xs
xsm
sm
md
lg

กสิกรไทยเปิดขายกองบอนด์ หลบความเสี่ยงการเมือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.กสิกรไทยเผยปัจจัยการเมืองยังกดดันการลงทุน ออกองทุนบอนด์ ทางเลือกหนีความผันผวน ชูผลตอบแทนสูง

นางสาวยุพาวดี ตู้จินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ในวันที่ 26 พฤษภาคม-2 มิถุนายน 2557 บลจ.กสิกรไทยจะเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศประเภทกำหนดอายุโครงการต่อเนื่องอีก 3 กองทุน ทั้งอายุ 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี พร้อมนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ได้แก่ กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน อีเอฟ (KFI3MEF) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.40% ต่อปี กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 6 เดือน บีแซท (KFI6MBZ) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.50% ต่อปี และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี ซีไอ (KFF1YCI) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.70% ต่อปี โดยผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวเหมาะสำหรับเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงได้ต่ำแต่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจและตลาดที่ยังคงมีความผันผวนจากสถานการณ์ทางการเมือง พร้อมทั้งต้องการพักเงินเพื่อรอดูความชัดเจนด้านทิศทางเศรษฐกิจและจับจังหวะเข้าลงทุนต่อไป

ทั้งนี้ จากแรงกดดันทางการเมืองภายหลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ประกาศเข้าควบคุมอำนาจการบริหารประเทศในวันที่ 22 พฤษาภาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ตลาดและบรรยากาศการลงทุนเกิดความผันผวนอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ คสช.ได้เตรียมเปิดแผนเศรษฐกิจในช่วงสัปดาห์หน้า ร่วมกับหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจและผู้บริหารกระทรวงการคลัง เพื่อหาแนวทางขับเคลื่อนและกระตุ้นเศรษฐกิจให้สามารถขยายตัวได้ โดยคาดว่าจะมีการประกาศแผนการในวันพฤหัสบดีนี้หรือภายในวันศุกร์หน้า โดยปัจจัยสำคัญคือการเร่งผลักดันนโยบายเศรษฐกิจต่างๆ ให้สามารถดำเนินต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 ทั้งนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลังคาดว่าเศรษฐกิจในปีนี้น่าจะเติบโตได้ประมาณ 3% ซึ่งสูงกว่าที่ประมาณการไว้ก่อนหน้าที่ 2.6% โดยคาดว่าโครงการขนาดใหญ่จะถูกผลักดันให้ดำเนินการในทันที อาทิ โครงการรถไฟฟ้าในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล

อย่างไรก็ตาม แม้ปัจจัยภายในประเทศจะเริ่มมีทางออกมากขึ้น แต่การทำรัฐประหารอาจส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติมีการเทขายหุ้นไทยและกดดันดัชนีให้มีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการต่อต้านการรัฐประหารจากกลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดความรุนแรง ผู้ลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงดังกล่าวจึงควรเข้าลงทุนอย่างระมัดระวัง ทั้งนี้ สำหรับผู้ลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้น้อย บลจ.กสิกรไทยจึงแนะนำให้คอยติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด หรือสามารถเลือกกระจายความเสี่ยงโดยการลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้ประเภทกำหนดอายุโครงการ ซึ่งมีความเสี่ยงไม่สูงมากนัก และให้โอกาสรับผลตอบแทนในระดับที่น่าพอใจได้” นางสาวยุพาวดีกล่าว

นางสาวยุพาวดีกล่าวต่อไปว่า สำหรับตราสารหนี้ที่กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน อีเอฟ (KFI3MEF) จะเข้าไปลงทุนในเบื้องต้นประกอบด้วย เงินฝาก Bank of China เงินฝาก China Construction Bank Corporation นอกจากนี้ยังลงทุนในตราสารหนี้ประเทศไทยของธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ด้านกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 6 เดือน บีแซท (KFI6MBZ) คาดว่าจะลงทุนในเงินฝาก Bank of China เงินฝาก China Construction Bank Corporation ด้วยเช่นเดียวกัน ร่วมด้วยตราสารหนี้ ICBC (Asia) Ltd., ประเทศฮ่องกง นอกจากนี้ยังลงทุนในตราสารหนี้ประเทศไทยของธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) และธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สำหรับกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี ซีไอ (KFF1YCI) คาดว่าจะลงทุนในเงินฝาก Bank of China เงินฝาก China Construction Bank Corporation ด้วยเช่นเดียวกัน ร่วมด้วยตราสารหนี้ ICBC Ltd. ตราสารหนี้ Agricultural Bank of China และตราสารหนี้ Bank of East Asia Ltd. โดยตราสารที่กล่าวมามีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) และทั้ง 3 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน

นอกจากนี้ เพื่อตอบรับความต้องการสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำมากและต้องการลงทุนระยะสั้นกับตราสารหนี้ในประเทศเป็นหลัก ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว บลจ.กสิกรไทยยังเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค คุ้มครองเงินต้น ตราสารหนี้ไทย 3 เดือน ดีที (KPPTF3MDT) โดยกองทุนดังกล่าวจะเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย หรือพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย และบางส่วนในเงินฝากประจำ 3 เดือนของธนาคารภายในประเทศ ซึ่งจะให้โอกาสรับผลตอบแทนปลอดภาษีสำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดาที่ 2.00% ต่อปี
กำลังโหลดความคิดเห็น