xs
xsm
sm
md
lg

Money Tips : มุมมองการลงทุนของกองทุนบัวหลวงในปัจจุบัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คอลัมน์บัวหลวง Money Tips
โดยกลุ่มจัดการกองทุน
บลจ.บัวหลวง

หลังจากนี้ไปเราคาดการณ์ว่าปัญหาการเมืองจะคลี่คลายลงได้ในช่วงที่มีการปฏิรูปเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่ แม้ตลาดหุ้นจะถูกแรงเทขายจากต่างชาติ ทำให้เกิดความผันผวนในช่วงที่กำลังรอความชัดเจน แต่เมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราวเสร็จสิ้น ซึ่ง คสช.ได้ประกาศที่จะเร่งสร้างความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจให้กลับมาโดยเร็ว เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะกลับมาเดินหน้าต่อไปได้ และจะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้น กองทุนบัวหลวงจึงทยอยปรับเพิ่มน้ำหนักหุ้น และมองว่าการปรับฐานในแต่ละรอบเป็นโอกาสสะสมหุ้นเพิ่มในราคาต่ำ ถึงแม้ว่าความขัดแย้งทางการเมืองที่ยังคงมีอยู่ในสังคมไทยอาจจะทำให้เกิดความไม่ราบรื่นบ้าง แต่ปัญหาในอนาคตที่ยังไม่รู้ว่าจะเกิดหรือไม่นั้นเป็นสิ่งที่น่าจับตา แต่ไม่ควรนำมาเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุนในปัจจุบันมากเกินไป

ถึงแม้เศรษฐกิจไทยจะชะลอตัวต่อเนื่องจากปีที่แล้วจนถึงปีนี้ แต่ผลประกอบการของบางบริษัทยังสามารถขยายตัวได้ เช่น บริษัทกลุ่มประกันชีวิต หรือค้าปลีก ส่วนบางบริษัทแม้จะมีผลประกอบการชะลอตัวใน Q1/57 จากผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจ แต่ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง แสดงถึงการที่ผู้บริหารยังมั่นใจแนวโน้มระยะยาวของกิจการ ซึ่งตรงกับที่ทาง บลจ.บัวหลวงคาดการณ์ ผลกระทบจากเศรษฐกิจและการเมืองเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นระยะหนึ่งเท่านั้น

การลงทุนระยะยาวของกองทุนบัวหลวงจะเน้นให้สอดคล้องไปกับแนวโน้มหลักที่กำลังเกิดขึ้น (Mega-trend) ซึ่งแนวโน้มต่างๆ ยกตัวอย่างได้ดังเช่น

1. สัดส่วนประชากรชนชั้นกลางในอาเซียนกำลังเพิ่มขึ้น (Growing Middle Class) - เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของโครงสร้างประชากรวัยทำงาน และแรงงานยังมีราคาถูก และการศึกษาที่ดีขึ้น จะดึงดูดการลงทุนจ้างงานของบริษัทต่างชาติ และทำให้กำลังซื้อเพิ่มขึ้นตามมา

2. การพัฒนาสู่สังคมเมือง (Urbanization) - รายได้ที่เพิ่มขึ้นของประชากร ทำให้เกิดความต้องการสินค้าหลายประเภทตามมา โดยเฉพาะภาคบริการ เช่น ร้านค้าปลีกรูปแบบต่างๆ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและขนส่ง บริการด้านเทคโนโลยี บริการด้านสุขภาพ หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เป็นต้น

3. ตำแหน่งของประเทศไทย (Strategic Location) - ที่ติดต่อกับประเทศพม่า กัมพูชา ลาว ซึ่งเป็นประเทศที่เศรษฐกิจมีการขยายตัวระดับสูง ทำให้ได้อานิสงส์ไปด้วย ทั้งด้านการขายสินค้าและบริการ โดยเฉพาะจังหวัดที่มีชายแดนติดต่อกัน

4. ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) เพราะคนยุค Baby Boomer กำลังอายุย่างเข้า 60 ปี และจะเป็นผลดีต่อการพัฒนาอุตสาหกรรม Healthcare

5. การที่ภาครัฐส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) ซึ่งเป็นแนวโน้มที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก

มุมมองการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ของกองทุนบัวหลวง

ช่วงเดือน พ.ค.ที่ผ่านมาอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับตัวลดลง ทำให้ราคาพันธบัตรรัฐบาลโดยรวมปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะช่วงอายุ 10-15 ปี ที่ได้รับปัจจัยบวกจาก

1) ตัวเลขเศรษฐกิจไทยที่ยังชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องในเดือน มี.ค. ส่งผลให้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะยังคงตัวอยู่ในระดับต่ำต่อไป

2) ปริมาณพันธบัตรที่ออกจำหน่ายที่มีปริมาณน้อยจากสถานการณ์ทางการเมือง

และ 3) การปรับลดของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ (US Treasury) อายุ 10 ปี จากการที่ FED ส่งสัญญาณดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่งหลังยุติมาตรการ QE และแนวโน้ม Supply ของพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ลดลงหลังประสบความสำเร็จในการลดการขาดดุลงบประมาณจากความสามารถจัดเก็บรายได้สูงขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัว และการปรับลดงบประมาณรายจ่าย

ขณะที่ในวันที่ 23 พ.ค.หลังการทำรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวเพิ่มขึ้นทันทีหลังตลาดเปิด +0.01% ถึง +0.06% จากความกังวลเรื่องการไหลออกของเงินลงทุนต่างชาติก่อนตลาดจะปรับตัวย่อลงมาอยู่ในช่วง -0.01% ถึง 0.01% ณ สิ้นวัน

สำหรับแนวโน้มตลาดตราสารหนี้ไทยยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทยหลังจากที่เศรษฐกิจในไตรมาสที่ 1 หดตัวลง -0.6% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ +0.4% และปริมาณพันธบัตรออกจำหน่ายที่มีจำกัดจากความล่าช้าในการเบิกจ่ายงบลงทุนของภาครัฐ และการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558

สำหรับการประชุม กนง.ในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ กองทุนบัวหลวงคาดว่า กนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิม 2.00% เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันถือเป็นระดับที่ผ่อนคลาย อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ต้องติดตามคือ ความคืบหน้าของการดำเนินนโยบายด้านต่างๆ ของ คสช. ซึ่งจะส่งผลต่อทิศทางเศรษฐกิจและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในอนาคต

จากปัจจัยและแนวโน้มดังกล่าว กองทุนบัวหลวงจึงยังคงเน้นการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นถึงปานกลาง (1-5 ปี) ที่ได้ประโยชน์สูงสุดจากแนวโน้มตลาดตราสารหนี้ไทย รวมทั้งช่วยป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดได้อย่างดี


กำลังโหลดความคิดเห็น