xs
xsm
sm
md
lg

KTAM ตั้งเป้า AUM โต 18% เน้นกองอสังหาฯ เติบโตที่ 1

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


KTAM ตั้งเป้า AUM โต 18% รักษาที่ 3 ของอุตสาหกรรม ชูกองอสังหาฯ โตเป็นที่ 1 มองเศรษฐกิจไทยไม่ดี การเมืองยังกระทบ แต่การส่งออกโต มองหุ้นไทยครึ่งปีแรกไม่ดี จับจังหวะออกทริกเกอร์ฟันด์ คาดปลายปีที่ 1,590 จุด

นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมีสินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2556 อยู่ที่ 550,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีอยู่ที่ 516,000 ล้านบาท เนื่องจากมูลค่าสินทรัพย์สุทธิในกองทุนประเภทต่างๆ เพิ่มขึ้น เช่น กองทุนรวมเพิ่มขึ้นจากปี 2556 ประมาณ 74,672 ล้านบาท กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น 60,000 ล้านบาท จากการเพิ่มทุนของกองทุนรวมสิทธิการเช่า อสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า เทสโก้ โลตัส รีเทล โกรท (TLGF) กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ไทยคอนเมอร์เชียล อินเวสเม้นต์ (TCIF) กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยรีเทล อินเวสเม้นต์ (TRIF) และการเปิดจำหน่ายกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ซี.พี.ทาวเวอร์ โกรท (CPTGF) ส่วนกองทุนส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นประมาณ 8,500 ล้านบาท

ทั้งนี้ แผนธุรกิจในปี 2557 นี้บริษัทตั้งเป้า AUM เติบโตไว้ที่ 65,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 18% จากปีที่ผ่านมา โดยจะเป็นการเพิ่มขึ้นจากธุรกิจกองทุนรวม 31,000 ล้านบาท กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์, REITS และกองทุนโครงสร้างพื้นฐานประมาณ 55,000 ล้านบาท กองทุนส่วนบุคคล 6,000 ล้านบาท และกองทุนรวมวายุภักษ์ 20,000 ล้านบาท

“ในปี 2557 บริษัทจะคงเป้าการเติบโตของธุรกิจกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ เป็นที่ 1 ของอุตสาหกรรม ขณะที่กองทุนส่วนบุคคลก็เน้นจับกลุ่มบริษัทเอกชนขนาดกลางและขนาดเล็ก ขณะเดียวกัน ก็รักษาการเป็นที่ 3 ของอุตสาหกรรมไว้”

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในปี 2557 ฝ่ายวิจัยของบริษัทมองว่าปัจจัยบวกมาจากปัจจัยภายนอก ได้แก่ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก จากการขยายตัวของประเทศอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มดีขึ้น และภาวะอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำเป็นปัจจัยสนับสนุนหลัก ส่งผลให้การลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกมีแนวโน้มดีขึ้น แม้ว่าตลาดหุ้นไทยจะได้รับความสนใจน้อยลงจากต่างประเทศ แต่ระดับราคาเชิงเปรียบเทียบอยู่ในระดับที่จูงใจ ก็จะทำให้เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศไหลกลับเข้ามาได้

“การลงทุนในครึ่งปีแรกจะยังไม่สดใสมากนัก จากการลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ และประเทศไทยยังประสบปัญหาการเมือง ซึ่งการลงทุนในระยะสั้นจะขึ้นอยู่กับความคลี่คลายของปัญหาการเมือง แต่ในช่วงครึ่งปีหลังการลงทุนมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ซึ่งระดับ P/E ต่ำกว่า 11 เท่า ลงมาถือว่าเป็นระดับที่น่าสนใจลงทุนระยะยาว บลจ.กรุงไทยมองดัชนีหุ้นไทยสิ้นปีไว้ที่ 1,590 จุด ทาง บลจ.กรุงไทยก็กำลังหาจังหวะออกกองทุนประเภททริกเกอร์ฟันด์เช่นกัน”

นายวีระ วุฒิคงศิริกูล รองกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารสายงานจัดการลงทุน บลจ.กรุงไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2557 เศรษฐกิจไทยยังมีการเติบโตที่ไม่ดี เมื่อเทียบกับสหรัฐฯ และยุโรป ที่ดีขึ้นมา โดยการเมืองไทยที่ยังไม่นิ่ง ซึ่งทาง บลจ.กรุงไทยมองว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะเติบโตที่ระดับ 4.6% ซึ่งเป็นการเติบโตที่มาจากภาคการส่งออกที่ดีขึ้น แต่ในด้านการลงทุนจากภาครัฐไม่น่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากเพราะปัญหาการเมือง ซึ่งหากการเมืองยืดเยื้ออาจกระทบการเติบโตของจีดีพี ให้ลงมาอยู่ที่ระดับ 4-4.1% ได้ ซึ่งหากเศรษฐกิจไม่ดีขึ้นก็อาจจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงได้

“การลงทุนในปีนี้มองว่าการลงทุนของภาครัฐไม่ดี การบริโภคของภาคเอกชนลดลง รวมถึงการท่องเที่ยวที่ลดลง แต่ได้รับการส่งออกที่ดีขึ้นตามปัจจัยเศรษฐกิจโลก ซึ่งหุ้นกลุ่มพลังงานเพิ่งมีความน่าสนใจเพราะราคาลงมาถูก ขณะเดียวกันทาง บลจ.กรุงไทย ก็ถือเงินสดมากขึ้นเพื่อเลือกลงทุนเป็นหุ้นรายตัว”


กำลังโหลดความคิดเห็น