บลจ.กสิกรไทยออกกองทุนตราสารหนี้ อายุโครงการ 3 ปี ชูผลตอบแทนสูง 3.60% ต่อปี ซื้อคืนอัตโนมัติทุก 6 เดือน เน้นลงทุนหุ้นกู้เอกชน เปิดขาย 18-24 ก.พ.นี้
นายชัชชัย สฤษดิ์อภิรักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ในวันที่ 18-24 กุมภาพันธ์ 2557 บลจ.กสิกรไทยจะเสนอขายกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ไทย 3 ปี เอ (KTF3YA) ซึ่งเป็นกองทุนใหม่ที่มีอายุโครงการประมาณ 3 ปี แต่เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น โดยผลตอบแทนประมาณการไว้ที่ 3.60% ต่อปี เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุนที่พร้อมลงทุนได้ในระยะยาว และสามารถยอมรับความเสี่ยงได้ปานกลางถึงต่ำ ซึ่งกองทุนดังกล่าวเน้นการลงทุนในหุ้นกู้ชั้นนำของบริษัทในประเทศไทย โดยเบื้องต้นจะลงทุนในหุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) หุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ซึ่งหุ้นกู้ทั้งสองได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก TRIS อยู่ที่ระดับ A ร่วมด้วยหุ้นกู้ของบริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หุ้นกู้มีประกันบางส่วนของบริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) ซึ่งค้ำประกัน 60% ของมูลค่ารวมโดยธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และยังลงทุนในหุ้นกู้ที่ออกโดยธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) ซึ่งทั้งหมดได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก TRIS ที่ระดับ A- นอกจากนี้ยังลงทุนเพิ่มเติมในหุ้นกู้ของบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก Fitch ประเทศไทย ที่ระดับ A- โดยกองทุนดังกล่าวจะมีการจ่ายผลตอบแทนโดยการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทุกๆ 6 เดือน
ด้านสถานการณ์เศรษฐกิจการลงทุนในช่วงนี้ นายชัชชัยกล่าวว่า เศรษฐกิจและการลงทุนไทยในช่วงระยะสั้นยังคงมีความเสี่ยงจากประเด็นความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งส่งผลให้มีการชุมนุมอย่างยืดเยื้อ และสร้างความผันผวนให้แก่การลงทุนของไทยตลอดช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ด้านทิศทางอัตราดอกเบี้ยในประเทศมีแนวโน้มทรงตัวหรืออาจปรับตัวลดลงได้ตามการคาดการณ์ของตลาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ กนง.อาจมีการปรับลดลงจากการประชุมในครั้งถัดไป สำหรับ บลจ.กสิกรไทยแนะนำให้ผู้ลงทุนเลือกกระจายความเสี่ยงและจับจังหวะเข้าลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง หรือสามารถเลือกพักเงินกับกองทุนตราสารหนี้ประเภทกำหนดอายุโครงการที่สามารถล็อกผลตอบแทนในระดับที่น่าพอใจได้ โดยกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ไทย 3 ปี เอ ที่ บลจ.กสิกรไทยจะเสนอขายในสัปดาห์นี้ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ และคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะยาว เนื่องจากให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจภายใต้ความสามารถในการรับความเสี่ยงในระดับปานกลางถึงต่ำ
นายชัชชัยกล่าวต่อว่า นอกเหนือจากกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ไทย 3 ปี เอ ดังกล่าวแล้ว เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะสั้น ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ บลจ.กสิกรไทยยังเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน อีบี (KFI3MEB) โอกาสรับผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.75% ต่อปี โดยเบื้องต้นจะเข้าลงทุนในเงินฝากของ China Construction Bank Corporation (A/Fitch) และเงินฝากของ Bank of China (A/Fitch) นอกจากนี้ยังลงทุนในตราสารหนี้ประเทศไทยของธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) และธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก Fitch ประเทศไทยที่ระดับ A+ และ AAA ตามลำดับ รวมทั้งยังลงทุนในตราสารหนี้ประเทศไทยของธนาคารทิสโก้ ไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก TRIS ที่ระดับ A โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน
นอกจากนี้ เพื่อตอบรับความต้องการสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำมากและต้องการลงทุนระยะสั้นกับตราสารหนี้ในประเทศเป็นหลัก ในช่วงเวลาเดียวกัน บลจ.กสิกรไทยจะเปิดขายกองทุนเปิดเค คุ้มครองเงินต้น ตราสารหนี้ไทย 3 เดือน ดีโอ (KPPTF3MDO) โดยกองทุนดังกล่าวจะเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย หรือพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย และบางส่วนในเงินฝากประจำ 3 เดือนของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะให้โอกาสรับผลตอบแทนปลอดภาษีสำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดาที่ 2.25% ต่อปี