บลจ.วรรณแนะลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง เหตุเงินต่างชาติยังไหลเข้าตลาดเกิดใหม่ แม้จะมีปัจจัยต่างประเทศอย่างอิรักที่อาจกดดันเรื่องพลังงาน
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บลจ.วรรณ จำกัด ระบุถึงแนวโน้มเศรษฐกิจและการลงทุนว่า ค่า PMI ของประเทศจีนเดือนมิถุนายน 50.8 ซึ่งถือว่าเป็นพัฒนาการที่ดีของจีนจากการส่งออกและนโยบายโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ อย่างไรก็ดี ภาวะซบเซาของภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงเป็นปัจจัยลบที่ยังคงกดดันต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจในขณะนี้
โดยจากผลการประชุม FOMC ในวันที่ 18 มิถุนายน ยังคงไม่มีอะไรเหนือการคาดการณ์ เฟดยังคงลดวงเงิน QE ลง 10 billion USD เป็น 35 billion USD ต่อเดือน FOMC โดยมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย ปรับลดระดับ GDP และอัตราการว่างงานของปี 2014 ลงเล็กน้อย ในขณะเดียวกันก็มีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มระดับอัตราดอกเบี้ยในปี 2015 และ 2016 ขึ้น แต่ยังคงขึ้นอยู่กับความไม่แน่นอนของตลาด และสถานการณ์ในอนาคตอีกด้วย
ขณะที่การลงทุนในตราสารหนี้ คาดว่าอัตราผลตอบแทนระยะสั้นอาจจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะมีแนวโน้มเป็นทิศทางขาขึ้น และจะส่งผลไปยังอัตราผลตอบแทนระยะกลางและระยะยาวที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วย
ด้านตลาดหุ้นไทยนั้น มีแนวโน้มการปรับตัวในทิศทาง sideway up แต่ในทางที่จำกัดมากขึ้นเนื่องจากสถานการณ์ขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับอิรัก ที่ส่งผลต่อความมั่นใจในเชิงลบ ต่อตลาดหุ้นทั่วโลก ทั้งแรงกดดันจากการปรับเปลี่ยนราคาทองและน้ำมัน รวมไปถึงปัจจัย อื่นอย่างการถูกขึ้นบัญชีดำเรื่องการค้ามนุษย์ของไทยซึ่งอาจกดดันต่อดัชนีหุ้นในบางอุตสาหกรรม ในขณะเดียวกัน ปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวบวกยังคงมีแรงหนุนจาก window dressing และการเพิ่มขึ้นของตัวเลขการผลิต (PMI) ของประเทศจีนที่เป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจจีนกำลังมีเสถียรภาพทำให้นักลงทุนมีความกล้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น โดยแนวโน้มของตลาดหุ้นไทย นักลงทุนยังคงต้องติดตามปัจจัยในประเทศอย่างมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจจากทาง คสช. รวมถึงสถานการณ์วุ่นวายจากภายนอกประเทศต่อไป
ส่วนสินค้าโภคภัณฑ์จากสถานการณ์ในอิรักยังคงขยายผลในแง่ลบต่อไม่มั่นใจในราคาเชื้อเพลิง อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวยังคงไม่พัฒนาไปถึงระดับที่อาจจะเกิดภาวะชะงักของการผลิตน้ำมัน เนื่องจากตัวเลขการส่งออกน้ำมันดิบจากอิรักยังคงที่อยู่ที่ 2.4 ล้านบาร์เรล
ดังนั้น บลจ.วรรณยังคงแนะนำการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนดี แม้จะมีความเสี่ยงจากสถานการณ์ในอิรัก แต่ทาง บลจ.วรรณยังมีมุมมองเป็นบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงเนื่องจากกระแสเงินสดไหลเข้ากลุ่มประเทศเกิดใหม่ยังมีความชัดเจน และแม้ว่าตลาดหุ้นไทยจะเจอแรงขายจากต่างประเทศจากประเด็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเมืองของประเทศไทยซึ่งน่าจะมีผลแค่ชั่วระยะสั้นเท่านั้น
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บลจ.วรรณ จำกัด ระบุถึงแนวโน้มเศรษฐกิจและการลงทุนว่า ค่า PMI ของประเทศจีนเดือนมิถุนายน 50.8 ซึ่งถือว่าเป็นพัฒนาการที่ดีของจีนจากการส่งออกและนโยบายโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ อย่างไรก็ดี ภาวะซบเซาของภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงเป็นปัจจัยลบที่ยังคงกดดันต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจในขณะนี้
โดยจากผลการประชุม FOMC ในวันที่ 18 มิถุนายน ยังคงไม่มีอะไรเหนือการคาดการณ์ เฟดยังคงลดวงเงิน QE ลง 10 billion USD เป็น 35 billion USD ต่อเดือน FOMC โดยมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย ปรับลดระดับ GDP และอัตราการว่างงานของปี 2014 ลงเล็กน้อย ในขณะเดียวกันก็มีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มระดับอัตราดอกเบี้ยในปี 2015 และ 2016 ขึ้น แต่ยังคงขึ้นอยู่กับความไม่แน่นอนของตลาด และสถานการณ์ในอนาคตอีกด้วย
ขณะที่การลงทุนในตราสารหนี้ คาดว่าอัตราผลตอบแทนระยะสั้นอาจจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะมีแนวโน้มเป็นทิศทางขาขึ้น และจะส่งผลไปยังอัตราผลตอบแทนระยะกลางและระยะยาวที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วย
ด้านตลาดหุ้นไทยนั้น มีแนวโน้มการปรับตัวในทิศทาง sideway up แต่ในทางที่จำกัดมากขึ้นเนื่องจากสถานการณ์ขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับอิรัก ที่ส่งผลต่อความมั่นใจในเชิงลบ ต่อตลาดหุ้นทั่วโลก ทั้งแรงกดดันจากการปรับเปลี่ยนราคาทองและน้ำมัน รวมไปถึงปัจจัย อื่นอย่างการถูกขึ้นบัญชีดำเรื่องการค้ามนุษย์ของไทยซึ่งอาจกดดันต่อดัชนีหุ้นในบางอุตสาหกรรม ในขณะเดียวกัน ปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวบวกยังคงมีแรงหนุนจาก window dressing และการเพิ่มขึ้นของตัวเลขการผลิต (PMI) ของประเทศจีนที่เป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจจีนกำลังมีเสถียรภาพทำให้นักลงทุนมีความกล้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น โดยแนวโน้มของตลาดหุ้นไทย นักลงทุนยังคงต้องติดตามปัจจัยในประเทศอย่างมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจจากทาง คสช. รวมถึงสถานการณ์วุ่นวายจากภายนอกประเทศต่อไป
ส่วนสินค้าโภคภัณฑ์จากสถานการณ์ในอิรักยังคงขยายผลในแง่ลบต่อไม่มั่นใจในราคาเชื้อเพลิง อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวยังคงไม่พัฒนาไปถึงระดับที่อาจจะเกิดภาวะชะงักของการผลิตน้ำมัน เนื่องจากตัวเลขการส่งออกน้ำมันดิบจากอิรักยังคงที่อยู่ที่ 2.4 ล้านบาร์เรล
ดังนั้น บลจ.วรรณยังคงแนะนำการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนดี แม้จะมีความเสี่ยงจากสถานการณ์ในอิรัก แต่ทาง บลจ.วรรณยังมีมุมมองเป็นบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงเนื่องจากกระแสเงินสดไหลเข้ากลุ่มประเทศเกิดใหม่ยังมีความชัดเจน และแม้ว่าตลาดหุ้นไทยจะเจอแรงขายจากต่างประเทศจากประเด็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเมืองของประเทศไทยซึ่งน่าจะมีผลแค่ชั่วระยะสั้นเท่านั้น