ทิสโก้แนะเพิ่มน้ำหนักลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียเหนือหลังเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้าต่อเนื่อง สัญญาณการฟื้นตัวของการส่งออกโดดเด่น ชี้ราคาหุ้นถูกกว่าตลาดพัฒนาแล้ว
นายคมศร ประกอบผล นักกลยุทธ์การลงทุนอาวุโส ทิสโก้ เวลธ์ เปิดเผยว่า กลยุทธ์การลงทุนในเดือน พ.ค. 2557 ทิสโก้ เวลธ์แนะนำให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้น โดยเฉพาะหุ้นเอเชียเหนือ เนื่องจากในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาเริ่มเห็นแนวโน้มการปรับพอร์ตการลงทุนมายังกลุ่มอุตสาหกรรมและประเทศที่ราคาหุ้นต่ำ
โดยเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติเริ่มไหลเข้าตลาดหุ้นเกิดใหม่อีกครั้งหลังจากที่ไหลออกเป็นเวลา 14 สัปดาห์ติดต่อกันก่อนหน้านี้ เชื่อว่าการไหลกลับของเงินทุนสะท้อนให้เห็นถึงมุมมองที่ดีขึ้นต่อหุ้นในตลาดประเทศเกิดใหม่ ซึ่งราคาหุ้นยังถูกกว่าหุ้นในประเทศพัฒนาแล้วเป็นอย่างมาก การปรับพอร์ตเข้าลงทุนในประเทศที่ราคาต่ำนั้นทำให้ดัชนีตลาดหุ้นในตลาดเกิดใหม่เริ่มกลับมาให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาดพัฒนาแล้ว
ทั้งนี้ เชื่อว่าเงินลงทุนต่างชาติจะยังคงไหลเข้าตลาดหุ้นเกิดใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดหุ้นเอเชียเหนือ เนื่องจากสัญญาณการฟื้นตัวของการส่งออก โดยเฉพาะการส่งออกจากกลุ่มประเทศเอเชียเหนือ โดยการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ฟื้นตัวขึ้นจากผลกระทบของสภาพอากาศหนาวเย็นในช่วงเดือน ธ.ค. 2556-ก.พ. 2557 และการส่งออกไปยังยุโรปและญี่ปุ่นที่เศรษฐกิจมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดตัวเลขการส่งออกในเดือนเมษายนของไต้หวันและเกาหลีใต้ขยายตัวขึ้น 6.2% และ 9.0% ตามลำดับ
ขณะที่แนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้นของเศรษฐกิจจีน ในไตรมาสแรกของปีนี้เศรษฐกิจจีนขยายตัว 7.4% ดีกว่าตลาดคาดที่ 7.3% และใกล้เคียงกับเป้าหมายการเติบโตของรัฐบาล แม้จะเผชิญกับแรงกดดันจากการควบคุมการปล่อยสินเชื่อของรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีของจีน นายหลี่ เค่อ เฉียง ได้มีแถลงการณ์ยอมรับว่านโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจและความพยายามในการชะลอการปล่อยกู้ส่งผลให้เศรษฐกิจจีนชะลอตัวมากกว่าที่คาด และพร้อมที่จะเร่งลงทุนโครงการภาครัฐ เช่น โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน สร้างถนน รถไฟ และการบริหารจัดการน้ำ ในภาคกลางและภาคตะวันตกของจีน และการเร่งสร้างที่อยู่อาศัย (Social Housing) เพื่อเร่งพัฒนาความเป็นเมืองตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจระยะยาว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวบรรลุเป้าหมายที่ 7.5% ในปีนี้
ทั้งนี้ เชื่อว่าเศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่ไตรมาสสองเป็นต้นไป เนื่องจากการส่งออกที่ฟื้นตัวขึ้น ซึ่งเดือน เม.ย.เป็นเดือนสุดท้ายที่มีผลจากฐานสูงผิดปกติของปีก่อนจากใบคำสั่งซื้อปลอม ดังนั้นเราจึงคาดว่าการส่งออกของจีนจะปรับตัวขึ้นแรงตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป และจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของโครงการภาครัฐจะช่วยชดเชยการชะลอตัวของการลงทุนภาคเอกชน ขณะเดียวกันความตึงเครียดในภาคการเงินเริ่มผ่อนคลายลง โดยอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้เอกชนของจีนเริ่มปรับตัวลดลงในเดือน เม.ย. เนื่องจากตลาดเริ่มคลายความกังวลต่อประเด็นการผิดนัดชำระหนี้ และการประกาศลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ในชนบทลง 2% และ 0.5% สำหรับธนาคารเพื่อการสหกรณ์ ซึ่งจะส่งผลให้มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นในระบบการเงินของชนบทอีกราว 1 แสนล้านหยวน
นอกจากนี้ ส่วนต่างราคาหุ้นระหว่างตลาดหุ้นประเทศพัฒนาแล้วกับตลาดหุ้นเกิดใหม่ที่ยังอยู่ในระดับสูง ปัจจุบันดัชนี MSCI DM ซื้อขายอยู่ที่ P/E 15.3 เท่า เทียบกับ MSCI EM ที่ 10.8 เท่า ส่วนต่างค่า P/E ระหว่างทั้งสองดัชนีนับเป็นระดับสูงสุดนับจากปี 2549 ส่วนความตึงเครียดระหว่างยูเครนกับรัสเซียผ่อนคลายลง ในช่วงปลายเดือน เม.ย. กลุ่มผู้สนับสนุนรัสเซียได้จับเจ้าหน้าที่ผู้สังเกตการณ์ทหารของยุโรปเป็นตัวประกัน และยึดสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งในยูเครน สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป ตอบโต้ด้วยการประกาศคว่ำบาตรต่อนักธุรกิจ นักการเมืองและบริษัทที่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลรัสเซียเพิ่มเติมจากที่เคยประกาศไว้ในช่วงกลางเดือน มี.ค. อย่างไรก็ดี มาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวยังถือว่ามีความรุนแรงน้อยกว่าที่ตลาดคาด และตลาดหุ้นรัสเซีย รวมถึงตลาดหุ้นอื่นๆ ทั่วโลก จึงกลับมาฟื้นตัวขึ้นหลังมีการประกาศมาตรการคว่ำบาตร