ.สำคัญๆ อย่างเช่น ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ แบบนี้ ทางเพื่อไทยก็ต้องพยายามดันให้กมธ.ร่วมสองสภาฯ มีมติกลับไปใช้ร่างเดิมที่ผ่านสภาฯให้ได้
แม้หากไม่สามารถทำได้ ซึ่งมีความเป็นไปได้น้อยมาก ทว่าหากเกิดเหตุแบบนั้นจริงเพื่อไทยก็แก้ปัญหาได้อยู่ดี คือ เมื่อกมธ.ร่วมฯ ส่งรายงานของกมธ.กลับไปที่สภาล่าง ฝ่ายเพื่อไทยก็ยังสามารถใช้เสียงสภาทาสที่มีอยู่ในมือประมาณ 300 เสียง ลงมติในที่ประชุมสภาฯ ให้ยืนยันกลับมาใช้ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ฉบับ“ลักหลับคืนปล่อยผี”ได้อยู่ดี
**จะเห็นได้ว่า เมื่อดูขั้นตอนตามรัฐธรรมนูญแล้วยังไงเสียก็ยากที่ วุฒิสภา จะสกัดกั้น หรือยับยั้งร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯได้
อย่างในการโหวตวาระแรก ที่มีข่าวว่าวิปวุฒิสภาจะดันเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมวุฒิสภาฯ 8 พ.ย. หากปรากฏว่าวุฒิสภา “ไม่รับหลักการ” ในวาระแรก คือ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ไม่ผ่านวุฒิสภาวาระแรก
ก็ใช่ว่า ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ จะตกไป เพียงแต่ว่าสภาฯ จะต้องเว้นวรรคไปประมาณ 180 วัน คือ หมายความว่าในช่วง 180 วัน ที่ก็คือ 6 เดือน สภาฯจะไม่สามารถนำ ร่าง พ.ร.บ.ที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกัน เช่น ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองของ เฉลิม อยู่บำรุง มาพิจารณาใหม่ได้ แต่หากพ้น 180 วันไปแล้ว ทางสภาผู้แทนฯก็นำ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ที่วุฒิสภาตีตก กลับมายืนยันได้อีกครั้ง แล้วหากสภาฯ มีมติเสียงข้างมากยืนยันร่างดังกล่าว ขั้นตอนต่อไปก็เข้าสู่กระบวนการเตรียมประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป โดยไม่ต้องส่งกลับไปที่วุฒิสภาอีกครั้ง
**เมื่อดูตามขั้นตอนดังกล่าวจะเห็นได้ว่า วุฒิสภาก็ทำได้แค่คอยแตะเบรก ดึงจังหวะให้ช้าลงเท่านั้น ไม่ได้มีอำนาจในการสกัดกั้น ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯได้เลย
**จึงไม่แปลก เมื่อเวทีสามเสนของพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อสุเทพ เทือกสุบรรณ ประกาศว่า จะขอรอดูการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมในชั้นวุฒิสภาก่อน ถึงค่อยยกระดับการเคลื่อนไหวคนถึง “ส่ายหน้า-ผิดหวัง” กันหมด
โดยเฉพาะคนที่เข้าใจขั้นตอนการพิจารณากฎหมายที่รู้ดีว่า หากร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ผ่านสภาฯมาแล้ว ก็ยากแล้วที่จะขวางได้ในชั้นวุฒิสภาเพราะสภาสูง ก็ทำได้แค่ถ่วงเวลาให้ช้าลงเท่านั้น แต่สกัดไม่ได้
อีกทั้งต้องยอมรับความจริงว่า วุฒิสภาชุดนี้ หากพูดถึงความเป็นอิสระ-การไม่ถูกแทรงแซงจากการเมืองนอกสภาสูง ก็ใช่ว่าจะปลอดมลทินเรื่องดังกล่าว กลับเป็นไปในทางตรงข้ามที่อุดมไปด้วย “ทาสแม้ว”เกลื่อนไปหมด
บอกได้ว่าตอนนี้วุฒิสภาเสียงส่วนใหญ่เป็นเสียง ส.ว.สายพรรคร่วมรัฐบาล มากกว่า ส.ว.สายอิสระ-กลุ่ม 40 ส.ว. ที่กลุ่มหลังรวมตัวกันเสียงในวุฒิสภาก็ยังน้อยกว่าส.ว.สายพรรคร่วมรัฐบาลหลายสิบเสียง
ตรงนี้เห็นได้ชัดจากการจับมือกันของส.ว.เลือกตั้ง และพวกส.ว.สรรหาบางส่วน ที่ระยะหลังวิ่งเข้าหาพรรคร่วมรัฐบาล จากที่พวกนี้ได้จับมือกับพรรคร่วมรัฐบาลในการเสนอญัตติแก้ไขรธน. ทั้งเรื่องที่มาส.ว.-แก้มาตรา 68 และ มาตรา190
เมื่อดูจากเสียงเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ที่วุฒิสภาเห็นชอบด้วยคะแนนเสียง 86 เสียง ต่อ 41 เสียง งดออกเสียง 8 เสียง แสดงให้เห็นว่า ส.ว.สายพรรคร่วมรัฐบาล มีอยู่ในหน้าตักก็แตะระดับ 80 เสียงขึ้นไป ขณะที่ ส.ว.ที่น่าจะลงมติไม่เอาด้วยกับ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ก็น่าจะอยู่ที่ระดับแค่ประมาณ 40 เสียงเท่านั้น
ตัวเลขนี้แม้มีสิทธิสวิงกันได้ คืออาจมีส.ว.ที่เคยเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท เปลี่ยนใจไม่เอาด้วยกับ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ เพราะเห็นว่ากระแสสังคมต่อต้านสูง จนทำให้คะแนนเสียงเห็นชอบไม่เกินกึ่งหนึ่ง แต่ก็มีข่าวว่า ส.ว.สายพรรคร่วมรัฐบาล ที่น่าจะรับงานมาจากสายเพื่อไทยแล้ว ก็เริ่มล็อบบี้พวกส.ว.ด้วยกันเองกันหนักๆ เพื่อขอให้ช่วยโหวตเสียงผ่าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ
เวลานี้เริ่มฝุ่นตลบกันแล้วในสภาสูง เพราะส.ว.สายน้ำดี ที่ไม่เอา พ.ร.บ.นิรโทษฯ ก็พยายามขอเสียงส.ว.ให้คว่ำ ร่าง พ.ร.บ.อัปยศนี้เช่นกัน
**ในทางการเมืองแล้วหากร่างกฎหมายลักหลับปล่อยโจรปล้นชาติผ่านวาระแรกมาได้ ที่เหลือไม่ว่าจะเป็น วาระ 2 และ 3 ในชั้นวุฒิสภา ก็ไม่ต้องคิดมาก ก็น่าจะผ่านเช่นกัน เพราะล่าสุดวิปวุฒิสภาก็ออกมาบอกแล้วว่า ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ จะดันให้ผ่านทั้งฉบับก่อนปิดประชุมสมัยนี้ !!!!
อย่างไรก็ตาม ส.ว.สายสรรหา หลายคนก็ยังมั่นใจว่า วุฒิสภาจะไม่ผ่าน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ แต่หากผ่าน ก็ต้องไปหวังที่ศาลรธน. อย่างเดียวแล้ว
**ด้วยเหตุผลที่มาที่ไปข้างต้นทั้งหมดนี้ จึงเห็นได้ว่า แทบไม่มีประโยชน์อะไรเลย หากจะตั้งเวทีสามเสนแล้วไล่ทุบเรื่อง ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ไปเรื่อยๆ แบบนี้
เพราะหากวุฒิสภาผ่านวาระแรกแล้ว ปชป.จะรอเป่านกหวีดใหญ่หลังวุฒิสภา ให้ความเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ วาระ 3 ที่ก็คาดว่าต่อให้ติดเครื่องเร่งกันขนาดไหน ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3-4 สัปดาห์
ทั้งที่เวลานี้มีความชอบธรรมมากที่สุดแล้วในการยกระดับขับไล่รัฐบาล-สภาทาสเพื่อไทย ไม่ใช่มารอเลี้ยงไข้ หรือโยนความรับผิดชอบไปให้วุฒิสภาทั้งหมดอย่างที่ สุเทพ พยายามจะทำตอนนี้
หากปชป.-เวทีสามเสน รอกันขนาดนั้น จะรอดูผลในชั้นวุฒิสภากันนานถึงตอนนั้นหรือถึงขั้นจะรอให้ศาลรธน.วินิจฉัยอีกที ก็โน่นเลย เลยเกือบปีใหม่เห็นๆ
**หากรอกันแบบนั้น รับรองเวทีสามเสน กองเชียร์หายหมด ทักษิณก็กลับมาครองเมือง ยึดประเทศไทยโดยเบ็ดเสร็จไปแล้ว