1.รีบเกษียณเร็วไป จนไม่ได้ใช้ประโยชน์จากสูงสุดจากระบบสนับสนุนการออมที่มีมากพอเช่นกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ RMF LTF กรมธรรม์บำนาญ
2.กลัวการลงทุน เกษียณเป็นการออมระยะยาว หากลงทุนแต่ตราสารหนี้หรือเงินฝากเพราะไม่กล้าเสี่ยง ก็ทำให้ขาดโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่ดีและความเสี่ยงต่ำจากการลงทุนระยะยาว
3.ไม่ได้ปรับแผนการเกษียณให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน สถานการณ์เปลี่ยนเช่นผลตอบแทนไม่เป็นไปตามที่คาดหวังหากไม่ปรับเงินเกษียณก็อาจไม่พอหรือได้เงินที่เพียงพอจะเกษียณแล้วแต่ก็ไม่ลดความเสี่ยงจึงลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงสูงต่อไปจนเสียหาย
4.ไม่ได้เตรียมรายจ่ายฉุกเฉินให้เพียงพอหรือเตรียมน้อยไป เช่นค่ารักษาพยาบาลหลังเกษียณ ค่าเบี้ยประกันสุขภาพที่ขึ้นสูงมากๆค่าซ่อมแซมบ้าน รถยนต์ที่ต้องเปลี่ยนเพราะคันเดิมเก่า
5.เอาเงินเกษียณไปเป็นค่าเล่าเรียนลูก วันเกษียณกับวันเข้าเรียนปริญญาตรี โท ของลูก มักเป็นเวลาใกล้กัน อย่าลืมว่าทุนสำหรับการศึกษามีวิธีจัดหามากมาย แต่ทุนเกษียณต้องจัดหาเองเท่านั้น
6.ประเมินช่วงการมีชีวิตสั้นเกินไป วางแผนเกษียณต้องเผื่ออายุยืน เหลือดีกว่าขาด เตือนตัวเองว่าน่าเสียดายตายแล้ว ใช้เงินไม่หมด น่าสลดใช้เงินหมด แล้วยังไม่ตาย
7.มาคิดวางแผนเกษียณช้าเกินไป ใช้ประโยชน์จากการให้เงินช่วยทำงานน้อยเกินไปจะเก็บเงินเยอะ ก็ไม่ไหวจะกล้าเสี่ยงหน่อย ก็ไม่กล้าเพราะใกล้เกษียณแล้ว
8.คุมตัวเองให้ทำตามแผนไม่ได้ ระหว่างทางก่อนเกษียณมีเรื่องยั่วยวนให้ใช้เงินตลอดเวลาหรือบางทีก็ลืมที่จะเก็บจำนวนเงินที่ต้องมีเพื่อเกษียณเลยไม่ถึงเสียที
9.เอาเงินหลังเกษียณไปลงทุนผิดพลาด บางคนไม่อยากอยู่เฉยๆหลังเกษียณเอาเงินที่เก็บไปลงทุนเช่นเปิดร้านอาหาร ร้านกาแฟฯลฯแล้วเจ๊งเงินเกษียณเก็บมาตั้งนานหมดอดเกษียณ
10.ใจดีเกิน เอาเงินเกษียณไปให้คนอื่นยืมแล้วไม่ได้คืนโดยเฉพาะคนใกล้ตัวเช่นลูกหรือคนในครอบครัวคำแนะนำคือจงรักตัวเองให้มากกว่านี้คนอื่นยังมีโอกาสพลาดแล้วแก้ตัวใหม่แต่เรื่องเกษียณเราพลาดแล้วแก้ตัวไม่ได้
ข้อมูลโดยมงคล ลุสัมฤทธิ์
