พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช. ) กล่าวว่า ได้ให้นโยบายกับผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ เกี่ยวกับการปราบปรามปัญหายาเสพติดในเรือนจำ เพื่อไม่ให้มีการสั่งค้ายาในเรือนจำได้อีก โดยได้สะท้อนส่วนหนึ่งของปัญหาในเรือนจำ ตลอดจนกำลังคนที่ไม่เพียงพอ ซึ่งได้กำชับว่าปัญหาต้องแก้ไขได้ไม่ควรนำข้อจำกัดเรื่องความขาดแคลนต่างๆ มาเป็นข้ออ้างที่ทำให้การปราบปรามยาเสพติดในเรือนจำไม่สำเร็จ หากพบว่ายังมีปัญหา ทุกคนที่เกี่ยวข้องต้องมีส่วนรับผิดชอบ ตั้งแต่ระดับปลัดกระทรวงฯ ไปจนถึงอธิบดี
ทั้งนี้ ยอมรับว่า ปัญหายาเสพติดส่วนหนึ่งมาจากการสั่งค้าในเรือนจำ ซึ่งหลังจากนี้ทุกหน่วยงานต้องทำงานร่วมกัน โดยสั่งการไปแล้วว่าภายใน 7 วันต้องจัดกลุ่ม คัดแยกผู้ต้องขังที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้ชัดเจน เพื่อจำกัดให้แคบลง ส่วนปัญหาที่พบว่ามีการลักลอบนำยาเสพติดเข้าเรือนจำได้จากการนำตัวขึ้นศาลนั้น เป็นเรื่องที่ต้องจัดระบบให้ดีขึ้น โดยหลังจากคัดแยกผู้ต้องขังได้แล้ว ผู้ต้องขังกลุ่มนี้จะถูกนำตัวไปควบคุมที่แดนความมั่นคงสูงสุด (ซุปเปอร์แม็กซ์) ที่เรือนจำกลางเขาบิน จังหวัดราชบุรี ซึ่งเบื้องต้นสามารถรองรับผู้ต้องขังได้ 440 คน
ขณะที่ พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า จะมีมาตรการเร่งด่วนสั่งการให้ผู้บัญชาการเรือนจำทั่วประเทศดำเนินการทันทีใน 3 ส่วน ได้แก่ส่วนของผู้ต้องขังจะจำแนกผู้ต้องขังที่ยังมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งไม่เน้นเฉพาะผู้ต้องขังคดียาเสพติด ส่วนเจ้าหน้าที่จะจัดโครงการเจ้าหน้าที่สีขาวคัดเลือกเจ้าหน้าที่ที่ไม่มีพฤติการณ์เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดหากพบว่า ยังมีเจ้าหน้าที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้อง จะมีมาตรการลงโทษจากเบาไปหาหนัก เริ่มจากการไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับงานด้านการตรวจค้น หรืออาจสั่งย้ายออกนอกพื้นที่ และมาตรการสุดท้ายจะส่งตัวดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด สำหรับด้านการปกครอง ผู้บังคับบัญชาทุกระดับต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบกับเจ้าหน้าที่ที่พบว่ากระทำผิด
ทั้งนี้ ยอมรับว่า ปัญหายาเสพติดส่วนหนึ่งมาจากการสั่งค้าในเรือนจำ ซึ่งหลังจากนี้ทุกหน่วยงานต้องทำงานร่วมกัน โดยสั่งการไปแล้วว่าภายใน 7 วันต้องจัดกลุ่ม คัดแยกผู้ต้องขังที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้ชัดเจน เพื่อจำกัดให้แคบลง ส่วนปัญหาที่พบว่ามีการลักลอบนำยาเสพติดเข้าเรือนจำได้จากการนำตัวขึ้นศาลนั้น เป็นเรื่องที่ต้องจัดระบบให้ดีขึ้น โดยหลังจากคัดแยกผู้ต้องขังได้แล้ว ผู้ต้องขังกลุ่มนี้จะถูกนำตัวไปควบคุมที่แดนความมั่นคงสูงสุด (ซุปเปอร์แม็กซ์) ที่เรือนจำกลางเขาบิน จังหวัดราชบุรี ซึ่งเบื้องต้นสามารถรองรับผู้ต้องขังได้ 440 คน
ขณะที่ พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า จะมีมาตรการเร่งด่วนสั่งการให้ผู้บัญชาการเรือนจำทั่วประเทศดำเนินการทันทีใน 3 ส่วน ได้แก่ส่วนของผู้ต้องขังจะจำแนกผู้ต้องขังที่ยังมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งไม่เน้นเฉพาะผู้ต้องขังคดียาเสพติด ส่วนเจ้าหน้าที่จะจัดโครงการเจ้าหน้าที่สีขาวคัดเลือกเจ้าหน้าที่ที่ไม่มีพฤติการณ์เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดหากพบว่า ยังมีเจ้าหน้าที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้อง จะมีมาตรการลงโทษจากเบาไปหาหนัก เริ่มจากการไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับงานด้านการตรวจค้น หรืออาจสั่งย้ายออกนอกพื้นที่ และมาตรการสุดท้ายจะส่งตัวดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด สำหรับด้านการปกครอง ผู้บังคับบัญชาทุกระดับต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบกับเจ้าหน้าที่ที่พบว่ากระทำผิด