กสิกรฯ ชูยุโรป-เอเชียแกร่ง แนะทยอยลงทุนรับยิลด์ดี

บลจ.กสิกรไทยชูลงทุนยุโรปและเอเชียหลังเศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่เศรษฐกิจเอเชียยังมีเสถียรภาพแม้จะมีปัจจัยลบเรื่องเงินอ่อนค่าก็ตาม ล่าสุดเตรียมปันผล 2 กองทุน K-EUROPE และ K-ASIA ในวันที่ 14 พ.ค.นี้

นายนาวิน อินทรสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า เศรษฐกิจเอเชียยังมีเสถียรภาพและน่าลงทุนในระยะยาว แม้ว่าตลาดหุ้นเอเชียจะได้รับแรงกดดันจากทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและการอ่อนค่าของค่าเงินในตลาดเกิดใหม่ ขณะที่เศรษฐกิจยุโรปเริ่มมีปัจจัยบวกที่ส่งสัญญาณให้เห็นถึงภาวะการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ เช่น ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรม และตัวเลขการส่งออกที่ขยายตัวมากขึ้น รวมไปถึงผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนของยุโรปที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้

ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทยมีกำหนดจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมพร้อมกันรวม 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดเค ยูโรเปียน หุ้นทุน (K-EUROPE) ครั้งที่ 1 สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม 2556 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2557 ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่อในสมุดทะเบียนเวลา 08.00 น.ของวันที่ 30 เมษายน 2557 ในอัตรา 0.30 บาทต่อหน่วย รวมมูลค่าเงินปันผลทั้งสิ้นกว่า 100 ล้านบาท และกองทุนเปิดเค เอเชียนสมอลเลอร์ หุ้นทุน (K-ASIA) โดยมีมติจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 1 สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2556 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2557 ให้ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่อในสมุดทะเบียนเวลา 08.00 น. ของวันที่ 30 เมษายน 2557 ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย รวมมูลค่าเงินปันผลทั้งสิ้นกว่า 4 ล้านบาท โดยทั้ง 2 กองทุนมีกำหนดจ่ายปันผลพร้อมกันในวันที่ 14 พฤษภาคม 2557

สำหรับกองทุน K-EUROPE และกองทุน K-ASIA ยังคงเป็นกองทุนที่ บลจ.กสิกรไทย อยากแนะนำให้ผู้ลงทุนจับจังหวะเข้าลงทุนเพิ่มเติมเนื่องจากมีมุมมองในเชิงบวกกับเศรษฐกิจของทั้ง 2 ภูมิภาค ดังนั้นจึงเป็นจังหวะที่ดีสำหรับนักลงทุนในการเข้าไปลงทุนเพิ่มเติมในตลาดหุ้นยุโรป โดยกองทุนเปิดเค ยูโรเปียน หุ้นทุน (K-EUROPE) เป็นกองทุนที่ลงทุนผ่านกองทุนหลัก Allianz Europe Equity Growth Class AT-EUR ซึ่งบริหารจัดการโดย Allianz Global Investor บริษัทในเครือ Allianz กลุ่มธุรกิจบริหารสินทรัพย์อันดับ 3 ของโลก โดยกองทุนดังกล่าวเน้นลงทุนในหุ้นจดทะเบียนของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป โดยมีนโยบายคัดเลือกหุ้น ซึ่งพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานของบริษัทที่จะลงทุนเป็นหลัก เน้นลงทุนในหุ้นพื้นฐานดีในภูมิภาคยุโรปที่มีแนวโน้ม และศักยภาพการเติบโตสูง (Growth Stock) โดยหุ้นส่วนใหญ่เป็นบริษัทข้ามชาติ ซึ่งยังคงสามารถมีผลการดำเนินงานที่เติบโตได้แม้ในช่วงที่เศรษฐกิจยุโรปมีการชะลอตัว

ส่วนกองทุนเปิดเค เอเชียน สมอลเลอร์ หุ้นทุน (K-ASIA) ของ บลจ.กสิกรไทย เป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นเอเชียผ่านกองทุนหลัก Templeton Asian Smaller Companies ซึ่งเป็นกองทุนที่ได้รับการจัดอันดับ 5 ดาวจาก Morningstar บริหารจัดการโดย Franklin Templeton Investments หนึ่งในผู้จัดการกองทุนชั้นนำระดับโลกที่ได้รับการยอมรับจากนักลงทุน นำทีมบริหารโดย มาร์ค โมเบียส กูรูการลงทุนแบบหุ้นคุณค่าในตลาดหุ้นเกิดใหม่ (Emerging Markets Value Stocks) ซึ่งมีประสบการณ์ในตลาดเกิดใหม่กว่า 30 ปี พร้อมทีมนักวิเคราะห์กระจายอยู่ตามประเทศตลาดเกิดใหม่ทั่วโลกกว่า 18 แห่ง โดยกองทุน K-ASIA มุ่งเน้นการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนระยะยาวในหุ้นบริษัทขนาดกลาง และขนาดเล็กที่มีศักยภาพการเติบโตสูงในภูมิภาคเอเชีย โดยมีมูลค่าตลาดประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ