xs
xsm
sm
md
lg

FWD โชว์เบี้ย 1.3 หมื่นล้าน ส่วน SCBLIFE กำไรปี 56 โต 37%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ประกันชีวิตผลงานหรู เอฟดับบลิวดีลั่นขึ้นท็อปไฟว์ โชว์เบี้ยปี 56 โต 15% กวาดเบี้ยรับรวมกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท ด้านไทยพาณิชย์ประกันชีวิตจัดเต็ม ฟันกำไรสุทธิโต 37% หรือกว่า 4.7 พันล้านบาท ไมค์ แพล็กซ์ตันระบุตลาดประกันชีวิตไทยยังโตอีกเยอะ เหตุผู้ถือครองกรมธรรม์ยังอยู่ในระดับต่ำ

นายไมค์ แพล็กซ์ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอฟดับบลิวดีประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ FWD เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจประกันชีวิตในประเทศไทยยังมีโอกาสในการเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากประเทศไทยมีผู้ถือกรมธรรม์ในอัตราที่ต่ำกว่า 3% ของจีดีพี ขณะที่ประเทศสิงคโปร์มีการถือครองกรมธรรม์อยู่ที่ประมาณ 4.5%เพราะฉะนั้นประกันชีวิตของประเทศไทยยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก

ส่วนผลประกอบการปี 56 บริษัทเติบโต 15% จากปีก่อนหน้า โดยมีเบี้ยประกันภัยรับรวมมากกว่า 13,000 ล้านบาท แบ่งเป็นเบี้ยประกันภัยรับจากการขายผ่านช่องทางตัวแทน 41% ช่องทางการขายผ่านธนาคาร (แบงก์แอสชัวรันซ์) 52% และช่องทางการขายแบบทางเลือกอื่น 7% ขณะที่กำไรตามกฎหมายที่ปรับแล้วเพิ่มขึ้นประมาณ 25% จากปีก่อนหน้า

ทั้งนี้ ในปี 2556 บริษัทมีเบี้ยประกันภัยปีแรก 2,700 ล้านบาท ซึ่งสัดส่วนหลักมาจากการขายผ่านช่องทางแบงก์แอสชัวรันซ์ 74% ตามด้วยการขายผ่านช่องทางตัวแทนประกัน 21% และช่องทางการขายแบบทางเลือกอื่น 5%

ขณะเดียวกัน ในปีที่ผ่านมาบริษัทมีสินทรัพย์เพื่อการลงทุนเพิ่มขึ้น 14% เป็น 45,000 ล้านบาท และมีอัตราส่วนการดำรงเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยง (RBC Ratio) อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 291%

“ช่องทางแบงก์กับพันธมิตรกับธนาคารทหารไทยเรายังคงมีสัญญากันอยู่ประมาณ 5 ปี ซึ่งเรามีความสัมพันธ์ที่ดีในการร่วมกัน และไม่มีแผนอะไรเกี่ยวกับพันธมิตรใหม่ ซึ่งบริษัทยังคงมุ่งเน้นจะขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 5 ของอุตสาหกรรมให้ได้หลังจากนี้ และคงจะต้องมีการแข่งขันกับเจ้าอื่นด้วย ซึ่งตอนนี้เรามีตัวเลขและเป้าอยู่ในใจแล้ว”นายไมค์กล่าว

ด้านนายวิพล วรเสาหฤท กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ SCBLIFE เปิดเผยถึงผลประกอบการปี 2556 ว่าบริษัทสามารถสร้างการเติบโตด้านผลการดำเนินงานได้ดีเกินความคาดหมาย โดยสามารถทำกำไรสุทธิได้ถึง 4,734 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีกำไร 3,447 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรสุทธิต่อหุ้นเพิ่มจาก 51.84 บาทในปีก่อน เป็น 71.19 บาทหรือเพิ่มขึ้น 37%

ขณะที่รายได้รวมสามารถทำได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขยับขึ้นแตะถึง 50,493 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 4,634 ล้านบาท หรือ 11% จากปีก่อนซึ่งทำได้ 45,859 ล้านบาท แบ่งเป็นเบี้ยประกันรับสุทธิ 44,783 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ทำได้ 41,590 ล้านบาท รายได้จากการลงทุนสุทธิ 5,350 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากปีก่อนที่ทำได้4,283 ล้านบาท

โดยสิ้นปีที่ผ่านมาบริษัทมีสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้น 24,306 ล้านบาท เป็น 140,587 ล้านบาท หรือเติบโต 21% จากปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 116,281 ล้านบาท ส่วนสินทรัพย์ลงทุนขยับจาก 114,600 ล้านบาท เป็น 138,813 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22%

สำหรับสัดส่วนการลงทุนส่วนใหญ่ยังคงลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ และหุ้นกู้ที่มีความมั่นคงสูง ด้านเงินสำรองประกันชีวิตเพิ่มขึ้น 24% จากเดิมที่มีอยู่ 100,284 ล้านบาท ณ สิ้นปีก่อน เป็น 124,535 ล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น