ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาเชื่อว่าหลายคนคงได้ยินการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก รวมถึงความน่าลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียเหนือมาพอสมคาร วันนี้ทีมงาน “ASTVผู้จัดการรายวัน” จะพาไปล้วงลึกมุมมองเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจในแถบเอเชียเหนือ รวมถึงเศรษฐกิจและหุ้นไทยถัดไปว่าจะเป็นไปในลักษณะใดบ้าง
สำหรับปัจจัยที่ทำให้หุ้นต่างประเทศน่าสนใจกว่าหุ้นในไทย คือ
1. เศรษฐกิจในประเทศพัฒนาแล้วส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ หรือยุโรป ทำให้การลงทุนในหุ้นมีโอกาสทำกำไรในช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัว
2. ประเทศที่ได้อานิสงส์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และยุโรป ได้แก่ ตลาดเอเชียเหนือ ได้แก่ จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน และฮ่องกง
3. หุ้นไทยมีโอกาสผันผวนจากปัจจัยภายในประเทศ รวมถึงการทยอยถอน QE Tapering ซึ่งจะส่งผลให้เงินไหลออกจากตลาดหุ้นไทย
ระยะยาวหุ้นไทยยังมีเสน่ห์
บลจ.กรุงศรีคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2557 จะฟื้นตัวดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และคาดว่าการบริโภคภาคเอกชนจะขยายตัวดีขึ้นหลังจากหนี้ภาคครัวเรือนมีแนวโน้มลดลง รวมถึงได้รับแรงกระตุ้นจากช่วงมหกรรมฟุตบอลโลก ทั้งนี้ บริษัทยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางของตลาดหุ้นไทยในระยะกลางถึงยาว แม้ว่าในระยะสั้นตลาดหุ้นไทยอาจมีความผันผวนอยู่บ้างจากสถานการณ์ทางการเมืองและการหยุดมาตรการ QE
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยก็ยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและภาวะอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำส่งผลให้การลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงมีความน่าสนใจ มูลค่าตลาดหุ้นไทย (valuation) อยู่ในระดับที่น่าลงทุนเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค เช่น อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยได้ปรับตัวลดลงค่อนข้างมากแล้ว จึงมีโอกาสปรับตัวขึ้นสะท้อนผลประกอบการที่ดีของบริษัทจดทะเบียนซึ่งมีแนวโน้มเติบโตดีอย่างต่อเนื่อง
ส่วน บลจ.ยูโอบีประเมินว่า การลงทุนตลาดหุ้นไทยในปี 2557 นั้นอาจต้องเผชิญกับความผันผวนจากสถานการณ์การเมืองภายในประเทศ โดยในระยะสั้นคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการเบิกจ่ายงบลงทุนของภาครัฐให้เกิดความล่าช้าได้ บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) ได้ประเมินสถานการณ์ วิเคราะห์ตลาด และพิจารณาปัจจัยต่างๆ แล้ว เห็นว่าเป็นโอกาสที่น่าสนใจเพื่อเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทยในขณะนี้
โดยยังมีมุมมองที่ดีต่อการลงทุนระยะกลางถึงระยะยาวจากอัตราการขยายตัวของกำไรของบริษัทจดทะเบียนยังคงมีทิศทางการเจริญเติบโตที่สูงจากการบริโภคและการลงทุนที่เพิ่มขึ้น โดยคาดการณ์การเติบโตของผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 10-15% ในขณะที่มูลค่าหุ้นไทยยังอยู่ในระดับที่ไม่สูงมากนัก โดย P/E อยู่ที่ 11.4 เท่า ซึ่งยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาค และ SET Index น่าจะมีโอกาสปรับตัวสู่ระดับ 1,450-1,500 จุดในปี 2557 นี้
ให้น้ำหนักญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น
ด้าน บลจ.วรรณมองว่า แนวโน้มตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่นในช่วง 2-3 ปีนี้ โดยตั้งแต่ปี 2556 ดัชนี NIKKEI 225 ได้ปรับตัวขึ้นกว่า 50% โดยมีแรงหนุนสำคัญจากสกุลเงินเยนที่อ่อนค่าลงหลังจากทางการญี่ปุ่นได้มีนโยบายการอัดฉีดเงินเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ระบบเศรษฐกิจ รวมไปถึงอานิสงส์จากค่าเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นภายหลังธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ชะลอนโยบายการเงินเชิงปริมาณแบบผ่อนคลาย (QE Tapering) ทำให้ ณ 31 ธ.ค. 56 ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดที่ 105.30 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนับได้ว่าการอ่อนค่าของเงินเยนดังกล่าวเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลดีต่อแนวโน้มกำไรของบริษัทจดทะเบียนญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในกลุ่มส่งออก เช่น กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ และสินค้าทุน มีผลประกอบการที่ดีขึ้นและเป็นที่น่าสนใจในการลงทุนในช่วงนี้
ทั้งนี้ แม้ว่าตลาดปรับขึ้นมากในช่วงปีที่ผ่านมา แต่อัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E) กลับปรับลดลงในปี 2013-2014 มาอยู่ที่ระดับประมาณ 15 เท่าในปี 2014 จากระดับ 16 เท่าในปี 2013 เนื่องจากอัตราการเติบโตของกำไรที่ปรับตัวดีขึ้นกว่าราคาหุ้นที่ปรับสูงขึ้น ซึ่งสวนทางกับตลาดหุ้นอื่นๆ ที่ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นผลักดันให้ PE สูงขึ้น
โดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังมีความน่าสนใจ อีกทั้งทิศทางของการอ่อนค่าของเงินเยนที่เราประเมินไว้ที่ระดับ 110 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ส่งผลดีต่อปัจจัยพื้นฐานและโมเมนตัมต่อการลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เราคาดว่าดัชนี NIKKEI 225 มีโอกาสปรับตัวอยู่ที่ระดับ 18,000-19,000 จุดในปี 2557 หรือประมาณ 20% จากปัจจุบัน สำหรับผู้ที่ต้องการกระจายการลงทุนไปยังตลาดหุ้นญี่ปุ่น แนะนำให้ทยอยซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัวต่ำกว่า 15,600 จุด
ให้น้ำหนักจีนเพิ่มขึ้น
บลจ.ทิสโก้มองว่า ตลาดหุ้นจีนยังมีแนวโน้มที่จะเริ่มดีขึ้นในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ จากนโยบายแผนพัฒนาประเทศที่เน้นเชิงปฏิรูปในเรื่องการเปิดเสรีทางการทำธุรกิจ การกระตุ้นการบริโภคในประเทศ ซึ่งทำให้เกิดดีมานด์ในประเทศและลดการพึ่งพาการส่งออก แมว่าตั้งแต่ต้นปียังไม่สดใสมากจากเรื่องการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน ทำให้เกิดความกังวลว่าจีนจะยังมีสภาพคล่องทางการเงินอยู่สูงแค่ไหน การลงทุนในหุ้นจึงไม่น่าสนใจในช่วงที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม หากเศรษฐกิจจีนมีการชะลอตัวหรือถดถอย ทางรัฐบาลพร้อมที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ทำให้ตลาดหุ้นจีนก็ยังที่จะมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นไปได้ แต่ตอนนี้ตลาดหุ้นจีนยังเป็นไซด์เวย์มาตลอด แต่ก็ทำให้ราคาหุ้นจีนยังไม่ขึ้นไปสูง ตลาดหุ้นจีนจึงยังน่าสนใจ
บลจ.ยูโอบีคาดว่าเศรษฐกิจจีนนั้นยังเติบโตในระดับสูง แม้ว่าจะมีแนวโน้มชะลอลงเล็กน้อยตามเป้าหมายการเสริมสร้างเสถียรภาพของรัฐบาล จากทิศทางเศรษฐกิจโลกดังกล่าวนั้นจะส่งผลดีต่อการขยายตัวของการส่งออกสินค้าและบริการของเศรษฐกิจไทย อีกทั้ง นโยบายทางการเงินที่ผ่อนคลายจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำจะช่วยสนับสนุนให้การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนสามารถขยายตัวได้ คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2557 จะมีอัตราการเจริญเติบโตที่ร้อยละ 4.0
ให้น้ำหนักสหรัฐฯ น้อยลง
ในส่วนของตลาดหุ้นสหรัฐฯ นั้น บลจ.ทิสโก้เห็นว่าเริ่มมีความน่าสนใจลงทุนน้อยลง เนื่องจากตลาดได้สะท้อนภาพการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจตั้งแต่ในปีที่ผ่านมา และราคาหุ้นปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มองว่าการซื้อขายที่ Forward P/E และ P/B ณ ระดับปัจจุบัน แพงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความคาดหวังเชิงบวกของนักลงทุนต่อการเติบโตของกำไรไปแล้ว ทำให้ Upside มีค่อนข้างจำกัด หรืออาจหาจังหวะลงทุนได้เมื่อราคาหุ้นมีการปรับฐานอย่างน้อย 10% จึงเป็นโอกาสเข้าลงทุน
อย่างไรก็ตาม การลงทุนที่ดีนั้นจะต้องมีการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน ภายใต้เงื่อนไขความเสี่ยงที่แต่ละคนจะรับได้ทั้งนี้ นวัตกรรมทางการเงิน การลงทุนนั้นได้พัฒนาเพื่อรองรับความต้องการและความง่ายในการลงทุน หากใครต้องการลงทุนในกองทุนหุ้นประเภทไหนก็ลองศึกษาข้อมูลจะได้ไม่พลาดโอกาสในการลงทุน