xs
xsm
sm
md
lg

บลจ.กสิกรไทยชี้หุ้นจีนยังรับปัจจัยบวกต่อเนื่อง มอง “A-Share” เด่นรับผลบวกโครงการเชื่อมโยงหุ้นฮ่องกง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.กสิกรไทยคาดตลาดหุ้นจีนยังรับปัจจัยบวกต่อเนื่อง ประเมินปีหน้าเศรษฐกิจจีนโตระดับ 7.1% โชว์ผลงาน “เค ไชน่า อิควิตี้ ทริกเกอร์ 2” เข้าเป้า 5% ผู้ลงทุนเฮเตรียมรับผลตอบแทน

นายนาวิน อินทรสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด มองว่า เศรษฐกิจจีนยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยหลักมาจากการปฏิรูปแผนโครงสร้างเศรษฐกิจในด้านต่างๆ เช่น ด้านตลาดเงิน ตลาดทุน สังคม และรัฐวิสาหกิจ เพื่อช่วยเน้นกระตุ้นเศรษฐกิจจีนให้มีการเติบโตแบบยั่งยืน รวมถึงการออกมาตรการผ่อนคลายทางการเงินผ่านการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงดังกล่าว

ทั้งนี้ แม้ว่า IMF ได้คาดการณ์เศรษฐกิจจีนในปี 2558 ว่าจะมีการเติบโตที่ระดับ 7.1% ซึ่งชะลอตัวลงจากปี 2557 แต่ก็ถือว่ายังอยู่ในเป้าหมายของทางการจีนและจัดว่าอยู่ในระดับที่สูงเมื่อเทียบกับภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก และด้านตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญอื่นๆ ของจีนต่างก็เริ่มส่งสัญญาณเชิงบวกมากขึ้น อาทิ ดัชนีภาคการผลิต PMI ยังยืนอยู่เหนือระดับ 50 จุด ต่อเนื่องตลอดทั้งปี

นอกจากนี้ ตัวเลขการส่งออกในเดือนตุลาคมมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นที่ 11.6% โดยเฉพาะการส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าหลักอย่างสหรัฐอเมริกาและยุโรปที่เริ่มฟื้นตัวอย่างโดดเด่น ขณะที่ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมอาจมีการชะลอตัวลงบ้าง เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีการชะลอตัวลง

โดยปัจจัยสนับสนุนหลักที่ทำให้ตลาดหุ้นจีนมีการปรับตัวขึ้นแรงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มาจากการที่ธนาคารกลางจีนได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างไม่คาดหมาย เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทั้งอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและดอกเบี้ยกู้ยืม โดยถือเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา เพื่อต้องการลดต้นทุนการกู้ยืมและกระตุ้นการลงทุนให้เพิ่มขึ้น ปัจจัยสนับสนุนอีกประการ คือการเปิดตัวโครงการเชื่องโยงตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน ซึ่งได้ช่วยเอื้อให้นักลงทุนต่างชาติสามารถเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น A-Share มากขึ้นด้วย

นายนาวิน กล่าวว่า บลจ.กสิกรไทยจึงเชื่อมั่นในตลาดหุ้นจีน โดยเฉพาะตลาดหุ้น A-Share ว่ายังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีก โดยเฉพาะจะได้รับปัจจัยบวกจากโครงการเชื่อมโยงระหว่างตลาดหุ้นในประเทศกับตลาดหุ้นฮ่องกงดังกล่าว เนื่องจากจะช่วยส่งเสริมให้นักลงทุนต่างชาติสามารถเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น A-Share มากขึ้น และหากในที่สุดรัฐบาลจีนมีการผ่อนคลายกฎเกณฑ์และยกเลิกโควตาการลงทุน ก็จะเป็นประตูสำคัญให้บริษัทใหญ่ๆ ของจีนถูกเข้ามารวมเป็นส่วนหนึ่งในการคำนวณดัชนีที่สำคัญๆ อาทิ ดัชนีหุ้นโลกรวมประเทศเกิดใหม่ (MSCI All Country World Index) ซึ่งจะช่วยทำให้ตลาดหุ้นจีนมีความน่าสนใจเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ระดับราคาหุ้นจีนปัจจุบันยังมีความน่าสนใจ และยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยระยะยาว โดยปัจจุบันตลาดหุ้น A-Share มีอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (Forward P/E ) อยู่ที่ประมาณ 11.1 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยระยะยาว 10 ปีอยู่ที่ 16.2 เท่า ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่สามารถดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้นได้

นายนาวิน กล่าวต่อว่า หลังจากที่ บลจ.กสิกรไทยได้เสนอขายกองทุนเปิดเค ไชน่า อิควิตี้ ทริกเกอร์ 2 (KCET2) ไปเมื่อวันที่ 19-24 กันยายน 2556 นั้น ซึ่งเมื่อ ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2557 กองทุน KCET2 สามารถสร้างผลตอบแทนได้ตามเป้าหมาย ซึ่ง บลจ.กสิกรไทยจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทั้งหมดเมื่อหน่วยลงทุนมีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 10.55 บาท หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนที่ 5% โดย ณ วันดังกล่าวมูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุน KCET2 สามารถปิดที่ 10.5724 บาทต่อหน่วย ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขในการเลิกกองทุนก่อนกำหนด

บลจ.กสิกรไทยจึงจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติในวันที่ 3 ธันวาคม 2557 และชำระเงินค่าขายคืนให้แก่ผู้ลงทุนในราคาไม่ต่ำกว่า 10.55 บาทต่อหน่วย ในวันที่ 4 ธันวาคม 2557


กำลังโหลดความคิดเห็น