xs
xsm
sm
md
lg

โบรกเกอร์เพิ่มเป้าดัชนีแตะ 1,480 จุด คาดเงินทุนไหลเข้า คสช. เร่งเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โบรกเกอร์เพิ่มเป้าดัชนีปีนี้แตะ 1,480 จุด จาก 1,290 จุด คาดเงินทุนไหลเข้า หลังการเมืองมีเสถียรภาพ คสช.เร่งเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจทั้งการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ 3 ล้านล้านบาท การจัดทำงบประมาณ ประจำปี 2558 พร้อมคาด 18 มิ.ย. กนง. คงดอกเบี้ย ด้านกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ เพิ่มสัดส่วนการลงทุนหุ้นไทยโดยคาดการณ์ GDP ทั้งปีจะขยายตัวได้ 2 - 2.5%

นางเกศรา มัญชุศรี ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุว่า ปัจจุบันความเชื่อมั่นของนักลงทุนดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากความเคลื่อนไหวของดัชนีในตลาดหลักทรัพย์ไทยที่มีมูลค่าการซื้อขายในระดับที่ดีขึ้น เนื่องจากการขับเคลื่อนนโยบายทางเศรษฐกิจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ที่ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ส่งผลด้านบวกต่ออัตรากำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดทั้งปัจจุบัน และในอนาคต

ขณะที่ นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กล่าวว่า ประเทศไทยได้ผ่านจุดเสี่ยงทางการเมืองไปแล้ว และขณะนี้เศรษฐกิจไทยยังอยู่ในช่วงฟื้นตัว เนื่องจากการจัดทำงบประมาณในปี 2558 ผ่านไปได้ด้วยดี โดยคาดการณ์ว่า ในปีนี้อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศไทย หรือ GDP จะขยายตัวได้ประมาณร้อยละ 2-2.5 ขณะที่ในปีหน้าเศรษฐกิจไทยจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยขยายตัวได้ประมาณร้อยละ 4.5-5 ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยนั้น น่าจะมีการปรับตัวดีตามเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น ดังนั้น กบข.ในฐานะผู้ลงทุนสถาบันการเงินก็เตรียมปรับการลงทุนในหุ้นไทยเพิ่มขึ้นด้วย

สอดคล้องกับบรรยากาศการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วานนี้แรงซื้อที่กลับเข้ามาในหุ้นพลังงาน กลุ่ม ICT หนุนดัชนีหุ้นไทยเทคนิเคิลรีบาวนด์ ปิดตลาดวันที่ 9 มิถุนายน 2557 ไปที่ 1,471.85 จุด เพิ่มขึ้น 15.83 จุด เปลี่ยนแปลง +1.09% มูลค่าการซื้อขายสูงถึง 38,685.54 ล้านบาท โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,474.51 จุด และต่ำสุดที่ 1,460.21 จุด โดยนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิถึง 1,580.46 ล้านบาท บริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 208.68 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 1,198.09 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 591.06 ล้านบาท

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.ฟิลลิป สรุปภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นสวนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนลบจากความกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ความไม่สงบในอิรัก ทั้งนี้ เพราะตลาดหุ้นไทยได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงานที่ขึ้นนำตลาดฯ โดยปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างแรงหลังจากที่ราคาน้ำมันสูงขึ้นจากความกังวลเหตุการณ์ในอิรัก นอกจากนี้ ยังได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่ม ICT ที่เกิดเทคนิเคิลรีบาวนด์หลังจากราคาลงไปค่อนข้างมากเมื่อสัปดาห์ก่อน

แนวโน้มการลงทุนวันนี้ คาดว่าดัชนีมีโอกาสแกว่งตัวขึ้นต่อ แม้อาจจะย่อตัวลงบ้าง แต่ก็เชื่อว่าน่าจะยังยืนในแดนบวกได้อยู่ พร้อมให้แนวรับ 1,460 จุด แนวต้าน 1,470-1,475 จุด อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามความคืบหน้าในการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยต่อไป และรอดูการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ กนง.ในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ด้วย

ด้านปัจจัยจากนอกประเทศ ในสัปดาห์นี้ต้องรอดูการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FOMC ระหว่างวันที่ 17-18 มิ.ย. แม้จะมีการคาดการณ์ว่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะนี้ อีกทั้งยังต้องรอดูเหตุการณ์ในอิรักด้วย

ขณะที่ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ซีแอลเอสเอ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ฝ่ายวิเคราะห์ได้มีการปรับเพิ่มเป้าหมายดัชนีปลายปีนี้เป็น 1,480 จุด ซึ่งเป็นระดับเดิมที่เคยคาดไว้เมื่อช่วงต้นปี แต่ได้ปรับลงในช่วงเดือน ก.พ.ที่ 1,290 จุด เนื่องจากขณะนั้นสถานการณ์การเมืองยังคงยืดเยื้อ แต่ปัจจุบันหลังจาก คสช. ได้เข้ามามีบทบาทในการบริหารประเทศทำให้ปัญหาต่างๆ คลี่คลาย พร้อมมีการประกาศแผนเศรษฐกิจออกมาอย่างชัดเจนทำให้ความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจ และการลงทุนกลับมาดีขึ้นอีกครั้ง

ขณะเดียวกัน อาจจะมีการปรับคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจประเทศไทย หรือ GDP ไปอยู่ที่ระดับเดิมคือ 2% หากมีการจัดตั้งรัฐบาลในเร็วๆ นี้ โดยปัจจุบันยังคงคาดการณ์ที่ 0.8%

ด้านกระแสเงินต่างชาติ คาดว่าจะไหลกลับเข้ามาลงทุนในประเทศไทยอีกครั้ง และเป็นไปอย่างต่อเนื่อง สะท้อนผลบวกจากการเมืองที่เริ่มนิ่ง ประกอบกับกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว อย่างเช่นยุโรป และญี่ปุ่น ยังคงนโยบายทางเศรษฐกิจด้วยการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ ส่วนในสหรัฐฯ แม้มาตรการ QE จะลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่มีมาตรการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0% เพื่อรักษาสภาพคล่อง ซึ่งเหล่านี้จะทำให้เงินทุนต่างชาติยังคงไหลเข้าตลาดเกิดใหม่

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน ให้ระวังการลงทุนในหุ้นกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม รับเหมาก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง เนื่องจากมีการปรับตัวขึ้นมารับข่าวการเมืองไปพอสมควรแล้วในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งอาจจะถูกแรงขายทำกำไรได้โดยเม็ดเงินอาจจะหมุนไปลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ รวมไปถึงอสังหาริมทรัพย์ โดยแนะนำ KTB QH และ BBL ซึ่งราคาหุ้นยังไม่สูงเกินไป
กำลังโหลดความคิดเห็น