พบกันอีกครั้งสำหรับคอลัมน์ “คลินิกกองทุนรวม” โดยทีมงานขันอาสาหาคำตอบมาฝากท่านผู้อ่าน ซึ่งสัปดาห์นี้เราได้รับเกียรติจากนักวางแผนการเงินชื่อดัง คุณ มงคล ลุสัมฤทธิ์ กรรมการผู้จัดการ Wealth Design Consulting มาช่วยไขข้อข้องใจกัน สำหรับท่านใดมีคำถามก็สามารถส่งคำถามของท่านมาได้ที่ mgrfund@gmail.com
ถาม - “ลดหย่อนภาษี ระหว่างประกันกับกองทุน ควรเลือกอะไรดี”
ตอบ- ก่อนที่จะตอบคำถามนี้ ตอบคำถามนี้ก่อนดีไหมครับ “เวลาที่คุณซื้อชาเขียวมาดื่ม คุณซื้อมาดื่มเพื่อดับกระหาย หรือซื้อมาเพื่อหวัง iPhone6 ครับ”
ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อประกัน หรือกองทุนLTF หรือ RMF
อย่ามองแค่ต้องการลดหย่อนภาษีครับ เพราะวัตถุประสงค์หลักของสินค้าการเงินพวกนี้ไม่ใช่ลดหย่อนภาษี
ประกันชีวิต วัตุถุประสงค์หลักเพื่อความคุ้มครองชีวิต ถ้าเป็นประกันแบบออมทรัพย์ ก็เพื่อการเก็บเงินในระยะยาว ที่มีความแน่นอนทางการเงิน และมีความคุ้มครองชีวิต หากมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับผู้ซื้อประกัน จะได้มีเงินก้อนให้แก่ครอบครัว หรือคนที่เรารัก
RMF เพื่อการออมหรือลงทุนระยะยาว เพื่อจะได้มีเงินไว้ใช้หลังเกษียณ
LTF เพื่อส่งเสริมการลงทุน เพื่อมีโอกาสเพิ่มผลตอบแทน แต่ก็ต้องยอมรับได้กับความเสี่ยงจากการลงทุน
ดังนั้น หากจะถามว่าควรเลือกอะไรดี ก็ควรถามว่าตัวเองมีวัตถุประสงค์ หรือเป้าหมายการเงินอย่างไร จะได้เลือกซื้อถูก
แต่ผมมีคำแนะนำในการเลือกซื้อตามลำดับตามนี้ครับ
อย่างแรก หากคุณยังไม่ได้มีประกันชีวิตอยากให้เริ่มตรงนี้ก่อน เพราะนอกจากคุณจะได้ลดหย่อนภาษีแล้ว คุณยังได้เก็บออมเงินที่มีความเสี่ยงต่ำ และได้สร้างหลักทรัพย์เงินสดที่มาจากทุนประกันให้แก่ครอบครัวที่คุณรัก
อย่างที่สอง คือ RMF เพราะการเกษียณอายุเป็นเรื่องสำคัญของชีวิตที่คุณจะพลาดไม่ได้ การเริ่มต้นออมเงิน หรือลงทุนตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยทำให้คุรมีเงินเพียงพอในวันที่คุณหยุดทำงาน
อย่างสุดท้าย คือ LTF เอาเงินที่เหลือจากประกันชีวิต และ RMF มาลงทุนต่อยอดให้งอกเงย เป็นเงินเก็บเพื่อใช้ในเวลา 5 ปีข้างหน้า
อย่าลืมนะครับ ดื่มชาเขียวเพื่อดับกระหาย ไม่ใช่iPhone 6 ซื้อประกัน LTF RMF เพื่อเก็บออม และการลงทุน ไม่ใช่เพื่อลดหย่อนภาษีนะครับ