xs
xsm
sm
md
lg

AYUD คาดเบี้ยโตระดับ 2 หลัก เล็งเพิ่มลงทุนประกันชีวิต-วินาศภัย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศรีอยุธยา แคปปิตอล ตั้งเป้าเบี้ยธุรกิจประกันภัยโต 2 หลัก เล็งลงทุนเพิ่มบริษัทประกันชีวิต-ประกันภัย ระบุพร้อมถืออลิอันซ์ ประกันชีวิตถึง 50% หากได้รับไฟเขียวให้เพิ่มสัดส่วนได้ แต่ประกันภัยต้องรอดูสถานการณ์ก่อน ขณะเดียวกันจ่อปันผลอีก 1.10 บาทต่อหน่วย หลังประกันชีวิตหนุนกำไรโตอื้อ

นายโรวัน ดี อาซี่ กรรมการผู้อำนวยการบริษัท ศรีอยุธยา แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ AYUD เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจประกันภัยต่อจากนี้ตามตัวเลขของคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) คาดว่าจะเติบโตขึ้นประมาณ 6% และมีเม็ดเงินในธุรกิจประมาณ 7 แสนล้านบาท โดยแบ่งเป็นธุรกิจประกันชีวิตเติบโตมากสุดถึง 15% หรือประมาณ 5 แสนล้านบาท และประกันวินาศภัยเติบโตประมาณ 5-8% หรือประมาณ 2 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ ในส่วนของบริษัท ศรีอยุธยา เจนเนอรัลประกันภัย ซึ่งบริษัทถือหุ้นอยู่ 99% คาดว่าน่าจะมีการเติบโตของรายได้การรับประกันภัยอยู่ในระดับ 2 หลักต้นๆ ได้

“การเติบโตของเบี้ยระดับ 2 หลักเป็นเป้าหมายของปีนี้ ซึ่งปัจจุบันเบี้ยประกันภัยรับของเราอยู่ในอันดับที่ 20 ของธุรกิจประกันวินาศภัย ซึ่งเราต้องการยกอันดับให้ขึ้นมาอยู่ในกลุ่ม 10 อันดับแรกเหมือนกัน แต่เราก็ยังคงเน้นการเติบโตที่ยั่งยืนและมีคุณภาพมากกว่าการเติบโตแต่ด้านปริมาณอย่างเดียว”นายโรวันกล่าว

ด้านนายชูศักดิ์ สาลี กรรมการผู้จัดการ บมจ.ศรีอยุธยา แคปปิตอล กล่าวว่า บริษัทเป็นโฮลดิ้งที่ลงทุนในสินทรัพย์ธุรกิจประกันภัย ซึ่งจะแบ่งการลงทุนเป็น 3 ส่วน คือ 1. การลงทุนในธุรกิจประกันวินาศภัย (ถือหุ้น 99% บมจ.ศรีอยุธา เจเนอรัล ประกันภัย) 2. ธุรกิจประกันชีวิต (ถือหุ้น 20% บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชวิต) 3. พอร์ตลงทุนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจประกันภัย

ทั้งนี้ ล่าสุดคณะกรรมการบริษัทได้มีการอนุมัติขายหุ้นสามัญของบริษัท ซันไรส์ อีควิตี้ จำกัด ซึ่งอยู่ในพอร์ตการลงทุนส่วนที่ 3 ให้แก่ บริษัท ทุนมหาโชค จำกัด และบริษัท ทุนมหาลาภ จำกัด และคาดว่าจะมีรายได้ก่อนการหักภาษีประมาณ 1,900 ล้านบาทเข้ามาในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี โดยบริษัทได้วางแผนนำเงินในส่วนนี้ไปลงทุนเพิ่มเติม โดยอาจเป็นการลงทุนเพิ่มในบริษัทประกันชีวิตหรือการเข้าซื้อบริษัทประกันภัยที่มีปัญหาต่อไป

“เงินส่วนนี้คงต้องเอาไปลงทุนต่อ อาจเป็นการลงทุนถือหุ้นเพิ่มในอลิอันซ์ประกันชีวิต ซึ่งเรามีศักยภาพถือได้ถึง 50% แต่ก็ไม่รู้ว่าทางนั้นจะยอมหรือไม่ ส่วนบริษัทประกันภัยคงต้องเลือกที่พอร์ตมันกระจายตรงกับที่เราต้องการ และจะต้องทำให้บริษัทมีช่องทางการจำหน่ายเพิ่มขึ้นด้วยถึงจะดี ไม่ใช่ว่าเอามาแล้วกลับมาเป็นภาระเพิ่มขึ้นตรงนี้คงต้องดูกันต่อไป”นายชูศักดิ์กล่าว

ประกันชีวิตดันกำไร-จ่อปันผลอีก 1.10 บาท

นายชูศักดิ์ กล่าวอีกว่า ผลประกอบการในปีที่ผ่านมาบริษัทสามารถทำรายได้ทั้งสิ้น 1,908.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.63% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2555 ในขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 589.94 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 6 เท่าจากปีก่อนหน้านี้
สำหรับรายได้และกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นมาจากการรับรู้รายได้และส่วนแบ่งกำไรของ บมจ.ศรีอยุธยา เจเนรัล ประกันภัย และ บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต โดย บมจ.อลิอันซ์ ประกันชีวิตสามารถสร้างผลตอบแทนได้มากที่สุด หรือคิดเป็น 50% ของยอดรวมกำไรสุทธิ ส่วนผลตอบแทนจากธุรกิจประกันวินาศภัยผ่านบริษัท ศรีอยุธยา แคปปิตอลคิดเป็น 25% ของกำไรสุทธิ

ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานดังกล่าวที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีหลังของปี 2556 ในอัตรา 1.10 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดวันขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 14 มีนาคมนี้ และจะขอความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปีในวันที่ 22 เมษายน

ทั้งนี้ หากรวมกับงวดเงินปันผลระหว่างกาลซึ่งได้จ่ายก่อนหน้านี้ไปแล้ว 70 สตางค์ต่อหุ้น จะรวมเป็นเงินปันผลทั้งปี 1.80 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนที่ประมาณ 7.70% ต่อปี


กำลังโหลดความคิดเห็น