xs
xsm
sm
md
lg

จู่โจมค้นเรือนจำนครศรีฯ สุ่มตรวจฉี่นักโทษพบ 1 ราย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นครศรีธรรมราช - รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นำกำลังเจ้าหน้าที่จู่โจมค้นแดนความมั่นคงสูงเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช สุ่มตรวจหาสารเสพติดพบฉี่ม่วงสารภาพเสพยามาจากเรือนจำอื่นเพิ่งย้ายมาคุมตัวเรือนจำนครศรี ขณะที่รองอธิบดีระบุ เจ้าหน้าที่ที่พัวพันต่อการประพฤติมิชอบเมื่อ 2 ปีก่อน ถูกขึ้นบัญชีดำติดตามความประพฤติอย่างใกล้ชิด และห้ามโยกย้ายกลับเรือนจำนครศรีธรรมราช

วันนี้ (23 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.00 น. นายโสภณ ธิติธรรมพฤกษ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นำกลังเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพรหม ตำรวจตระเวนชายที่ 42 และทหารจาก มทบ.41 เข้าจู่โจมตรวจค้นเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ในแดน 6 ซึ่งเป็นแดนความมั่นคงสูง มีนักโทษที่มีอัตราโทษสูงถูกจองจำ เนื่องจากเป็นกลุ่มเป้าหมายที่พัวพันกับการค้ายาเสพติดภายนอกเรือนจำหลายครั้ง โดยในการเข้าตรวจค้นไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวติดตามเข้าไปบันทึกภาพเหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา

ขณะที่มีรายงานแจ้งว่า มีการสุ่มตรวจปัสสาวะผู้ต้องขัง จำนวน 56 คน พบว่ามีนักโทษ 1 คน ยอมรับว่าได้เสพสารเสพติดเมื่อ 6 วันที่ผ่านมา ที่เรือนจำแห่งหนึ่ง และถูกโอนย้ายมาที่เรือนจำนครศรีธรรมราช ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้กันตัวไว้พบว่ามีปัสสาวะสีม่วง ส่วนสิ่งของต้องห้ามโดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือนั้นไม่พบว่ามีการซุกซ่อนไว้

หลังจากการตรวจค้น นายโสภณ ธิติธรรมพฤกษ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ระบุว่า ขณะนี้เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช กำลังมีปัญหานักโทษล้นเรือนนอน 1 ห้องนอนนั้นควรมีนักโทษ 20 คน แต่ปัจจุบันมีสูงถึง 52 คน นักโทษรวมกว่า 6 พันคน มีเจ้าหน้าที่แค่ 140 คน เช่นเดียวกับภาพรวมของนักโทษทั่วประเทศที่เรือนจำรับได้ 1 แสนคนเศษ แต่ปัจจุบันนั้นสูงกว่า 3 แสนคนแล้ว

 
“โดยเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา มีการค้นครั้งใหญ่ที่เรือนจำนครศรีธรรมราช ตรวจค้นพบสิ่งของต้องห้ามมากเป็นประวัติการณ์ ครั้งนั้นมีการโยกย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากเรือนจำแห่งนี้ไปถึงกว่า 70 นาย หรือกว่าครึ่งเรือนจำ โดยในจำนวนนี้ทั้งถูกให้ออกจากราชการ ถูกดำเนินคดี และย้ายไปอยู่ในเรือนจำอื่น ซึ่งจะถูกติดตามพฤติกรรม และถูกบันทึกในบัญชีดำของกรมราชทัณฑ์ไว้แล้วโดยจะไม่สามารถย้ายกลับมาที่เรือนจำนครศรีธรรมราชได้อีก”

ขณะที่ นายสุรพล แก้วภราดัย ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ระบุว่า ความพยายามของเจ้าหน้าที่ในการสกัดกั้นสิ่งของต้องห้าม และผิดกฎหมายเข้ามาเรือนจำหลักมี 2 ทางคือประตูเข้าเรือนจำ และกำแพง ความพยายามในการพาเข้ามาของเครือข่ายนักโทษยังมี เมื่อราว 1 เดือนที่ผ่านมา มีความพยายามในการบังคับเฮลิคอปเตอร์ควบคุมด้วยรีโมตคอนโทรล แต่เจ้าหน้าที่ ตชด.ที่เฝ้าอยู่ได้ยินเสียงจึงยิงจนตกพบว่า มีความพยายามในการส่งโทรศัพท์มือถือเข้าไปถึง 14 เครื่อง แต่ไม่สำเร็จ
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น