บลจ.โซลาริสปรับคาดการณ์จีดีพีไทยโตลดลง คาด กนง.ลดดอกเบี้ยลงอีก 2 ครั้งในปีนี้ เหลือ 1.5% ในสิ้นปีเพื่อประคองเศรษฐกิจ ขณะที่ตลาดหุ้นมองดัชนีสิ้นปี 1,350 จุด
นายสุรเชษฐ์ ศรีวัฒนกุลวงศ์ ผู้จัดการกองทุนตราสารทุน และผู้อำนวยการฝ่ายจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)โซลาริส กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจและแนวโน้มการลงทุนในช่วงนี้ว่า จีดีพีไทยไตรมาสที่ 1 ที่ผ่านมาติดลบ 0.6% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ใกล้เคียงกับที่คาดไว้ และแนวโน้มจีดีพีในช่วงที่เหลือของปีคาดว่าไตรมาสที่ 2/57 จีดีพีไทยน่าจะยังคงหดตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่จีดีพีน่าจะเร่งตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี ทำให้ทั้งปี บลจ.โซลาริสมองจีดีพีไทยอาจจะไม่เติบโตขึ้นเลยแต่ไม่ถึงกับติดลบ ซึ่งเป็นการปรับการคาดการณ์หลังจากเกิดการรัฐประหารขึ้น จากเดิมที่คาดว่าจะโตที่ระดับ 2% ส่วนการส่งออกจะยังคงเป็นปัจจัยเดียวที่หนุนจีดีพีในปีนี้ ขณะที่การบริโภคและการลงทุนจะหดตัว
ขณะเดียวกัน บลจ.โซลาริสมองว่า กนง.มีโอกาสจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% ในการประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 18 มิ.ย.นี้เพื่อประคองเศรษฐกิจ และอีก 0.25% ในเดือนสิงหาคม แต่อย่างไรก็ดี เงินเฟ้อที่เริ่มเร่งตัวสูงขึ้นน่าจะกดดันให้ กนง.ต้องคง ดบ.นโยบายไว้ที่ 1.50% จนถึงสิ้นปี ก่อนจะเริ่มปรับขึ้น ดบ.ในช่วงครึ่งหลังของปี 58
ส่วนการลงทุนในตลาดหุ้น มองว่าในปีนี้ดัชนีอยู่ที่ 1,350 จุด อาจมีการขายทำกำไรออกมา ในช่วงไตรมาส 3 มองว่านักลงทุนต่างชาติอาจทยอยซื้อสะสมหุ้นไทยตามการโยกย้ายเงินลงทุนเข้าในสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก นักลงทุนเข้าเก็งกำไรหากเริ่มเห็นภาพทางการเมืองที่ชัดขึ้น แต่ในช่วงปลายปีมีแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันจากเงินลงทุนในกองทุน LTF/RMF และคาดว่าในปีหน้าจีดีพีน่าจะดีขึ้น หากเป็นไปตามที่คาดการณ์ว่าจะมีการเลือกตั้งและได้รัฐบาลในช่วงเดือนมีนาคม ซึ่งนักวิเคราะห์มองแนวโน้มการปรับประมาณการผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนเพิ่มขึ้นตามจีดีพีที่น่าจะเติบโตได้ดีในปี 2015
“สำหรับหุ้นกลุ่มที่น่าสนใจ คือหุ้นในกลุ่มอสังหาฯ ค้าปลีก ธนาคาร ขณะที่กลุ่มส่งออก ยานยนต์อาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยการเมืองและเศรษฐกิจในต่างประเทศด้วย มองดัชนีหุ้นในปีหน้าที่ระดับ 1,500 จุด หากเศรษฐกิจเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นจากปัจจัยการเมือง”
สำหรับ บลจ.โซลาริส ปัจจุบันยังแนะนำการลงทุนในตลาดหุ้นไทย และกองทุนตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนสูง ทั้งตราสารหนี้ที่ได้รับการจัดอันดับและไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ซึ่งบริษัทก็เน้นการขายผ่านช่องทางการขายที่หลากหลายมากขึ้นหลังจากที่ทางสำนักงาน ก.ล.ต.ได้เล็งเห็นและได้ให้ความสำคัญในช่องทางการจัดจำหน่ายกองทุนรวมผ่านผู้ค้าปลีก (Modern Trade) เช่น ไปรษณีย์ไทย เคาน์เตอร์เซอร์วิส และเทสโก้โลตัส มากขึ้น และน่าจะเห็นแนวทางอย่างเป็นรูปธรรมภายในปีนี้ ซึ่ง บลจ.โซลาริสเองก็พร้อมที่จะนำเสนอกองทุนของตนเองผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายดังกล่าวเช่นกัน ในขณะเดียวกัน บลจ.โซลาริสยังคงเน้นความสัมพันธ์อันดีระหว่างบริษัทกับตัวแทนการจัดจำหน่ายกองทุน (Selling Agent) ซึ่งเป็นช่องทางการจัดจำหน่ายหลักของบริษัท
